- เข้าร่วม
- 22 มีนาคม 2017
- ข้อความ
- 1
ผมเชื่อว่าผู้ชายหลายๆ คน มีปัญหาเรื่องคาง ไม่ว่าจะคางตัด คางถอย คางสั้น แต่ไม่กล้าทำศัลยกรรม ไม่กล้าเสริมคางกันเพราะกลัวออกมาดูปลอม กลัวโดนล้อว่าสาว วันนี้ผมเลยมาบอกต่อประสบการณ์การเสริมคางที่ Masterpiece Clinic รับประกันว่าไม่ออกมาแหลม ไม่ปลอม ดูเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้เสริม (แต่ดูดีขึ้น) แน่นอน ^^
ดูรูปก่อนทำกันก่อนนะครับ
จากรูปคงสังเกตกันได้ว่า ผมเป็นคนคางตัดและสั้น ทำให้โครงหน้าดูไม่สมส่วน ถ่ายรูปออกมาจะดูแปลกๆ ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจ จริงๆแล้วผมอยากจะฉีดฟิลเลอร์ แต่เห็นคนรอบตัวพอไปฉีดมา นานวันเข้ามันจะดูแหลม บางคนก็ต้องไปเติมอยู่บ่อยๆ เลยรู้สึกว่ามันจุกจิก ดูแลยาก ถ้าจะทำทั้งทีเสริมคางซิลิโคนเลยดีกว่า ทีเดียวจบ
แต่มันไม่ง่ายเลยที่เราจะหาคลินิกเสริมคางดีๆ ลองเสิร์ชในอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ก็เสริมออกมาแหลมไปบ้าง ยาวไปบ้าง ยื่นไปบ้าง เลยได้แต่หาข้อมูลและศึกษาจากรีวิวหลายๆ ที่ รีวิวเสริมคางผู้ชายน้อย แต่ก็เป็นข้อดีให้เราเหลือตัวเลือกน้อยลง จนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกที่ Masterpiece Clinic อยู่ที่สยาม ถ้าถามว่าทำไมเลือกที่นี่ เพราะรีวิวเลยครับ เห็นได้ชัดว่าเสริมออกมาแล้วดูธรรมชาติ ไม่แหลม ไม่แม่มด กำลังพอดีๆ
ข้อดีของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือ ปรึกษาฟรี และได้ปรึกษากับหมอตัวจริง (คุณหมอมีหลายท่านมากๆ คนนึงก็เชี่ยวชาญแตกต่างกันไป เพิ่งมารู้ทีหลังว่าหมอแต่ละคนนี่ตัวท็อปๆ ระดับประเทศทั้งนั้น โดยเฉพาะคุณหมอที่เสริมคางให้ผม หมอต้น ชนกร ลองเสิร์ชดูในกูเกิ้ล) ไม่มีหน้าม้ามาให้คำแนะนำแทนหมอแล้วมาให้รอเจอทีเดียวตอนผ่าตัดแบบหลายๆ ที่ แต่ก็มีข้อเสียนะครับ รู้สึกสถานที่เล็กไป ตอนผมไปรอปรึกษาหมอ คนเยอะมาก จนต้องหาเก้าอี้เสริม เข้าห้องน้ำทีต้องนั่งรอคิวกันเลยทีเดียว ในส่วนของตอนทำ ก็คงต้องบอกเหมือนรีวิวคนอื่นๆ ที่ผมเคยอ่านมานะ ไม่เจ็บ เจ็บแค่ตอนฉีดยา ไม่ได้โกหก แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
รูปหลังทำ (รูปวันที่ 1 – 3 ไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ มีตั้งแต่วันที่ 4 เอาพลาสเตอร์บล็อกกันคางเลื่อนออก)
วันที่ 4
วันที่ 4
วันที่ 5
วันที่ 6
วันที่ 7 เข้าไปตัดไหมที่คลินิก
หลังการผ่าตัด ดูแลง่ายมากครับ แผลอยู่ด้านนอก ผมอาบน้ำปกติ แต่อาบเสร็จต้องรีบเช็ดพลาสเตอร์บล็อกคางให้แห้ง และต้องปิดพลาสเตอร์กันน้ำบริเวณแผลเอาไว้ด้วยนะครับ พอครบ 3 วันเริ่มใช้น้ำเกลือเช็ดแผลให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ ตอนตัดไหมพยาบาลชมเลยครับว่าแผลเข้าที่ไว แผลสวย ไม่รู้ว่าเกี่ยวมั้ยนะ .. ส่วนการใช้ชีวิต ปกติเลย มันไม่เขียวไม่ช้ำ ทานอาหารได้ปกติ แต่เซฟๆ ไว้ก่อนสักอาทิตย์แรกอย่าเพิ่งกินอาหารแข็งๆ แล้วก็ระวังอย่าให้คางกระทบกับอะไรก่อนก็พอครับ ชิลไหมล่ะ ?
วันที่ 15
1 เดือน
3 เดือน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? เห็นความแตกต่างไหม ? ก็จะขอฝากสำหรับคนที่มีความคิดทำคางนะครับ ว่าหลังทำอาจจะไม่ชินหน้าตัวเอง และกว่าจะยุบเข้าที่จริงๆ ต้องใช้เวลา เต็มที่เลย 3 เดือนกำลังดี อาจจะได้ยินคนแซวว่าหน้าแปลก ไม่น่าทำเลย (คิดว่าเจอกันทุกคน) อย่าเพิ่งไปนอยด์ ต้องใจเย็นๆ ครับ คุณหมอเค้าวางซิลิโคนให้พอดี รับสัดส่วนกับใบหน้าเราแน่นอน แค่รอมันยุบบวมเท่านั้น ^^
อ้อ ราคาทำนะครับ 18,000 บาท ไม่รวมค่ายาอีก 1 พันกว่าๆ เท่านั้นครับผม ^^
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน
แก้ไขล่าสุด:
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก