- เข้าร่วม
- 8 มกราคม 2019
- ข้อความ
- 1
สวัสดีค่ะ กลม อรวีนะคะนานๆทีจะมีเวลามาเล่าเรื่องยาวๆ
จริงๆกลมเป็นคนไม่ชอบเขียนค่ะ อ่านแล้วอาจจะรู้สึกติดขัดต้องขอโทษไว้ก่อนล่วงหน้าเนาะ
บางคนอาจจะเคยได้ยิน “กลมThe Voice ” บ้างหรือไม่ก็ “กลมDiva Makeover” บ้างเพราะกลมเคยเข้าแข่งขันทั้งสองรายการเลย 5555555 แต่นั่นแหละค่ะ เรียกกลมเฉยๆก็ได้เหมือนกัน
เหมือนจะเกริ่นมากไป มา มา จะเริ่มเล่าแล้ว พร้อมแล้วยัง?
แปะรูป Before สมัยแข่งเดอะว๊อยซ์ ตอนนั้นร้องเพลง Nobody ของ Wonder Girls นะ ไม่รู้มีใครจำได้ป่าว
เริ่มพาร์ทแรกเลยนะ
[พาร์ท 1 - เตรียมตัวไปเกาหลี]
เราไปประกวดร้องเพลงรายการ Diva Makeover เป็นรายการคล้ายกับ Let me in ผสม The Voice ง่ายๆก็คือคนที่ผ่านเข้ารอบจะได้ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีโดยศัลยแพทย์ชั้นนำของเกาหลีใต้ เรานั่งเครื่องรอบดึกจากไทยมาถึงโซลตอนเช้า ปรึกษาหมอตอนเที่ยงๆแล้วก็ทำเลยวันนั้น จริงๆอยากแนะนำให้วันปรึกษากับวันทำ คนละวันกันจะดีนะ แต่เพราะเราต้องถ่ายรายการ เลยต้องรีบ บวกกับสภาพร่างกายแข็งแรงดี ทีมแพทย์เช็คความปลอดภัยก่อนเริ่มผ่าตัดทุกครั้ง ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร จึงสามารถผ่าตัดได้ตามปกติ
[พาร์ท 2 - ปรึกษา]
ย้อนไปตอนปรึกษาก่อน อย่างแรกที่เราต้องทำ และหมอแนะนำว่าจำเป็นมากๆที่ก็คือ “แก้จมูก”ถ้าดูจากรูปก่อนทำจะเห็นเลยว่าจมูกไม่ได้โด่ง คือไม่เหมือนว่าเคยทำมาก่อนเลยหมอเลยจำเป็นต้องแก้ใหม่และตัดปีกจมูกด้วย ตอนแรกหมอบอกว่ากังวลกับจมูกเราเหมือนกัน เพราะว่าต้องถอดซิลิโคนอันเก่าออกแล้วใส่อันใหม่เข้าไปทีเดียวเลย นอกจากจมูกแล้วก็มีทำตาสองชั้นแบบเย็บคู่กับการแก้ตาปรือให้ตากลมโตขึ้น ที่เหลือก็มีดูไขมันหน้าท้อง เอวและใบหน้า แล้วก็เอาที่ดูดออกมานี่แหละ ฉีดกลับเข้าไปตามหน้าผาก-ขมับให้หน้าดูเด็ก แล้วก็มีร้อยไหมให้หน้าเรียวกับฉีดโบท็อกซ์ สุดท้ายคือ Skin Care
[พาร์ท 3 - ก่อนเข้าผ่าตัด]
ปรึกษาเสร็จปุ๊ปก็มีพนักงานเข้ามาถามสุขภาพเรา แล้วก็ถามรายละเอียดต่างๆก่อนผ่าตัด เสร็จก็รอสักพัก เค้าจะให้เราไปเปลี่ยนชุดในห้อง แล้วห้องเปลี่ยนชุดสวยมาก เหมือนอยู่ยุโรป
มีความแอบถ่าย จริงๆอยากถ่ายเยอะกว่านี้อีกแต่คนอื่นรอ ก็เลยได้เท่านี้ 5555555
พอเปลี่ยนชุดเสร็จ พนักงานก็จะพาไปห้องถ่ายรูป แล้วหมอก็จะเข้ามามาร์คจุดที่จะต้องทำ
แล้วก็ถ่ายรูปอีกครั้ง ก่อนเข้าห้องพนักงานก็จะถามเราก่อนว่าพร้อมมั้ย อยากเข้าห้องน้ำรึเปล่า?
จริงๆไม่ได้ปวดจะเข้าห้องน้ำ แต่มันตื่นเต้นก็เลยขอเข้า
พอเข้าไปทีมแพทย์กำลังเตรียมอุปกรณ์ต่างๆกันให้วุ่นเลย พอขึ้นเขียงแล้วเค้าก็บอกว่ามือซ้ายจะเจาะสายนะ มือขวาจะวัดความดัน ตอนเจาะพยาบาลพูดภาษาไทยด้วย "กำมือๆ" ตอนแรกฟังไม่ออก แต่ล่ามข้างๆช่วยแปลไทยเป็นไทยให้
หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกับเราอีก ก่อนหลับไป ล่ามบอกให้ทำใจสบายๆ ตอนนี้จะเริ่มให้ยาแล้ว เราก็ตื่นเต้นนะแต่หลับตาทีนึงคือหลับยาวเลย 5555555 ตื่นมาอีกทีก็คืออยู่ห้องพัก
[พาร์ท 4 - หลังผ่าตัด]
อย่างนึงที่ชอบเลยคือฮีตเตอร์อุ่นเตียง เพราะเราไปช่วงหน้าหนาวพอเจอแผ่นอุ่นเตียงคือ ฟินมาก บวกกับที่ตัวเองยังไม่สร่างก็เลยนอนไปยาวๆ ตื่นมาอีกทีคือเกือบ 3 ชมหลังผ่าตัดเสร็จ ก็เลยนั่งรถกลับที่พัก กินข้าวเย็น กินยาแล้วก็นอนต่อ วันแรกสำหรับเราโอเคอยู่นะ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาก็เลยยังไม่ค่อยรู้สึกเจ็บหรือปวดอะไรมาก วันที่สองบวมมาก อืดเหมือนหมูอ่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเจ็บ พอมาวันที่สาม ตอนแรกคิดว่าอาการบวมของวันที่ 2 คือที่สุดแล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่! วันที่สามคือพีคสุด เป็นหมูบวมอ่ะ หลังจากวันที่สามอาการต่างๆก็ดีขึ้น รอยช้ำเขียวด้วย ขอตัดมาที่วันที่ 7 เลยนะ
[พาร์ท5 - ตัดไหม และ Follow Up]
วันที่ 7 มาตัดไหมที่โรงพยาบาล หมอก็เช็คแผลให้ ตรวจเช็คผลงาน ของเราปกติดี จมูกที่ก่อนหน้านี้หมอกังวล (เราก็กังวลไปด้วย)ก็ออกมาดีตามที่หวัง วันต่อมาก็บินกลับไทย ช่วงพักฟื้นเราไม่ค่อยมีตัวเองเพราะเป็นกฏของรายการ แต่ว่าจะให้ดูรูปหลังทำให้ดูแทน
ที่สวยได้ขนาดนี้ต้องยกเครดิตให้หมอมูนจาก Les Arts Plastic Surgery และพี่โจ้ Surface
และขอบคุณรายการ Diva Makeover ด้วยที่มอบโอกาสที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอบคุณมากๆค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆคนนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจบ ^^
จริงๆกลมเป็นคนไม่ชอบเขียนค่ะ อ่านแล้วอาจจะรู้สึกติดขัดต้องขอโทษไว้ก่อนล่วงหน้าเนาะ
บางคนอาจจะเคยได้ยิน “กลมThe Voice ” บ้างหรือไม่ก็ “กลมDiva Makeover” บ้างเพราะกลมเคยเข้าแข่งขันทั้งสองรายการเลย 5555555 แต่นั่นแหละค่ะ เรียกกลมเฉยๆก็ได้เหมือนกัน
เหมือนจะเกริ่นมากไป มา มา จะเริ่มเล่าแล้ว พร้อมแล้วยัง?
แปะรูป Before สมัยแข่งเดอะว๊อยซ์ ตอนนั้นร้องเพลง Nobody ของ Wonder Girls นะ ไม่รู้มีใครจำได้ป่าว
เริ่มพาร์ทแรกเลยนะ
[พาร์ท 1 - เตรียมตัวไปเกาหลี]
เราไปประกวดร้องเพลงรายการ Diva Makeover เป็นรายการคล้ายกับ Let me in ผสม The Voice ง่ายๆก็คือคนที่ผ่านเข้ารอบจะได้ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีโดยศัลยแพทย์ชั้นนำของเกาหลีใต้ เรานั่งเครื่องรอบดึกจากไทยมาถึงโซลตอนเช้า ปรึกษาหมอตอนเที่ยงๆแล้วก็ทำเลยวันนั้น จริงๆอยากแนะนำให้วันปรึกษากับวันทำ คนละวันกันจะดีนะ แต่เพราะเราต้องถ่ายรายการ เลยต้องรีบ บวกกับสภาพร่างกายแข็งแรงดี ทีมแพทย์เช็คความปลอดภัยก่อนเริ่มผ่าตัดทุกครั้ง ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร จึงสามารถผ่าตัดได้ตามปกติ
[พาร์ท 2 - ปรึกษา]
ย้อนไปตอนปรึกษาก่อน อย่างแรกที่เราต้องทำ และหมอแนะนำว่าจำเป็นมากๆที่ก็คือ “แก้จมูก”ถ้าดูจากรูปก่อนทำจะเห็นเลยว่าจมูกไม่ได้โด่ง คือไม่เหมือนว่าเคยทำมาก่อนเลยหมอเลยจำเป็นต้องแก้ใหม่และตัดปีกจมูกด้วย ตอนแรกหมอบอกว่ากังวลกับจมูกเราเหมือนกัน เพราะว่าต้องถอดซิลิโคนอันเก่าออกแล้วใส่อันใหม่เข้าไปทีเดียวเลย นอกจากจมูกแล้วก็มีทำตาสองชั้นแบบเย็บคู่กับการแก้ตาปรือให้ตากลมโตขึ้น ที่เหลือก็มีดูไขมันหน้าท้อง เอวและใบหน้า แล้วก็เอาที่ดูดออกมานี่แหละ ฉีดกลับเข้าไปตามหน้าผาก-ขมับให้หน้าดูเด็ก แล้วก็มีร้อยไหมให้หน้าเรียวกับฉีดโบท็อกซ์ สุดท้ายคือ Skin Care
[พาร์ท 3 - ก่อนเข้าผ่าตัด]
ปรึกษาเสร็จปุ๊ปก็มีพนักงานเข้ามาถามสุขภาพเรา แล้วก็ถามรายละเอียดต่างๆก่อนผ่าตัด เสร็จก็รอสักพัก เค้าจะให้เราไปเปลี่ยนชุดในห้อง แล้วห้องเปลี่ยนชุดสวยมาก เหมือนอยู่ยุโรป
มีความแอบถ่าย จริงๆอยากถ่ายเยอะกว่านี้อีกแต่คนอื่นรอ ก็เลยได้เท่านี้ 5555555
พอเปลี่ยนชุดเสร็จ พนักงานก็จะพาไปห้องถ่ายรูป แล้วหมอก็จะเข้ามามาร์คจุดที่จะต้องทำ
แล้วก็ถ่ายรูปอีกครั้ง ก่อนเข้าห้องพนักงานก็จะถามเราก่อนว่าพร้อมมั้ย อยากเข้าห้องน้ำรึเปล่า?
จริงๆไม่ได้ปวดจะเข้าห้องน้ำ แต่มันตื่นเต้นก็เลยขอเข้า
พอเข้าไปทีมแพทย์กำลังเตรียมอุปกรณ์ต่างๆกันให้วุ่นเลย พอขึ้นเขียงแล้วเค้าก็บอกว่ามือซ้ายจะเจาะสายนะ มือขวาจะวัดความดัน ตอนเจาะพยาบาลพูดภาษาไทยด้วย "กำมือๆ" ตอนแรกฟังไม่ออก แต่ล่ามข้างๆช่วยแปลไทยเป็นไทยให้
หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกับเราอีก ก่อนหลับไป ล่ามบอกให้ทำใจสบายๆ ตอนนี้จะเริ่มให้ยาแล้ว เราก็ตื่นเต้นนะแต่หลับตาทีนึงคือหลับยาวเลย 5555555 ตื่นมาอีกทีก็คืออยู่ห้องพัก
[พาร์ท 4 - หลังผ่าตัด]
อย่างนึงที่ชอบเลยคือฮีตเตอร์อุ่นเตียง เพราะเราไปช่วงหน้าหนาวพอเจอแผ่นอุ่นเตียงคือ ฟินมาก บวกกับที่ตัวเองยังไม่สร่างก็เลยนอนไปยาวๆ ตื่นมาอีกทีคือเกือบ 3 ชมหลังผ่าตัดเสร็จ ก็เลยนั่งรถกลับที่พัก กินข้าวเย็น กินยาแล้วก็นอนต่อ วันแรกสำหรับเราโอเคอยู่นะ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาก็เลยยังไม่ค่อยรู้สึกเจ็บหรือปวดอะไรมาก วันที่สองบวมมาก อืดเหมือนหมูอ่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเจ็บ พอมาวันที่สาม ตอนแรกคิดว่าอาการบวมของวันที่ 2 คือที่สุดแล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่! วันที่สามคือพีคสุด เป็นหมูบวมอ่ะ หลังจากวันที่สามอาการต่างๆก็ดีขึ้น รอยช้ำเขียวด้วย ขอตัดมาที่วันที่ 7 เลยนะ
[พาร์ท5 - ตัดไหม และ Follow Up]
วันที่ 7 มาตัดไหมที่โรงพยาบาล หมอก็เช็คแผลให้ ตรวจเช็คผลงาน ของเราปกติดี จมูกที่ก่อนหน้านี้หมอกังวล (เราก็กังวลไปด้วย)ก็ออกมาดีตามที่หวัง วันต่อมาก็บินกลับไทย ช่วงพักฟื้นเราไม่ค่อยมีตัวเองเพราะเป็นกฏของรายการ แต่ว่าจะให้ดูรูปหลังทำให้ดูแทน
ที่สวยได้ขนาดนี้ต้องยกเครดิตให้หมอมูนจาก Les Arts Plastic Surgery และพี่โจ้ Surface
และขอบคุณรายการ Diva Makeover ด้วยที่มอบโอกาสที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอบคุณมากๆค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆคนนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจบ ^^
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก