- เข้าร่วม
- 19 มิถุนายน 2020
- ข้อความ
- 192
พอทราบอายุขวัญตา น้องเอ๋ยพี่มานั่งทำตาปริบปริบ
น้องอายุสามสิบ สามสิบทำไมยังสวย~~~
ขึ้นมาแบบนี้แน่นอนค่ะ เราอายุ 30 กว่าแล้ว แต่บอกเลยว่า 30 ยังแจ๋ว ที่แจ๋วเพราะว่ายังสวย สวยด้วยศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม แก้คางสั้นแบบไม่ใช้ซิลิโคน ทั้งหมดนี้ทำกับคุณหมอคนไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีเลยค่ะ เดี๋ยวมาดูความเปลี่ยนแปลงของเรากัน แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า นี่เป็นกระทู้แรก ถ้าเขียนไม่เข้าใจหรือยังไง ต้องขออภัยมาด้วยนะคะ
ก่อนทำ
ก่อนทำ
ก่อนทำ
เริ่มต้นเลยคือ ดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้า นั่นก็คือ หน้าใหญ่ หน้าใหญ่ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงความใจดี ใจป๋าแต่อย่างใด แต่เป็นหน้าใหญ่ ที่เกิดจาก “กราม” พอหน้าบานกรามใหญ่ ก็ดูคางสั้น ดูมีแก้ม หน้าเหลี่ยมแบบนี้ไม่ชอบเลย กลายเป็นปมด้อยในชีวิต ไม่กล้ามัดผม ทรงผมที่ไว้ต้องไว้ยาว แล้วเอาผมมาปิดๆหน้าทั้ง 2 ข้าง ให้ดูหน้าเรียว และยิ่งเราต้องทำงานที่พบปะลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงาน ต้องคอยระวัง และระแวง กลัวผมที่ปิดไว้จะเปิดเห็นหน้า ต้องคอยเอามือลูบผม จับผมตลอดเวลา ทำให้เสียบุคลิก
ภาพชิ้นกระดูกกรามและไขมันกระพุ้งแก้มของเราเอง กระดูกกรามชิ้นใหญ่ ไขมันแก้มเยอะ สะใจมาก!
หลายครั้งที่มีคนถามว่า เมื่อไหร่จะเปลี่ยนทรงผม? ไว้ผมทรงเดียวไม่เบื่อหรอ? หรือคำถามที่รู้สึกว่าแรงที่สุดก็คือ หน้าเป็นอะไรหรอ? อันนี้คือแบบรู้สึกแย่มาก คนถามบอกว่าสงสัยว่าเราปิดบังอะไรไว้ แบบละครหลังข่าวที่เสียโฉม จนต้องเอาผ้าคลุมหน้าหรือหาอะไรบังไว้
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 1
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 2
คำถามนี้คือจุดเปลี่ยนในชีวิต ในวัย 30 อย่างเรา มันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราปรึกษาแฟน และครอบครัว เพราะการเหลากรามเป็นเรื่องใหญ่ เป็นผ่าตัดใหญ่ มันเกี่ยวกับหน้า เกี่ยวกับกับผ่าตัดโครงหน้า ต้องหาหมอเฉพาะทาง หมอเก่งๆ และต้องหาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งเทคนิคการผ่าตัด และสถานพยาบาลที่ผ่าตัด
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 4
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 5
เราทำงานเกี่ยวกับยา ก็อยู่ในวงการแพทย์อยู่แล้ว ถึงแม้จะคนละสายกัน แต่ก็พอจะรู้จักมักจี่กัน เราเลยไปปรึกษากับคนรู้จักคนหนึ่ง ซึ่งทำงานเกี่ยวกับวงการแพทย์ศัลยกรรมความงาม ว่าเราจะตัดกรามและเสริมคางที่ไหนดี เขาได้แนะนำแพทย์ศัลยศาสตร์ช่องปากให้ (Maxillofacial Surgery) ชื่อคุณหมอคือ ทพ.ดร.อมรพงษ์ วชิรมน ซึ่งแพทย์ท่านนี้เป็นอาจารย์แพทย์ มีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมโครงหน้าเยอะ และเป็นแพทย์ที่อยู่ในรายการ Let me in Thailand ด้วย เราเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้รายการนี้อยู่แล้ว ดูตั้งแต่ยังอยู่ช่องเคเบิลปกติ ก่อนที่รายการจะย้ายไปช่องของตัวเอง จากนั้นก็ไม่รอช้าค่ะ ตัดสินใจติดต่อไปทาง Vertex Clinic คลินิกของอาจารย์อมรพงษ์ที่ท่านเป็นเจ้าของ และดูแลอยู่
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 6
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 10
นัดคิวปรึกษาแพทย์กับทางคลินิกไม่นาน เราก็ได้พบกับคุณหมอ อาจารย์ดูท่าทางใจดี เราเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิต และความต้องการที่อยากจะเปลี่ยนแปลง คุณหมอแนะนำตัดกราม เหลากรามด้วย เทคนิค Nemotec V + ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม + แก้คางสั้นด้วยการเสริมคางไม่ใช้ซิลิโคน เป็นเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองให้เรา ซึ่งเราก็ตกลงทำทั้งหมด เพราะตัดไขมันกระพุ้งแก้มราคาไม่แพง
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 13
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 15
หลายคนที่อ่านรีวิวของเราอาจจะสงสัยว่าตัดกราม ด้วยเทคนิค Nemotec V แตกต่างกับการผ่าตัดมุมกรามแบบทั่วไปอย่างไร นอกจากเรื่องตัดกรามราคาที่แตกต่างกันแล้วนั้น ยังมีข้อเปรียบเทียบอย่างอื่นอีก ซึ่งจากที่เราศึกษาหาข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติมจากคุณหมอในวันปรึกษานั้น คือ เหลากรามด้วยเทคนิค Nemotec V ที่ Vertex Clinic เป็นการวางแผนผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำร่อง พร้อมขึ้นโครงหน้า 3D ให้เห็นผลลัพธ์ก่อนผ่าตัดจริง ระหว่างที่โชว์ผลลัพธ์ เราสามารถตกลงกับหมอได้ว่า เราอยากได้มากหรือน้อยกว่านี้
น้องอายุสามสิบ สามสิบทำไมยังสวย~~~
ขึ้นมาแบบนี้แน่นอนค่ะ เราอายุ 30 กว่าแล้ว แต่บอกเลยว่า 30 ยังแจ๋ว ที่แจ๋วเพราะว่ายังสวย สวยด้วยศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม แก้คางสั้นแบบไม่ใช้ซิลิโคน ทั้งหมดนี้ทำกับคุณหมอคนไทย ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีเลยค่ะ เดี๋ยวมาดูความเปลี่ยนแปลงของเรากัน แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า นี่เป็นกระทู้แรก ถ้าเขียนไม่เข้าใจหรือยังไง ต้องขออภัยมาด้วยนะคะ
ก่อนทำ
ก่อนทำ
ก่อนทำ
เริ่มต้นเลยคือ ดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้า นั่นก็คือ หน้าใหญ่ หน้าใหญ่ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงความใจดี ใจป๋าแต่อย่างใด แต่เป็นหน้าใหญ่ ที่เกิดจาก “กราม” พอหน้าบานกรามใหญ่ ก็ดูคางสั้น ดูมีแก้ม หน้าเหลี่ยมแบบนี้ไม่ชอบเลย กลายเป็นปมด้อยในชีวิต ไม่กล้ามัดผม ทรงผมที่ไว้ต้องไว้ยาว แล้วเอาผมมาปิดๆหน้าทั้ง 2 ข้าง ให้ดูหน้าเรียว และยิ่งเราต้องทำงานที่พบปะลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงาน ต้องคอยระวัง และระแวง กลัวผมที่ปิดไว้จะเปิดเห็นหน้า ต้องคอยเอามือลูบผม จับผมตลอดเวลา ทำให้เสียบุคลิก
ภาพชิ้นกระดูกกรามและไขมันกระพุ้งแก้มของเราเอง กระดูกกรามชิ้นใหญ่ ไขมันแก้มเยอะ สะใจมาก!
หลายครั้งที่มีคนถามว่า เมื่อไหร่จะเปลี่ยนทรงผม? ไว้ผมทรงเดียวไม่เบื่อหรอ? หรือคำถามที่รู้สึกว่าแรงที่สุดก็คือ หน้าเป็นอะไรหรอ? อันนี้คือแบบรู้สึกแย่มาก คนถามบอกว่าสงสัยว่าเราปิดบังอะไรไว้ แบบละครหลังข่าวที่เสียโฉม จนต้องเอาผ้าคลุมหน้าหรือหาอะไรบังไว้
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 1
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 2
คำถามนี้คือจุดเปลี่ยนในชีวิต ในวัย 30 อย่างเรา มันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราปรึกษาแฟน และครอบครัว เพราะการเหลากรามเป็นเรื่องใหญ่ เป็นผ่าตัดใหญ่ มันเกี่ยวกับหน้า เกี่ยวกับกับผ่าตัดโครงหน้า ต้องหาหมอเฉพาะทาง หมอเก่งๆ และต้องหาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งเทคนิคการผ่าตัด และสถานพยาบาลที่ผ่าตัด
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 4
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 5
เราทำงานเกี่ยวกับยา ก็อยู่ในวงการแพทย์อยู่แล้ว ถึงแม้จะคนละสายกัน แต่ก็พอจะรู้จักมักจี่กัน เราเลยไปปรึกษากับคนรู้จักคนหนึ่ง ซึ่งทำงานเกี่ยวกับวงการแพทย์ศัลยกรรมความงาม ว่าเราจะตัดกรามและเสริมคางที่ไหนดี เขาได้แนะนำแพทย์ศัลยศาสตร์ช่องปากให้ (Maxillofacial Surgery) ชื่อคุณหมอคือ ทพ.ดร.อมรพงษ์ วชิรมน ซึ่งแพทย์ท่านนี้เป็นอาจารย์แพทย์ มีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมโครงหน้าเยอะ และเป็นแพทย์ที่อยู่ในรายการ Let me in Thailand ด้วย เราเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้รายการนี้อยู่แล้ว ดูตั้งแต่ยังอยู่ช่องเคเบิลปกติ ก่อนที่รายการจะย้ายไปช่องของตัวเอง จากนั้นก็ไม่รอช้าค่ะ ตัดสินใจติดต่อไปทาง Vertex Clinic คลินิกของอาจารย์อมรพงษ์ที่ท่านเป็นเจ้าของ และดูแลอยู่
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 6
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 10
นัดคิวปรึกษาแพทย์กับทางคลินิกไม่นาน เราก็ได้พบกับคุณหมอ อาจารย์ดูท่าทางใจดี เราเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิต และความต้องการที่อยากจะเปลี่ยนแปลง คุณหมอแนะนำตัดกราม เหลากรามด้วย เทคนิค Nemotec V + ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม + แก้คางสั้นด้วยการเสริมคางไม่ใช้ซิลิโคน เป็นเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองให้เรา ซึ่งเราก็ตกลงทำทั้งหมด เพราะตัดไขมันกระพุ้งแก้มราคาไม่แพง
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 13
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วันที่ 15
หลายคนที่อ่านรีวิวของเราอาจจะสงสัยว่าตัดกราม ด้วยเทคนิค Nemotec V แตกต่างกับการผ่าตัดมุมกรามแบบทั่วไปอย่างไร นอกจากเรื่องตัดกรามราคาที่แตกต่างกันแล้วนั้น ยังมีข้อเปรียบเทียบอย่างอื่นอีก ซึ่งจากที่เราศึกษาหาข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติมจากคุณหมอในวันปรึกษานั้น คือ เหลากรามด้วยเทคนิค Nemotec V ที่ Vertex Clinic เป็นการวางแผนผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำร่อง พร้อมขึ้นโครงหน้า 3D ให้เห็นผลลัพธ์ก่อนผ่าตัดจริง ระหว่างที่โชว์ผลลัพธ์ เราสามารถตกลงกับหมอได้ว่า เราอยากได้มากหรือน้อยกว่านี้
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก