- เข้าร่วม
- 4 สิงหาคม 2017
- ข้อความ
- 185
การศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
หน้าผาก ถือเป็นหนึ่งใน 5 จุดเด่นสำคัญบนใบหน้า ร่วมกับ จมูก, คาง และโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง ดังนั้น การเสริมหน้าผาก ถือเป็นการเพิ่มจุดเด่นส่วนบนของใบหน้า สำหรับข้อดีของการเสริมหน้าผากนั้นคือ เป็นการเติมเต็มส่วนบนของใบหน้า และทำให้โครงหน้าสมดุล โดยเฉพาะคนไข้ที่ต้องการเสริมจมูก แต่หน้าผากไม่มีความนูน อาจจะเสริมจมูกให้สูงมากไม่ได้ เพราะจะไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีการเสริมหน้าผาก ทำอย่างไร?
การเสริมหน้าผาก ในสมัยก่อนการเสริมหน้าผาก จะทำโดยการฉีดสารเติมเต็ม หรือไขมันตัวเอง เพื่อเพิ่มความนูนของหน้าผาก แต่เนื่องจากหน้าผากเป็นจุดที่มีพื้นที่น้อย หากฉีดฟิลเลอร์ไม่ดีพอ จะเกิดรอยตะปุ่มตะป่ำชัด ผิวไม่เรียบ และมีโอกาสไหลได้ ในบางรายอาจเกิดภาวะการไหลเข้าสู่บริเวณดวงตา ทำให้การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม หรือไขมันจึงไม่เป็นที่นิยม
ภาพแสดงตัวอย่างแผ่นซิลิโคนเสริมหน้าผาก
ดังนั้น ในปัจจุบันเทคนิคการเสริมหน้าผากที่ดีที่สุด คือ การเสริมด้วยแผ่นซิลิโคน ซึ่งข้อดีของการเสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคน คือ สามารถเลือกความสูง หรือความนูนของหน้าผากได้ โดยแผ่นซิลิโคน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับคือ นูนน้อย, นูนปานกลาง และนูนสูง ขึ้นอยู่กับโครงสร้างหน้าผากของแต่ละบุคคล หากเป็นคนที่ไม่มีหน้าผากเลย อาจจะต้องเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนที่มีความนูนสูง นอกจากนี้ ผลแทรกซ้อนทางการแพทย์ยังพบน้อยกว่าการฉีดสารต่างๆ และหากเกิดปัญหาในภายหลังก็สามารถแก้ไขหรือเอาออกได้
การเสริมหน้าผาก ถือเป็นศัลยกรรมที่มีความละเอียด แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และความชำนาญสูง เนื่องจากหลังจากเสริมหน้าผากแล้ว ขอบของซิลิโคนต้องราบไปกับผิว ไม่เช่นนั้นอาจจะคลำ หรือเห็นขอบได้ ดังนั้น วัสดุต้องเป็นวัสดุที่ดี แพทย์ต้องวางขอบให้เรียบ รวมทั้ง สัดส่วนต้องเข้ากับใบหน้าด้วย
การผ่าตัดทำอย่างไร
แม้การเสริมหน้าผาก จะเป็นศัลยกรรมที่มีความละเอียด ซับซ้อน แต่การผ่าตัดใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง โดยแพทย์จะทำการฉีดยาชา ก่อนจะเปิดแผลเป็นช่องเล็กๆ บริเวณไรผม และใส่ซิลิโคนเข้าไปด้านใน ดังนั้น แผลจะถูกซ่อนอยู่ในไรผมด้านบน เป็นแผลเล็กๆ ซึ่งการเสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคนจะสามารถอยู่ได้ถาวร เช่นเดียวกับการเสริมจมูก
การดูแลหลังผ่าตัด หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ ห้ามสระผม เนื่องจากแผลอยู่บริเวณไรผม หลังจากครบ 1 สัปดาห์ สามารถทำการตัดไหมได้
3D MODEL เทคโนโลยีใหม่เพื่อการรักษา
ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมหน้าผากมีเทคโนโลยีใหม่ เป็นลักษณะโมเดล 3 มิติ คล้ายกะโหลกจำลองโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการเพื่อการรักษาในคนไข้ที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น กรณีเกิดอุบัติเหตุกะโหลกศีรษะยุบ หรือคนไข้ที่ศีรษะผิดรูปตั้งแต่กำเนิด ซึ่งไม่สามารถนำซิลิโคนหน้าผากธรรมดามาเสริมได้ เพราะผิดรูป โดยแพทย์จะทำการ CT SCAN คนไข้ เพื่อผลิตเป็นรูปปั้นจำลอง และหล่อซิลิโคนออกมาเป็นซิลิโคนเสริมหน้าผากสำหรับคนไข้รายนั้นๆ ซึ่งข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายสูง แต่ข้อดีคือ จะมีความพอดีกับหน้าผากของบุคคลนั้น ซึ่งในประเทศไทยได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว
ภาพตัวอย่าง 3D MODEL
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
หน้าผาก ถือเป็นหนึ่งใน 5 จุดเด่นสำคัญบนใบหน้า ร่วมกับ จมูก, คาง และโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง ดังนั้น การเสริมหน้าผาก ถือเป็นการเพิ่มจุดเด่นส่วนบนของใบหน้า สำหรับข้อดีของการเสริมหน้าผากนั้นคือ เป็นการเติมเต็มส่วนบนของใบหน้า และทำให้โครงหน้าสมดุล โดยเฉพาะคนไข้ที่ต้องการเสริมจมูก แต่หน้าผากไม่มีความนูน อาจจะเสริมจมูกให้สูงมากไม่ได้ เพราะจะไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีการเสริมหน้าผาก ทำอย่างไร?
การเสริมหน้าผาก ในสมัยก่อนการเสริมหน้าผาก จะทำโดยการฉีดสารเติมเต็ม หรือไขมันตัวเอง เพื่อเพิ่มความนูนของหน้าผาก แต่เนื่องจากหน้าผากเป็นจุดที่มีพื้นที่น้อย หากฉีดฟิลเลอร์ไม่ดีพอ จะเกิดรอยตะปุ่มตะป่ำชัด ผิวไม่เรียบ และมีโอกาสไหลได้ ในบางรายอาจเกิดภาวะการไหลเข้าสู่บริเวณดวงตา ทำให้การเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม หรือไขมันจึงไม่เป็นที่นิยม
ภาพแสดงตัวอย่างแผ่นซิลิโคนเสริมหน้าผาก
ดังนั้น ในปัจจุบันเทคนิคการเสริมหน้าผากที่ดีที่สุด คือ การเสริมด้วยแผ่นซิลิโคน ซึ่งข้อดีของการเสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคน คือ สามารถเลือกความสูง หรือความนูนของหน้าผากได้ โดยแผ่นซิลิโคน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับคือ นูนน้อย, นูนปานกลาง และนูนสูง ขึ้นอยู่กับโครงสร้างหน้าผากของแต่ละบุคคล หากเป็นคนที่ไม่มีหน้าผากเลย อาจจะต้องเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนที่มีความนูนสูง นอกจากนี้ ผลแทรกซ้อนทางการแพทย์ยังพบน้อยกว่าการฉีดสารต่างๆ และหากเกิดปัญหาในภายหลังก็สามารถแก้ไขหรือเอาออกได้
การเสริมหน้าผาก ถือเป็นศัลยกรรมที่มีความละเอียด แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และความชำนาญสูง เนื่องจากหลังจากเสริมหน้าผากแล้ว ขอบของซิลิโคนต้องราบไปกับผิว ไม่เช่นนั้นอาจจะคลำ หรือเห็นขอบได้ ดังนั้น วัสดุต้องเป็นวัสดุที่ดี แพทย์ต้องวางขอบให้เรียบ รวมทั้ง สัดส่วนต้องเข้ากับใบหน้าด้วย
การผ่าตัดทำอย่างไร
แม้การเสริมหน้าผาก จะเป็นศัลยกรรมที่มีความละเอียด ซับซ้อน แต่การผ่าตัดใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง โดยแพทย์จะทำการฉีดยาชา ก่อนจะเปิดแผลเป็นช่องเล็กๆ บริเวณไรผม และใส่ซิลิโคนเข้าไปด้านใน ดังนั้น แผลจะถูกซ่อนอยู่ในไรผมด้านบน เป็นแผลเล็กๆ ซึ่งการเสริมหน้าผากด้วยแผ่นซิลิโคนจะสามารถอยู่ได้ถาวร เช่นเดียวกับการเสริมจมูก
การดูแลหลังผ่าตัด หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ ห้ามสระผม เนื่องจากแผลอยู่บริเวณไรผม หลังจากครบ 1 สัปดาห์ สามารถทำการตัดไหมได้
3D MODEL เทคโนโลยีใหม่เพื่อการรักษา
ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมหน้าผากมีเทคโนโลยีใหม่ เป็นลักษณะโมเดล 3 มิติ คล้ายกะโหลกจำลองโดยเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการเพื่อการรักษาในคนไข้ที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น กรณีเกิดอุบัติเหตุกะโหลกศีรษะยุบ หรือคนไข้ที่ศีรษะผิดรูปตั้งแต่กำเนิด ซึ่งไม่สามารถนำซิลิโคนหน้าผากธรรมดามาเสริมได้ เพราะผิดรูป โดยแพทย์จะทำการ CT SCAN คนไข้ เพื่อผลิตเป็นรูปปั้นจำลอง และหล่อซิลิโคนออกมาเป็นซิลิโคนเสริมหน้าผากสำหรับคนไข้รายนั้นๆ ซึ่งข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายสูง แต่ข้อดีคือ จะมีความพอดีกับหน้าผากของบุคคลนั้น ซึ่งในประเทศไทยได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว
ภาพตัวอย่าง 3D MODEL
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos