หน้าผากสวย รวยทรัพย์ไม่รู้ตัว (Lisa)
หน้าผากถือเป็นจุดรับทรัพย์ตามความเชื่อทางโหงวเฮ้ง โดยเฉพาะกับสาว ๆ ในช่วงอายุ 15-30 ปี หน้าผากโหนกนูนสวยช่วยเสริมโชคชะตาได้เป็นอย่างดี เสริมแล้วได้ทั้งโชคทั้งความสวยเลยเนอะ
เสริมด้วยไขมันสไตล์ธรรมชาติ
สาวเกาหลีถือเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่หันมาเสริมหน้าผากอย่างนี้ก็ต้องขอคำแนะนำจากต้นตำหรับ พญ.ซอง โซยอง แพทย์ผู้ก่อตั้ง Beauty Start Clinic มาช่วยอธิบายวิธีสุดฮิตจากเกาหลี
สวยไม่สวยขึ้นอยู่กับแพทย์
อันดับแรกทางแพทย์จะดูสัดส่วนในภาพรวมของคนไข้ทั้งด้านตรงและด้านข้าง โดยที่ด้านตรงเวลามองจะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเล็ก ส่วนด้านข้างนั้นจะทำให้ดูอ่อนหวาน ใบหน้าดูมีมิติ และดูเด็กลงเช่นกัน แพทย์จึงต้องมีความชำนาญอย่างมาก ส่วนคนที่มีหน้าผากโหนกนูนออกมาหรือคนที่หน้าผากเถิก ถ้ายิ่งฉีดเข้าไปจะทำให้หน้าผากดูกว้างขึ้น
ขั้นตอนการฉีด
การฉีดไขมันนั้นจะทำให้หน้าผากเต่งตึงและโหนกนูนออกมาได้พอดี แลดูเป็นธรรมชาติ ส่วนขั้นตอนการทำก่อนอื่นก็จะดูดไขมันออกมาจากส่วนที่มีปัญหาอย่างต้นขา หน้าท้อง แล้วนำมาฉีดในส่วนอื่นต่อไป โดยคุณหมอจะทำสัญลักษณ์เอาไว้เพื่อให้มีความแม่นยำในปริมาณที่จะฉีดเข้าไป โดยจะฉีดเข้าไปที่กลางหน้าผากและขมับทั้งสองข้างเพื่อให้สมดุล
การดูแลหลังทำ
หลังฉีดจะมีเพียงรอยเข็ม ไม่มีปัญหาปวดบวมเท่าไหร่ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ช่วง 1-2 เดือน ห้ามชาวน่าเป็นอันขาด ไม่ควรที่จะอดอาหารเพราะจะทำให้ไขมันหายไปค่อนข้างเร็ว และงดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งจะทำให้ผลอยู่ได้เป็นปี และสามารถฉีดเพิ่มได้
เสริมซิลิโคนสวยถาวร
ในบางคนที่ต้องการสวยแบบถาวร นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ จาก AIC ศูนย์นวัตกรรมความงาม มีอีกวิธีมาให้ศึกษาไว้เป็นทางเลือก
เจ็บครั้งใหญ่ แต่สวยไปอีกนาน
การผ่าตัดใส่แผ่นซิลิโคนเข้าไปที่หน้าผากนั้นถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีการพักฟื้นเป็นเวลาร่วมเดือน เหมาะสำหรับผู้ต้องการได้ผลแบบถาวร แต่ต้องแลกมาพร้อมความเจ็บพอสมควร และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน
ขั้นตอนการทำ
แพทย์จะทำการเปิดหน้าผากบริเวณใต้แนวผมเพื่อซ่อนแผลโดยการผ่าจะลงลึกไปถึง ชั้นกระดูกเพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อน เพราะผิวที่หน้าผากนั้นบาง การใส่ซิลิโคนเข้าไปลึก ๆ จึงจะให้ผลที่เป็นธรรมชาติที่สุด และวัสดุที่ใช้ก็นิ่มมาก เพื่อให้เวลาที่สัมผัสจะไม่รู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอม
การดูแลหลังทำ
คนใช้จะต้องพักฟื้นเพื่อให้แผลสมานตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ เพราะถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงเสี่ยงต่อการอักเสบเหมือนการผ่าตัดใหญ่อื่น ๆ
Dr. Note
นพ.พุฒิพงศ์ ยังฝากเตือนอีกว่าจริง ๆ แล้วบนใบหน้านั้นมีอยู่ 2 จุด ที่หากเลี่ยงการผ่าได้ควรหลีกเลี่ยง คือหน้าผากกับคาง เพราะต้องพักฟื้นนาน และผลออกมาก็ยังดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ โดยควรใช้การฉีดฟิลเลอร์ และใช้เทคนิคฉีดที่ชั้นกระดูกคล้าย ๆ กับการผ่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ที่มา kapook.com
