“สเต็มเซลล์คืออะไร มีดีอย่างไร”
เซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cellเป็นเซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่จำเพาะ สามารถเจริญเติบโต แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ เพื่อไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะเพื่อสร้างเซลล์ต้นกำเนิดเพิ่มหรือกลายเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้
จัดตามแหล่งที่ได้มาเป็น 2 ชนิด คือ
· เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (Embryonic Stem Cell) ที่ยังอยู่ในครรภ์
· เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (Adult Stem Cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย เช่น จากไขกระดูก เลือด ผิวหนัง ฟันน้ำนม เป็นต้น
สาเหตุที่มีการนำมาศึกษาเรื่องสเต็มเซลล์สำหรับการรักษาทั่วไป เพราะมีคนไข้บางส่วนไม่ตอบสนองต่อยา หรือเครื่องมือซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้วิธีเซลล์บำบัด การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและการปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
“สเต็มเซลล์ + ความงาม ???? ”
สำหรับตลาดความงามที่กำลังให้ความสนใจคือในเรื่องของเสต็มเซลล์เพื่อการลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging Therapy) เป็นอย่างมาก ซึ่งอย่างที่ทราบว่าสเต็มเซลล์จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่สึกหรอ และทำให้เซลล์ที่ป่วยตายกลับมาเกิดใหม่ได้อีกครั้ง โดยพัฒนามาทั้งในรูปแบบของสบู่ ,อาหารเสริม, ครีม, เซรั่ม ,ยาฉีด
สเต็มเซลล์ส่วนใหญ่สกัดได้มาจาก พืช (เช่น ผลทับทิม , ผลแอปเปิ้ลเขียว ,ว่านหางจระเข้ ,สาหร่ายคอมบุ, ต้นCriste Marine , ผล Black Currant , เมล็ดองุ่น ,ใบมะกอก , ใบชาเขียว, ฯลฯ )
สเต็มเซลล์ที่มาจากสัตว์ (เช่น วัว ,รกแกะ,ปลาแซลมอน) สเต็มเซลล์แต่ละชนิดที่กว่าจะสกัดได้มาให้มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้สอดคล้องกับเซลล์ของมนุษย์ได้นั้นมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนและยุ่งยาก
เนื่องจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดต้องใช้อาหารเพาะเลี้ยงชนิดพิเศษ ควบคุมอุณหภูมิ ความเป็นกรดด่างอย่างดี แต่เซลล์ต้นกำเนิดที่อยู่ในเครื่องสำอางไม่สามารถมีชีวิตและเติบโตแบ่งตัวได้ ซึ่งการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดพืชต้องมีการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์โดยใช้อาหารเพาะเลี้ยงพิเศษ เพื่อช่วยให้สเต็มเซลล์ที่เลี้ยงในห้องทดลองสามารถผลิตสารสำคัญที่มีประโยชน์ออกมาได้ แล้วจึงสกัดสารสำคัญจากสเต็มเซลล์มาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง แต่ไม่สามารถนำสเต็มเซลล์ที่มีชีวิตมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากรกสัตว์ ยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคปนเปื้อน แพ้ระคายเคืองเป็นอันตรายได้ ซึ่งต้องบริโภคอย่างมีวิจารณญาณจะได้ไม่ถูกหลอกลวงจากแหล่งข้อมูล
“ คนดังกับสเต็มเซลล์ ”
ถึงแม้ว่าวิธีการฉีดเสต็มเซลล์จะยังไม่ผ่านการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทย แต่เราอาจเคยได้ยินว่ามีผู้ไปใช้บริการเทคนิคนี้ที่ต่างประเทศกันมาบ้าง ดังที่ได้ยินข่าวว่าเหล่าดารา และเซเลป โดยส่วนใหญ่เป็นการฉีดเข้าใบหน้า สะโพกและไขสันหลังบ้าง หรือจะทำทรีทเมนท์เพื่อเป็นการรักษาฟื้นฟูสภาพเซลล์ส่วนที่ต้องการ รวมถึงการลดเลือนริ้วรอย ให้ดูอ่อนเยาว์ลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ราคาส่วนใหญ่จะแพงลิบลิ่ว จึงทำมีผู้ใช้บริการระดับแถวหน้าเท่านั้นที่เข้าใช้บริการเกี่ยวกับสเต็มเซลล์
เจนิซ ดิกคินสัน เป็นนางแบบรุ่นแรก ๆ ของโลก และเป็นกรรมการให้กับรายการ "อเมริกาส์ เน็กซ์ ท็อป โมเดล"
ลงทุนเดินทางไปที่จีนเพื่อเข้าคอร์สสเต็มเซลล์ในการปรับรูปหน้าให้ดูสวยอ่อนวัยขึ้น
คิม คาเดเชียน เซเลบรีตี้ชื่อดังทำคอร์สเจ้าสาวสเต็มเซลล์หน้า
มิเชล โอบามา (ภริยาของนายบารัคโอบาม่า) ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสเต็มเซลล์
ในเซเลป/ดาราในไทยก็ไม่พลาดที่จะดูแลตัวเองด้วยสเต็มเซลล์เช่นเดียวกัน
“สเต็มเซลล์ที่ได้จากตัวคุณ (Stem Cell Matrix-Gold)”
นอกเหนือจากการใช้สเต็มเซลล์ของพืชและสัตว์อื่นมาใช้ในด้านความงามแล้ว ณ ตอนนี้ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย นั่นคือ เลือด จากเทคนิคที่เรียกว่า Vampire Facelift นำมาใช้ในการลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูเซลล์เพื่อให้ใบหน้า อ่อนเยาว์ ตึงกระชับขึ้นได้
ภาพตัวอย่างผู้เข้ารับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์สีทอง
จากเครื่อง SELPHYL®
จุดสำคัญต่างๆที่ได้รับการรักษา ได้แก่ ร่องน้ำตา (tear trough),รอยย่น รอบ ดวงตา หรือรอยตีนกา(Crows feet),ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม (Nasolabial folds),ร่องน้ำหมาก (marionette line)/จุดเว้าสุดขากรรไกรล่าง ส่วนที่เป็นเนิ้อเยื่ออ่อน (labiomental fold), ลำคอ (neck line),เนินอก (Decolletage),ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และ ผิวหน้า Wrinkle and texture, ปรับระดับและผิวหน้า (Volume and texture), รวมไปถึงการคืนความอ่อนเยาว์ทั้งหมดบนใบหน้า (facial rejuvenation)
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
https://www.facebook.com/selphyl/
http://selphyl.com/
https://th.wikipedia.org/wiki/เซลล์ต้นกำเนิด
http://www.manager.co.th/celebonline
http://www.puntipclinic.com
http://www.express.co.uk/celebrity-news/441741/Janice-Dickinson
เซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cellเป็นเซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่จำเพาะ สามารถเจริญเติบโต แบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ เพื่อไปเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะเพื่อสร้างเซลล์ต้นกำเนิดเพิ่มหรือกลายเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้
จัดตามแหล่งที่ได้มาเป็น 2 ชนิด คือ
· เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (Embryonic Stem Cell) ที่ยังอยู่ในครรภ์
· เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (Adult Stem Cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย เช่น จากไขกระดูก เลือด ผิวหนัง ฟันน้ำนม เป็นต้น
สาเหตุที่มีการนำมาศึกษาเรื่องสเต็มเซลล์สำหรับการรักษาทั่วไป เพราะมีคนไข้บางส่วนไม่ตอบสนองต่อยา หรือเครื่องมือซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้วิธีเซลล์บำบัด การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและการปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
“สเต็มเซลล์ + ความงาม ???? ”
สำหรับตลาดความงามที่กำลังให้ความสนใจคือในเรื่องของเสต็มเซลล์เพื่อการลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging Therapy) เป็นอย่างมาก ซึ่งอย่างที่ทราบว่าสเต็มเซลล์จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่สึกหรอ และทำให้เซลล์ที่ป่วยตายกลับมาเกิดใหม่ได้อีกครั้ง โดยพัฒนามาทั้งในรูปแบบของสบู่ ,อาหารเสริม, ครีม, เซรั่ม ,ยาฉีด
เนื่องจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดต้องใช้อาหารเพาะเลี้ยงชนิดพิเศษ ควบคุมอุณหภูมิ ความเป็นกรดด่างอย่างดี แต่เซลล์ต้นกำเนิดที่อยู่ในเครื่องสำอางไม่สามารถมีชีวิตและเติบโตแบ่งตัวได้ ซึ่งการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดพืชต้องมีการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์โดยใช้อาหารเพาะเลี้ยงพิเศษ เพื่อช่วยให้สเต็มเซลล์ที่เลี้ยงในห้องทดลองสามารถผลิตสารสำคัญที่มีประโยชน์ออกมาได้ แล้วจึงสกัดสารสำคัญจากสเต็มเซลล์มาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง แต่ไม่สามารถนำสเต็มเซลล์ที่มีชีวิตมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากรกสัตว์ ยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคปนเปื้อน แพ้ระคายเคืองเป็นอันตรายได้ ซึ่งต้องบริโภคอย่างมีวิจารณญาณจะได้ไม่ถูกหลอกลวงจากแหล่งข้อมูล
“ คนดังกับสเต็มเซลล์ ”
ถึงแม้ว่าวิธีการฉีดเสต็มเซลล์จะยังไม่ผ่านการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทย แต่เราอาจเคยได้ยินว่ามีผู้ไปใช้บริการเทคนิคนี้ที่ต่างประเทศกันมาบ้าง ดังที่ได้ยินข่าวว่าเหล่าดารา และเซเลป โดยส่วนใหญ่เป็นการฉีดเข้าใบหน้า สะโพกและไขสันหลังบ้าง หรือจะทำทรีทเมนท์เพื่อเป็นการรักษาฟื้นฟูสภาพเซลล์ส่วนที่ต้องการ รวมถึงการลดเลือนริ้วรอย ให้ดูอ่อนเยาว์ลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ราคาส่วนใหญ่จะแพงลิบลิ่ว จึงทำมีผู้ใช้บริการระดับแถวหน้าเท่านั้นที่เข้าใช้บริการเกี่ยวกับสเต็มเซลล์
เจนิซ ดิกคินสัน เป็นนางแบบรุ่นแรก ๆ ของโลก และเป็นกรรมการให้กับรายการ "อเมริกาส์ เน็กซ์ ท็อป โมเดล"
ลงทุนเดินทางไปที่จีนเพื่อเข้าคอร์สสเต็มเซลล์ในการปรับรูปหน้าให้ดูสวยอ่อนวัยขึ้น
คิม คาเดเชียน เซเลบรีตี้ชื่อดังทำคอร์สเจ้าสาวสเต็มเซลล์หน้า
มิเชล โอบามา (ภริยาของนายบารัคโอบาม่า) ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสเต็มเซลล์
นอกเหนือจากการใช้สเต็มเซลล์ของพืชและสัตว์อื่นมาใช้ในด้านความงามแล้ว ณ ตอนนี้ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์จากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย นั่นคือ เลือด จากเทคนิคที่เรียกว่า Vampire Facelift นำมาใช้ในการลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูเซลล์เพื่อให้ใบหน้า อ่อนเยาว์ ตึงกระชับขึ้นได้
โดยต้องอาศัยเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อช่วยเตรียมเลือดในเทคนิคดังกล่าว มีกระบวนการ ชื่อ Platelet Rich Plasma (PRP) ซึ่งจะได้เกล็ดเลือด (platelet) ที่มีความเข้มข้นกว่าเลือดทั่วไป 3-4 เท่า ประกอบไปด้วยสารที่สำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด และ สารที่กระตุ้นให้เซลล์มีการเพิ่มจำนวน การเจริญเติบโต และพัฒนาการของเซลล์ (Growth Factor) แต่กระบวนการเตรียม PRP อาจมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนติดเชื้อขึ้นมาได้ เกล็ดเลือดที่ได้ยังมีส่วนประกอบอื่นปนอยู่
จึงได้มีการนำวิวัฒนาการขั้นสูงกว่า เรียกว่า Platelet-Rich Fibrin Matrix (PRFM) ที่สามารถแยกเซลล์ แยกเม็ดเลือดแดงออกจากพลาสมาได้เกือบทั้งหมด พลาสมาที่ได้จึงมีสีเหลืองทอง Matrix Liquid Gold™ โดยเครื่องมือนี้ชื่อว่า SELPHYL®
จากคุณสมบัติที่สร้างมวลของผิวหนัง ทั้งคอลลาเจน อิลาสติน และ ไฮยารูโลนิค ไปพร้อมๆ กันด้วยตัวเองตามขบวนการทางธรรมชาติ ใช้เวลาในการสร้างเซลล์ใหม่เพียง 1-2 สัปดาห์ ผลที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติ ทำให้สารสีเหลืองทองนี้ ได้ชื่อว่าเป็น สเต็มเซลล์สีทอง (Stemcell matrix-gold) ที่ได้จากตัวเราเองภาพตัวอย่างผู้เข้ารับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์สีทอง
จากเครื่อง SELPHYL®
จุดสำคัญต่างๆที่ได้รับการรักษา ได้แก่ ร่องน้ำตา (tear trough),รอยย่น รอบ ดวงตา หรือรอยตีนกา(Crows feet),ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม (Nasolabial folds),ร่องน้ำหมาก (marionette line)/จุดเว้าสุดขากรรไกรล่าง ส่วนที่เป็นเนิ้อเยื่ออ่อน (labiomental fold), ลำคอ (neck line),เนินอก (Decolletage),ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และ ผิวหน้า Wrinkle and texture, ปรับระดับและผิวหน้า (Volume and texture), รวมไปถึงการคืนความอ่อนเยาว์ทั้งหมดบนใบหน้า (facial rejuvenation)
เทคโนโลยีสเต็มเซลล์สีทอง (Stemcell matrix-gold) นั้นมีประโยชน์ต่อวงการความงามในการรักษาด้านการลดเลือนริ้วรอย ที่เห็นได้เด่นชัดกว่าการฉีดรักษาสเต็มเซลล์จากแหล่งอื่น คือ ไม่ต้องเสียเวลาในการเพาะเลี้ยงเซลล์ในห้องทดลอง เข้ากับเรามากที่สุด เพราะเป็นเสต็มเซลล์ธรรมชาติจากตัวคุณ ที่ตอบโจทย์ความเป็นธรรมชาติอย่างปลอดภัย และที่สำคัญค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการฉีดสเต็มเซลล์ทั่วไปซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง มีออร่า โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งแปลกปลอมอย่าง ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เลยแม้แต่นิดเดียว ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
https://www.facebook.com/selphyl/
http://selphyl.com/
https://th.wikipedia.org/wiki/เซลล์ต้นกำเนิด
http://www.manager.co.th/celebonline
http://www.puntipclinic.com
http://www.express.co.uk/celebrity-news/441741/Janice-Dickinson
แก้ไขล่าสุด: