- เข้าร่วม
- 3 มีนาคม 2015
- ข้อความ
- 54
หมอไกรวิทย์ เฮงสวัสดิ์ ผิวขาวอมชมพู ผิวที่หลายคนปรารถนา Artebeauteclinic
ด้วยกระแสนิยมของคนไทย มักจะชื่นชมคนที่มีผิวขาวมากกว่าผู้ที่มีสีผิวดำคล้ำ แต่จะมีสักกี่คนที่มีผิวขาวอมชมพูมา ตั้งแต่กำเนิด เพราะเอาเข้าจริงที่เราเห็นเดินเฉิดฉายด้วยผิวพรรณเปล่งประกาย ขาวสะดุดตานั้น กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านการดูแลบำรุงผิวมาหลากหลายวิธี จึงไม่แปลกที่สาวๆ (รวมถึงหนุ่มๆ) มักทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งผิวขาวอมชมพู มีออร่า ทั้งนี้ วิธีการก็มีอยู่สารพัดให้เราเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ผิว ใช้ครีมบำรุงผิว หรือบางรายใช้วิธีฉีดสีผิวที่เห็นผลกันแบบรวดเร็วทันใจ
จริงๆแล้วสิ่งที่ดีที่สุดในการทำให้ผิวขาวอมชมพู ก็คือวิธีการแบบธรรมชาติ แม้จะเห็นผลช้า ไม่ทันใจวัยรุ่น แต่เป็นการทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส เปล่งปลั่งมาจากภายใน ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว วันนี้เราขอแนะนำการรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าในเรื่องผิวพรรณมาให้ท่านผู้ อ่านลองปฏิบัติกัน อย่างไรก็ดี ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการขับสารพิษ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อสุขภาพดีไม่มีโรคภัย จะเป็นส่วนช่วยให้ผิวของเราขาวอมชมพูได้อย่างเป็นธรรมชาติ
1.มะละกอ เป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำ หาซื้อง่ายในทุกฤดูกาล ซึ่งเจ้ามะละกอมีแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งแตกตัวเป็นวิตามินเอ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม นอกจากสามารถป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยปกป้องรักษาผิวพรรณให้ชุ่มชื่น แลดูอ่อนเยาว์อีกด้วย โดยควรบริโภค 200 กรัม หรือประมาณชามก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ซึ่ง คุณค่าของสารอาหารวิตามินเอ จะเข้มข้นอยู่ตรงส่วนเนื้อเหลืองๆ ที่เมล็ดมะละกอฝังอยู่ ดังนั้นอย่าขูดฝานทิ้ง ให้ใช้ซ้อมเขี่ยเมล็ดออกและรับประทานเสีย
2.ส้ม ประโยชน์ จากส้มที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จะช่วยป้องกันผิวพรรณจากการถูกทำลายของรังสียูวี และมีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ทำให้เต่งตึง ยืดหยุ่น ไม่แห้งหยาบ โดยควรรับประทานส้มเพื่อผิวสวยเด้ง ในปริมาณ 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับส้ม 1 ผล ก็ถือเป็นพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ต้องเป็นส้มสดๆ ไม่ใช่น้ำส้มที่มักมีเกลือ และน้ำเชื่อมเจือปน ทำให้สารอาหารอย่างวิตามินหายไป แถมได้รสหวานเค็ม ซึ่งสร้างโรคอื่นเข้ามาแทน ที่สำคัญต้องเลิกบุหรี่ให้ได้ เพราะเป็นตัวร้ายที่ลดสมรรถภาพการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย
3.ธัญพืช ที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย มีเส้นใยอาหารสูง ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง ลูกเดือย งา รวมถึงอาหารจำพวกขนมปังโฮลวีต ซีเรียล คุกกี้ธัญพืช ฯลฯ ล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารกลุ่มวิตามินบี ที่มีประโยชน์ต่อผิว วิตามินกลุ่มนี้จะช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์เก่า และดูแลรักษาความแข็งแรงให้แก่ผิวไม่ให้ติดเชื้อได้ง่าย
ด้วยกระแสนิยมของคนไทย มักจะชื่นชมคนที่มีผิวขาวมากกว่าผู้ที่มีสีผิวดำคล้ำ แต่จะมีสักกี่คนที่มีผิวขาวอมชมพูมา ตั้งแต่กำเนิด เพราะเอาเข้าจริงที่เราเห็นเดินเฉิดฉายด้วยผิวพรรณเปล่งประกาย ขาวสะดุดตานั้น กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านการดูแลบำรุงผิวมาหลากหลายวิธี จึงไม่แปลกที่สาวๆ (รวมถึงหนุ่มๆ) มักทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งผิวขาวอมชมพู มีออร่า ทั้งนี้ วิธีการก็มีอยู่สารพัดให้เราเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ผิว ใช้ครีมบำรุงผิว หรือบางรายใช้วิธีฉีดสีผิวที่เห็นผลกันแบบรวดเร็วทันใจ
จริงๆแล้วสิ่งที่ดีที่สุดในการทำให้ผิวขาวอมชมพู ก็คือวิธีการแบบธรรมชาติ แม้จะเห็นผลช้า ไม่ทันใจวัยรุ่น แต่เป็นการทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส เปล่งปลั่งมาจากภายใน ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว วันนี้เราขอแนะนำการรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าในเรื่องผิวพรรณมาให้ท่านผู้ อ่านลองปฏิบัติกัน อย่างไรก็ดี ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการขับสารพิษ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อสุขภาพดีไม่มีโรคภัย จะเป็นส่วนช่วยให้ผิวของเราขาวอมชมพูได้อย่างเป็นธรรมชาติ
1.มะละกอ เป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำ หาซื้อง่ายในทุกฤดูกาล ซึ่งเจ้ามะละกอมีแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งแตกตัวเป็นวิตามินเอ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม นอกจากสามารถป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยปกป้องรักษาผิวพรรณให้ชุ่มชื่น แลดูอ่อนเยาว์อีกด้วย โดยควรบริโภค 200 กรัม หรือประมาณชามก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ซึ่ง คุณค่าของสารอาหารวิตามินเอ จะเข้มข้นอยู่ตรงส่วนเนื้อเหลืองๆ ที่เมล็ดมะละกอฝังอยู่ ดังนั้นอย่าขูดฝานทิ้ง ให้ใช้ซ้อมเขี่ยเมล็ดออกและรับประทานเสีย
2.ส้ม ประโยชน์ จากส้มที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จะช่วยป้องกันผิวพรรณจากการถูกทำลายของรังสียูวี และมีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ทำให้เต่งตึง ยืดหยุ่น ไม่แห้งหยาบ โดยควรรับประทานส้มเพื่อผิวสวยเด้ง ในปริมาณ 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับส้ม 1 ผล ก็ถือเป็นพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ต้องเป็นส้มสดๆ ไม่ใช่น้ำส้มที่มักมีเกลือ และน้ำเชื่อมเจือปน ทำให้สารอาหารอย่างวิตามินหายไป แถมได้รสหวานเค็ม ซึ่งสร้างโรคอื่นเข้ามาแทน ที่สำคัญต้องเลิกบุหรี่ให้ได้ เพราะเป็นตัวร้ายที่ลดสมรรถภาพการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย
3.ธัญพืช ที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย มีเส้นใยอาหารสูง ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง ลูกเดือย งา รวมถึงอาหารจำพวกขนมปังโฮลวีต ซีเรียล คุกกี้ธัญพืช ฯลฯ ล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารกลุ่มวิตามินบี ที่มีประโยชน์ต่อผิว วิตามินกลุ่มนี้จะช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์เก่า และดูแลรักษาความแข็งแรงให้แก่ผิวไม่ให้ติดเชื้อได้ง่าย