- เข้าร่วม
- 27 มิถุนายน 2019
- ข้อความ
- 2
สมัยนี้อะไรๆก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้นแหละ แม้แต่ความสวยก็ตามที แน่นอนว่าเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้เงินซื้อความสวยของตัวเองมาค่ะ เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนล้วนมีสิ่งที่ไม่ชอบบนใบหน้าอย่างน้อยก็สักอย่างนี่แหละ ซึ่งสิ่งที่เราไม่ชอบที่สุดก็คือดวงตาของตัวเองค่ะ ความจริงตาเราก็เป็นตาสองชั้นปกตินี่แหละคะ แต่ตาเราค่อนข้างตกและหนังตาหลบในค่ะ หน้าก็ดูเศร้าๆ หมองๆ ตลอดเวลา คนก็ชอบทักเราตลอดจนแอบจิตตกบ้างบางครั้ง จนเกิดความคิดอยากจะแก้ไขปัญหาในจุดนี้อย่างจริงจังขึ้นมา กลายเป็นจุดเริ่มต้นความคิดอยากจะศัลยกรรมตาเป็นครั้งแรกในชีวิตค่ะ
สองรูปนี้เป็นรูปก่อนทำตาค่ะ จะเห็นได้เลยว่าหนังตาเรามันตก แล้วทำให้หน้ามันดูหมองๆอย่างบอกไม่ถูก
พอคิดว่าจะทำตาเราก็เร่งเก็บเงินก่อนเลยเป็นอันดับแรก(ก็อย่างที่บอกไปอ่ะเนอะว่าสมัยนี้อะไรก็ต้องใช้เงิน 555) เราไม่ได้ขอเงินพ่อแม่เลยนะคะ เราเลือกจะทำงานพิเศษหลายๆ อย่าง ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเลยกว่ามีเงินมากพอที่จะทำตาได้ พอเก็บเงินได้มากประมาณหนึ่งแล้วเราก็หารีวิวอ่านในเน็ตเลยค่ะ อ่านมันมาแทบจะทุกรีวิวเพื่อความมั่นใจจริงๆ เพราะมันก็เป็นการทำตาครั้งแรกของเราอ่ะเนอะ ยอมรับว่าแอบกลัวอยู่เหมือนกันเพราะเคยเห็นเคสทำตาแล้วออกมาแย่อยู่หลายอันเหมือนกัน อุตส่าห์เก็บเงินมาตั้งนานก็ต้องเลือกเอาที่มันดีๆ สักหน่อย
จนเราได้มาเจอกับคลินิก urban ที่เราเห็นว่าหลายคนชอบไปทำตากันที่นี่เยอะ ก็เลยสนใจลองติดต่อไปดูบ้าง จนได้มีโอกาสเจอกับพญ.สุภัทราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องตาโดยเฉพาะ ด้วยความที่คุณหมอเป็นผู้หญิงเหมือนกันเขาจึงค่อนข้างเข้าใจเราพอสมควรแล้วยังให้คำแนะนำเราดีมากๆ เกี่ยวกับการทำตา คุณหมอก็ถามเราละเอียดมากๆว่าอยากได้ชั้นตาแบบไหน เราก็บอกคุณหมอไปเลยว่าชอบชั้นตาแบบธรรมชาติๆ ค่ะไม่ต้องใหญ่มาก เพราะปกติตาเรามันก็ใหญ่อยู่แล้ว แค่มีปัญหาตรงช่วงหนังตาเท่านั้นเอง เลยไม่อยากทำอะไรมากเกินไปค่ะกลัวออกมาประหลาดเกิน
พอตกลงเรื่องราคาและวันเวลาแล้ว ก็นัดกันเข้าห้องเผ่าตัดเลยค่ะ ไวมาก 5555 ก่อนทำคุณหมอก็เอาปากกามาเขียนขนาดของตาสองชั้นที่จะผ่าตัด ขั้นตอนนี้คุณหมอก็ใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าเพื่อให้ชั้นตาออกมาสวยและเท่ากันมากที่สุด หลังจากนั้นก็มาถึงในส่วนของการผ่าตัดค่ะ ก่อนผ่าตัดแน่นอนว่าต้องมีการฉีดยาชาอยู่แล้ว ฉะนั้นเราเลยแทบไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ชิวๆ สบายมากๆ แต่คุณหมอก็คอยบอกตลอดว่ากำลังจะทำอะไรอยู่ ซึ่งช่วยลดความตื่นเต้นของเราในการทำตาลงได้เยอะเลยคะ 55555 แต่ช่วงที่ระทึกใจก็มีนะคะ ก็คือตอนช่วงหลังๆ ยาชาเหมือนจะเริ่มหมดฤทธิ์ค่ะ แบบตอนนั้นตกใจมากๆเพราะกลัวเจ็บ รีบบอกหมอแทบไม่ทันเลยค่ะ ดีนะที่หมอเติมยาชาทันจึงไม่ได้เจ็บอะไร แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นดีค่ะ
พอผ่านไปได้สักพักก็แทบไม่มีรอยแผลอะไรหลงเหลือแล้วค่ะ รอยแผลรอยช้ำที่เคยมีหายไปหมดเลย เหลือแค่ความบวมเล็กน้อยเท่านั้น คือแผลหายไวมากจนเราเองยังตกใจเลย ดูเป็นปกติเหมือนไม่ได้ไม่ทำอะไรมาเลย อาจเป็นเพราะร่างกายเราฟื้นฟูง่ายด้วยแผลเลยหายง่าย แต่ก็ขอยกเครดิตให้หมอนิดหนึ่งที่เย็บตาเราได้ออกมาสวยเนียนไม่โป๊ะ ประทับใจมากๆ
สำหรับเราแล้วการทำตาครั้งนี้เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองสวยและดูสดใสกว่าแต่ก่อน ไม่หน้าหมองๆ อย่างที่ใครหลายคนชอบพูดกันอีกแล้ว ไปไหนใครๆ ก็ชอบก็คอยชมเราตลอด นอกจากนี้ยังแทบไม่มีใครจับได้เลยว่าเราไปทำตามาด้วยเพราะมันออกมาดูเป็นธรรมชาติมาก ดูเนียนกลมกลืนไปกับรูปหน้าจริงๆ อยากขอบคุณทางคุณหมอและคลินิกจริงๆ ที่ทำตาเราออกมาได้ถูกใจตามที่ต้องการ ไม่โป๊ะไม่หลอกตา เป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรกที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จมากๆ สำหรับผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหาแบบเดียวกับเรา และยังกล้าๆ กลัวๆ กับการทำศัลยกรรม เราอยากบอกว่าทำเถอะค่ะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย และเราขอทิ้งท้ายกระทู้นี้ด้วยประโยคต้นกระทู้ว่า “อยากสวยก็ต้องลงทุน” กันนะคะทุกคน ขอบคุณค่าาา
สองรูปนี้เป็นรูปก่อนทำตาค่ะ จะเห็นได้เลยว่าหนังตาเรามันตก แล้วทำให้หน้ามันดูหมองๆอย่างบอกไม่ถูก
พอคิดว่าจะทำตาเราก็เร่งเก็บเงินก่อนเลยเป็นอันดับแรก(ก็อย่างที่บอกไปอ่ะเนอะว่าสมัยนี้อะไรก็ต้องใช้เงิน 555) เราไม่ได้ขอเงินพ่อแม่เลยนะคะ เราเลือกจะทำงานพิเศษหลายๆ อย่าง ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเลยกว่ามีเงินมากพอที่จะทำตาได้ พอเก็บเงินได้มากประมาณหนึ่งแล้วเราก็หารีวิวอ่านในเน็ตเลยค่ะ อ่านมันมาแทบจะทุกรีวิวเพื่อความมั่นใจจริงๆ เพราะมันก็เป็นการทำตาครั้งแรกของเราอ่ะเนอะ ยอมรับว่าแอบกลัวอยู่เหมือนกันเพราะเคยเห็นเคสทำตาแล้วออกมาแย่อยู่หลายอันเหมือนกัน อุตส่าห์เก็บเงินมาตั้งนานก็ต้องเลือกเอาที่มันดีๆ สักหน่อย
จนเราได้มาเจอกับคลินิก urban ที่เราเห็นว่าหลายคนชอบไปทำตากันที่นี่เยอะ ก็เลยสนใจลองติดต่อไปดูบ้าง จนได้มีโอกาสเจอกับพญ.สุภัทราที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องตาโดยเฉพาะ ด้วยความที่คุณหมอเป็นผู้หญิงเหมือนกันเขาจึงค่อนข้างเข้าใจเราพอสมควรแล้วยังให้คำแนะนำเราดีมากๆ เกี่ยวกับการทำตา คุณหมอก็ถามเราละเอียดมากๆว่าอยากได้ชั้นตาแบบไหน เราก็บอกคุณหมอไปเลยว่าชอบชั้นตาแบบธรรมชาติๆ ค่ะไม่ต้องใหญ่มาก เพราะปกติตาเรามันก็ใหญ่อยู่แล้ว แค่มีปัญหาตรงช่วงหนังตาเท่านั้นเอง เลยไม่อยากทำอะไรมากเกินไปค่ะกลัวออกมาประหลาดเกิน
พอตกลงเรื่องราคาและวันเวลาแล้ว ก็นัดกันเข้าห้องเผ่าตัดเลยค่ะ ไวมาก 5555 ก่อนทำคุณหมอก็เอาปากกามาเขียนขนาดของตาสองชั้นที่จะผ่าตัด ขั้นตอนนี้คุณหมอก็ใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าเพื่อให้ชั้นตาออกมาสวยและเท่ากันมากที่สุด หลังจากนั้นก็มาถึงในส่วนของการผ่าตัดค่ะ ก่อนผ่าตัดแน่นอนว่าต้องมีการฉีดยาชาอยู่แล้ว ฉะนั้นเราเลยแทบไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ชิวๆ สบายมากๆ แต่คุณหมอก็คอยบอกตลอดว่ากำลังจะทำอะไรอยู่ ซึ่งช่วยลดความตื่นเต้นของเราในการทำตาลงได้เยอะเลยคะ 55555 แต่ช่วงที่ระทึกใจก็มีนะคะ ก็คือตอนช่วงหลังๆ ยาชาเหมือนจะเริ่มหมดฤทธิ์ค่ะ แบบตอนนั้นตกใจมากๆเพราะกลัวเจ็บ รีบบอกหมอแทบไม่ทันเลยค่ะ ดีนะที่หมอเติมยาชาทันจึงไม่ได้เจ็บอะไร แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นดีค่ะ
เอาล่ะ มาดูหลังทำตากันดีกว่าค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากผ่านพ้นไปวันแรกค่ะ ประหลาดใจมากที่มันบวมน้อยกว่าที่คิดมากๆ มีรอยช้ำม่วงอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าไร แบบว่าแทบไม่สังเกตเลยถ้าไม่จ้องดีๆ ดูธรรมชาติมากๆ ไม่เห็นรอยไหมด้วยเพราะคลินิกที่นี่เย็บตาด้วยไหมล่องหนค่ะ
ทำตาเสร็จก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยค่ะไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่อย่างใด ของเราเวลาไปเรียนก็ใส่แว่นตาพรางๆรอยที่ตาไว้นิดหนึ่ง ให้ลุคเด็กเรียนใสๆสวยๆ อิอิ
พอผ่านไปได้สักพักก็แทบไม่มีรอยแผลอะไรหลงเหลือแล้วค่ะ รอยแผลรอยช้ำที่เคยมีหายไปหมดเลย เหลือแค่ความบวมเล็กน้อยเท่านั้น คือแผลหายไวมากจนเราเองยังตกใจเลย ดูเป็นปกติเหมือนไม่ได้ไม่ทำอะไรมาเลย อาจเป็นเพราะร่างกายเราฟื้นฟูง่ายด้วยแผลเลยหายง่าย แต่ก็ขอยกเครดิตให้หมอนิดหนึ่งที่เย็บตาเราได้ออกมาสวยเนียนไม่โป๊ะ ประทับใจมากๆ
แท่นแท็นนนนนน หลังจากตัดไหมออกไปเรียบร้อยแล้ว ดวงตาเข้ารูปเข้ารอยเสียที ก็ประเดิมด้วยการประโคมเครื่องสำอางเสียเลย ภาพนี้จะเห็นความเรียบเนียนบนเปลือกตาชัดเจน ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นอะไรไว้เลยค่ะ
ถ่ายภาพหน้าตรงให้เห็นกันชัดๆ เลยว่าผลมันเป็นอย่างไรหลังทำมาแล้ว จะเห็นได้เลยว่าหนังตาเรามันไม่ตกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตาก็เป็นสองชั้นชัดเจนขึ้น ดูเป็นตาปกติธรรมชาติมากๆ คนที่รู้จักแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าเราไปทำตามา แต่พอเจอหน้ากันก็ทักตลอดว่าทำไมถึงดูดีขึ้นดูสวยขึ้น ยอมรับว่าปลื้มค่ะ ><
ถ่ายภาพหน้าตรงให้เห็นกันชัดๆ เลยว่าผลมันเป็นอย่างไรหลังทำมาแล้ว จะเห็นได้เลยว่าหนังตาเรามันไม่ตกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตาก็เป็นสองชั้นชัดเจนขึ้น ดูเป็นตาปกติธรรมชาติมากๆ คนที่รู้จักแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าเราไปทำตามา แต่พอเจอหน้ากันก็ทักตลอดว่าทำไมถึงดูดีขึ้นดูสวยขึ้น ยอมรับว่าปลื้มค่ะ ><
สำหรับเราแล้วการทำตาครั้งนี้เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองสวยและดูสดใสกว่าแต่ก่อน ไม่หน้าหมองๆ อย่างที่ใครหลายคนชอบพูดกันอีกแล้ว ไปไหนใครๆ ก็ชอบก็คอยชมเราตลอด นอกจากนี้ยังแทบไม่มีใครจับได้เลยว่าเราไปทำตามาด้วยเพราะมันออกมาดูเป็นธรรมชาติมาก ดูเนียนกลมกลืนไปกับรูปหน้าจริงๆ อยากขอบคุณทางคุณหมอและคลินิกจริงๆ ที่ทำตาเราออกมาได้ถูกใจตามที่ต้องการ ไม่โป๊ะไม่หลอกตา เป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรกที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จมากๆ สำหรับผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหาแบบเดียวกับเรา และยังกล้าๆ กลัวๆ กับการทำศัลยกรรม เราอยากบอกว่าทำเถอะค่ะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย และเราขอทิ้งท้ายกระทู้นี้ด้วยประโยคต้นกระทู้ว่า “อยากสวยก็ต้องลงทุน” กันนะคะทุกคน ขอบคุณค่าาา
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก