- เข้าร่วม
- 4 สิงหาคม 2017
- ข้อความ
- 185
อัพอึ๋ม...มั่นใจ สวย หรือ สยอง ??
“เลือกผิดชีวิตพัง! สาวแฉคลินิกชื่อดังเสริมนมเน่า หนองพุ่งเหมือนเขื่อนแตก”
“นมเน่า หนองไหลนับเดือน อึ้งถูกยัดซิลิโคนกลับด้าน”
“สาวเสียใจผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่กลายเป็นอกเน่า แถมก่อนสลบได้กลิ่นกะเพรา”
“สาวสองแจ้งเอาผิดคลินิกความงามทำนมเน่า”
“เห็นแก่ของถูก! ดาราสาว น้ำตาตกหมอยัดนมเน่าให้ !!”
“อดีตนักร้องสาว หวิดดับเพราะอัพเต้า”
นี่คือ ข่าวเพียงส่วนหนึ่งของพิษศัลยกรรมหน้าอกที่ถูกนำเสนอโดยสื่อมวลชนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ ได้ระวัง และหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจอย่างรอบด้าน เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงเป็นการทำสวยแบบสยองในภายหลัง ซึ่งจากข้อมูลปรากฏในข่าวได้มีการบอกเล่าถึงสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดอาการติดเชื้ออักเสบ มาจากห้องผ่าตัดของสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน และแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือเป็นแพทย์เฉพาะด้าน นอกจากนี้ ด้วยราคาโปรโมชั่นแสนถูก ทำให้วัสดุที่นำมาใช้ไม่ได้มาตรฐานด้วย
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้กล่าวว่า “การศัลยกรรมจะได้ผลลัพธ์ที่ดี หลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน คือ ก่อนการศัลยกรรม ต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะทาง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของ แพทยสภา หรือสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เป็นต้น รวมทั้ง การเข้ามาพบแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะแพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดว่า ลักษณะโครงสร้างของคนไข้สามารถเสริมได้ขนาดไหนที่จะพอดีกับร่างกาย การเลือกวัสดุ ปัญหาของคนไข้ เพื่อแก้ไขได้ตรงจุด
“เทคนิคการผ่าตัด” ก็เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ โดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ จะทำให้คนไข้เจ็บน้อย ขนาดแผลเล็ก แผลหายเร็ว ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติ สุดท้าย การดูแลตนเองหลังการผ่าตัด คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและหน้าอกดูเป็นธรรมชาติ”
นอกจากนี้ นพ.ธนัญชัย ยังได้ให้ข้อมูลทางด้านการแพทย์เกี่ยวกับกรณีการศัลยกรรมหน้าอกของอดีตนักร้องสาว ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ด้วยว่า
“โดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมเต้านม (Augmented mammoplasty) เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ เพียง 0.5-2% เพราะถือเป็นการผ่าตัดในบริเวณที่สะอาด (clean wound) และมีเลือดมาเลี้ยงในบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งหากเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนแล้วเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงบริเวณเต้านมที่ได้รับการผ่าตัด การรักษาที่เหมาะสม คือ การผ่าตัดนำถุงซิลิโคนออกก่อน (Explantation) ร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด และเมื่อการติดเชื้อหายดีแล้ว อย่างน้อย 3-6 เดือน จึงสามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนกลับเข้าไปใหม่ได้
ส่วนการใส่สายระบาย (drain) หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ข้อดี คือ ช่วยระบายเลือด/น้ำเหลืองที่ค้างอยู่จากการผ่าตัดออกมาได้ ทำให้น้ำเหลืองและเลือดไม่คั่งอยู่ด้านในเต้านม ซึ่งโดยเฉลี่ยการผ่าตัดเสริมเต้านม จะใส่สายระบายไว้เพียง 1-2 วัน หรือแพทย์บางท่านจะไม่ใส่สายระบาย หากเห็นว่าสามารถหยุดเลือดได้ดีระหว่างการผ่าตัด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่ละท่าน แต่อย่างไรก็ตาม สายระบาย(drain) ไม่สามารถช่วยหยุดเลือดที่ไหลออกมาตลอดเวลาได้ ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกปริมาณมากหลายๆ วัน ไม่หยุด แพทย์ควรพิจารณาทำการผ่าตัดซ้ำ เพื่อหยุดเลือด
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรม คือ “ความปลอดภัย” โดย “ยิ่งทำน้อย ยิ่งปลอดภัย” เพราะการทำศัลยกรรมควรทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาจริงๆ ทำให้น้อยที่สุด และตรงปัญหาที่สุด จึงจะได้รับผลดี และ “ยิ่งพอดี ยิ่งปลอดภัย” นั่นคือ อย่าต้องการทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติมากๆ เช่น เสริมหน้าอกขนาดใหญ่มากๆ เสริมจมูกปลายพุ่งมากๆ เพราะโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนตามมา ควรทำให้พอดีกับโครงสร้างของแต่ละคน ประการสุดท้าย “ยิ่งเลือกเป็น ยิ่งปลอดภัย” คือ ควรรู้จักเลือก ได้แก่สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและความปลอดภัย, เลือกแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์, วัสดุอุปกรณ์ที่ดี เช่น ซิลิโคน ได้รับมาตรฐาน อย. US FDA เป็นต้น รวมถึง อย่าหลงเชื่อตามคำโฆษณา รีวิวต่างๆ มากจนเกินไป”
“เลือกผิดชีวิตพัง! สาวแฉคลินิกชื่อดังเสริมนมเน่า หนองพุ่งเหมือนเขื่อนแตก”
“นมเน่า หนองไหลนับเดือน อึ้งถูกยัดซิลิโคนกลับด้าน”
“สาวเสียใจผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่กลายเป็นอกเน่า แถมก่อนสลบได้กลิ่นกะเพรา”
“สาวสองแจ้งเอาผิดคลินิกความงามทำนมเน่า”
“เห็นแก่ของถูก! ดาราสาว น้ำตาตกหมอยัดนมเน่าให้ !!”
“อดีตนักร้องสาว หวิดดับเพราะอัพเต้า”
นี่คือ ข่าวเพียงส่วนหนึ่งของพิษศัลยกรรมหน้าอกที่ถูกนำเสนอโดยสื่อมวลชนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ ได้ระวัง และหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจอย่างรอบด้าน เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงเป็นการทำสวยแบบสยองในภายหลัง ซึ่งจากข้อมูลปรากฏในข่าวได้มีการบอกเล่าถึงสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดอาการติดเชื้ออักเสบ มาจากห้องผ่าตัดของสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน และแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือเป็นแพทย์เฉพาะด้าน นอกจากนี้ ด้วยราคาโปรโมชั่นแสนถูก ทำให้วัสดุที่นำมาใช้ไม่ได้มาตรฐานด้วย
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้กล่าวว่า “การศัลยกรรมจะได้ผลลัพธ์ที่ดี หลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน คือ ก่อนการศัลยกรรม ต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะทาง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของ แพทยสภา หรือสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เป็นต้น รวมทั้ง การเข้ามาพบแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะแพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดว่า ลักษณะโครงสร้างของคนไข้สามารถเสริมได้ขนาดไหนที่จะพอดีกับร่างกาย การเลือกวัสดุ ปัญหาของคนไข้ เพื่อแก้ไขได้ตรงจุด
“เทคนิคการผ่าตัด” ก็เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ โดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ จะทำให้คนไข้เจ็บน้อย ขนาดแผลเล็ก แผลหายเร็ว ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติ สุดท้าย การดูแลตนเองหลังการผ่าตัด คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและหน้าอกดูเป็นธรรมชาติ”
นอกจากนี้ นพ.ธนัญชัย ยังได้ให้ข้อมูลทางด้านการแพทย์เกี่ยวกับกรณีการศัลยกรรมหน้าอกของอดีตนักร้องสาว ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ด้วยว่า
“โดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมเต้านม (Augmented mammoplasty) เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ เพียง 0.5-2% เพราะถือเป็นการผ่าตัดในบริเวณที่สะอาด (clean wound) และมีเลือดมาเลี้ยงในบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งหากเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนแล้วเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงบริเวณเต้านมที่ได้รับการผ่าตัด การรักษาที่เหมาะสม คือ การผ่าตัดนำถุงซิลิโคนออกก่อน (Explantation) ร่วมกับการให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด และเมื่อการติดเชื้อหายดีแล้ว อย่างน้อย 3-6 เดือน จึงสามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนกลับเข้าไปใหม่ได้
ส่วนการใส่สายระบาย (drain) หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ข้อดี คือ ช่วยระบายเลือด/น้ำเหลืองที่ค้างอยู่จากการผ่าตัดออกมาได้ ทำให้น้ำเหลืองและเลือดไม่คั่งอยู่ด้านในเต้านม ซึ่งโดยเฉลี่ยการผ่าตัดเสริมเต้านม จะใส่สายระบายไว้เพียง 1-2 วัน หรือแพทย์บางท่านจะไม่ใส่สายระบาย หากเห็นว่าสามารถหยุดเลือดได้ดีระหว่างการผ่าตัด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่ละท่าน แต่อย่างไรก็ตาม สายระบาย(drain) ไม่สามารถช่วยหยุดเลือดที่ไหลออกมาตลอดเวลาได้ ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกปริมาณมากหลายๆ วัน ไม่หยุด แพทย์ควรพิจารณาทำการผ่าตัดซ้ำ เพื่อหยุดเลือด
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรม คือ “ความปลอดภัย” โดย “ยิ่งทำน้อย ยิ่งปลอดภัย” เพราะการทำศัลยกรรมควรทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาจริงๆ ทำให้น้อยที่สุด และตรงปัญหาที่สุด จึงจะได้รับผลดี และ “ยิ่งพอดี ยิ่งปลอดภัย” นั่นคือ อย่าต้องการทำอะไรที่ฝืนธรรมชาติมากๆ เช่น เสริมหน้าอกขนาดใหญ่มากๆ เสริมจมูกปลายพุ่งมากๆ เพราะโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนตามมา ควรทำให้พอดีกับโครงสร้างของแต่ละคน ประการสุดท้าย “ยิ่งเลือกเป็น ยิ่งปลอดภัย” คือ ควรรู้จักเลือก ได้แก่สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและความปลอดภัย, เลือกแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์, วัสดุอุปกรณ์ที่ดี เช่น ซิลิโคน ได้รับมาตรฐาน อย. US FDA เป็นต้น รวมถึง อย่าหลงเชื่อตามคำโฆษณา รีวิวต่างๆ มากจนเกินไป”