เปิดประสบการณ์ศัลยกรรมเสริมจมูกครั้งแรกในชีวิต เปลี่ยนหน้า ให้ดูสวย เฉียว มีมิติ มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

maybe.ws

สมาชิกใหม่
Registered
เข้าร่วม
26 กรกฎาคม 2019
ข้อความ
1
สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวแรกของเมบีเลยนะคะ ผิดพลาดอะไรก็ขอโทษด้วยนะ ที่มาของรีวิวนี้เกิดจากความประทับใจส่วนตัวเลยค่ะ เราเจออะไรที่ดีๆ เราก็อยากมาบอกเล่าส่งต่อสิ่งดีๆ เผื่อใครอยากเสริมจมูกแล้วนึกไม่ออกว่าจะไปเสริมที่ไหนดี เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าเนอะ คือ เอาจริงๆ หลายคนก็ว่าจมูกเดิมก็ดีอยู่แล้วจะไปเสริมทำไมให้เจ็บตัว แต่คงไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราเองหรอก เมบีรู้สึกว่าหน้ายังไม่ค่อยมีกรอบที่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ก็เลยอยากเสริมให้กรอบหน้าชัด หน้าดูมีมิติมากขึ้น แต่งหน้าจะได้ดูเฉียวๆ มากขึ้น พอรู้สึกเช่นนั้น สิ่งที่ทำคือ การศึกษาหาข้อมูลการเสริมจมูก ผลดีผลเสียต่างๆ จนแน่ใจว่าจะทำแล้ว ก็ลองปรึกษาเพื่อนที่เคยเสริมจมูก เพื่อนก็แนะนำที่เค้าทำก็ว่าดีนะ เราดูแล้วก็โอเคนะ ทรงสวยดี ก็ลองทักไปถามและพูดคุยอยุ่สักพักจนแน่ใจ ก็มัดจำและนัดวันทำกับทางคลินิก


พอถึงวันที่นัดก็เข้าไปที่คลินิก ก็นั้งรอไม่นานก็ได้เข้าไปพบคุณหมอ ตอนที่เข้าไปพบคุณหมอตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะไม่เคยทำมาก่อน เเต่พอได้ปรึกษาคุณหมอก็สบายใจขึ้น เราก็บอกคุณหมอไปว่าอยากได้ทรงโด่งๆ ปลายพุ่งสวยๆ ซึ่งตอนที่คุณหมอก็ตรวจดูโครงสร้างจมูกเรา แล้วก็บอกว่า โครงสร้างฐานจมูกเดิมเราเอียงนะ พอทำออกมาเรามันอาจจะมีเอียงนิดๆ และก็อธิบายถึงเรื่องความพุ่งของปลายจมูกว่าหมอสามารถทำให้ได้ แต่มันจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการทะลุ เพราะเนื้อบริเวณปลายจมูกเรามันมีน้อย ซึ่งทุกเคสหมอจะทำให้ให้ปลายพุ่งในระดับที่ปลอดภัย เพราะที่คลินิกเราความปลอดภัยต้องมาที่หนึ่ง แต่รับรองว่าออกมาสวยดูดีกว่าจมูกเดิมแน่นอน


และแล้วเวลาที่กังวลที่สุดก็มาถึงตอนเข้าไปในห้องผ่าตัดตื่นเต้นสุดๆ เเต่ก็มีพี่ๆ ในคลินิกชวนคุยทำให้ไม่เครียดเเละไม่กลัว คือ เอาจริงๆ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดไว้เลย คุณหมอก็มือเบา ซึ่งใช้เวลาทำไม่นานก็เสร็จ


หลังออกจากห้องผ่าตัดที่คลินิกก็แนะนำเราถึงวิธีในการดูแลแผล การทานอาหาร วิธีการดูแลตัวเองภายหลังการทำ อย่างเช่น เช็ดเเผลด้วยน้ำเกลือ เช้า-เย็น งดล้างหน้า7วัน (ไม่ให้เเผลเปียก) งดอาหารทะเล เเอลกอฮอล์ ของหมักดอง 1เดือน กินน้ำมะพร้าว น้ำฟักทอง และที่สำคัญคือทานยาที่หมอสั่งให้ตรงเวลาเพียงเท่านี้เราก็มีจมูกที่สวยแล้ว ในช่วงหลังก็มีอาการบวมนะ มีเขียว มีช้ำบ้าง ในช่วง 3-4 วันแรก วันที่ต้องทำงานก็อาศัยการแต่งหน้ากลบๆ ไปก่อน ประมาณ 2 สัปดาห์ก็เริ่มลดลง


ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่ 2 แล้ว จะบอกว่ามันทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นจริงๆ นะ ถึงปลายจะไม่ได้พุ่งอย่างที่เราคิดไว้ก่อนทำ แต่เพื่อความปลอดภัยก็รับได้ค่ะ แบบแต่ก่อนเวลาที่ถ่ายงานเราก็ต้องหามุมเพื่อให้ตัวเองออกมาดีที่สุด แต่ตอนนี้จะมุมไหน ด้านไหน ก็มั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ รู้สึกว่ากรอบหน้าชัดขึ้น ถ่ายรูปสวย แต่งหน้าง่าย ปลื้มสุดๆ มาถึงตรงนี้คงอยากรู้แล้วสินะ ว่าเมบีทำที่ไหน เฉลยทำที่ Charmer Clinic ค่ะ แต่อย่างที่หมอบอกเลยค่ะ ว่าที่นี่เค้าเน้นทำแบบปลอดภัย ไม่เน้นปลายที่พุ่งมากๆ แต่รับรองว่าเห็นถึงความแตกต่างแน่นอน

8b126cfe2793e088b8d8e56274cd92b2.jpg
 
กลับ
บน ล่าง