เปิดเทคนิคใหม่แก้ไขหน้าท้อง “Modern Abdominoplasty”

มดตะนอยน้อย

สมาชิกโดดเด่น
Registered
เข้าร่วม
4 สิงหาคม 2017
ข้อความ
185
เปิดเทคนิคใหม่แก้ไขหน้าท้อง “Modern Abdominoplasty”
01.jpg

เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับชาติสำหรับคนมีปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่กระชับ แตกลาย เนื่องจากการมีบุตร หรือการลดน้ำหนักอย่างมากในเวลารวดเร็ว ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะมีวิธีการช่วยแก้ไขปัญหา อาทิ การดูดไขมัน การผ่าตัดหน้าท้องแบบเล็ก (Mini Abdominoplasty) และการผ่าตัดหน้าท้องแบบใหญ่ (Full Abdominoplasty)
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีต่างๆ เหล่านั้น ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน เช่น การดูดไขมัน วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันสะสมมาก แต่ผิวหนังไม่หย่อนคล้อย และไม่มีการแยกของชั้นกล้ามเนื้อ แต่ไม่สามารถรักษาผิวหนังที่หย่อนคล้อยมากๆ ได้
Full%20Mini.jpg

การผ่าตัดหน้าท้องแบบเล็ก ไม่มีการย้ายตำแหน่งสะดือ (Mini Abdominoplasty) วิธีนี้เป็นการผ่าตัดที่มีแผลผ่าตัดไม่มาก และเน้นการแก้ไขปัญหาบริเวณหน้าท้องด้านล่าง ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างกระชับขึ้น แผลผ่าตัดเล็ก แต่ไม่สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อย และลายหน้าท้องของผิวหนังด้านบน (เหนือสะดือ) ได้
เช่นเดียวกับ การผ่าตัดหน้าท้องแบบใหญ่ และมีการย้ายตำแหน่งสะดือ (Full Abdominoplasty) วิธีนี้เป็นการผ่าตัดที่เน้นการแก้ไขปัญหาในทุกๆ ส่วนของหน้าท้อง ทั้งบริเวณด้านล่างและด้านบน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยมากๆ ทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่ข้อเสียคือ แผลยาว และระยะการพักฟื้นนาน
tummy-tuck-options-graphic.jpg

ในปัจจุบันด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ทำให้เกิดเทคนิคใหม่ในการผ่าตัดหน้าท้องเพิ่มขึ้น เรียกว่า “Modern Abdominoplasty” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เกิดจากการประยุกต์เทคนิคเดิม คือ Mini Abdominoplasty และ Full Abdominoplasty เอาไว้ด้วยกัน ซึ่งผลลัพธ์คือ ทำให้หน้าท้องบริเวณด้านบนและด้านล่างตึงกระชับ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ไม่มีแผลผ่าตัดที่สะดือ โดยเทคนิคใหม่นี้ในต่างประเทศเริ่มนำมาผ่าตัดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ และในประเทศไทย ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้นำเทคนิคการผ่าตัด "Modern Abdominoplasty” นี้ มาใช้ในการผ่าตัดให้กับคนไข้แล้ว
shutterstock-394494271.jpg

ส่วนการดูแลหลังผ่าตัดหน้าท้อง ต้องระวังไม่ให้แผลถูกน้ำ ประมาณ 7 วัน หลังการผ่าตัด และทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ การเดิน ควรเดินแบบก้มตัวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แผลตึง ภายใน 1 - 2 สัปดาห์แรก รวมทั้ง ต้องใส่ผ้ารัดหน้าท้องตลอดเวลาในช่วงเดือนแรก หลังจากนั้นควรใส่ผ้ากระชับเพื่อป้องกันการฉีกขาดของกล้ามเนื้อที่เย็บกระชับหน้าท้อง และลดอาการบวม

การเขียวช้ำบริเวณผ่าตัดอาจเกิดขึ้นได้ และจะหายไปภายใน 2 - 3 สัปดาห์ แต่ถ้ามีอาการปวด บวม แดง ร่วมด้วยให้มาพบแพทย์ทันที การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ภายใน 2 - 4 สัปดาห์ ส่วนกิจกรรม อื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย สามารถออกกำลังกายได้ ภายใน 4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับการประเมินผลจากแพทย์ก่อน ทางด้านรอยแผลเป็นนั้น รอยแผลจะค่อยๆ จาง และแบนราบลงภายในช่วง 3 – 6 เดือนหลังการผ่าตัด
 
กลับ
บน ล่าง