- เข้าร่วม
- 22 กันยายน 2017
- ข้อความ
- 2
สะบายดี ทุกคนทั้งพี่น้องชาว สปป.ลาว และเพื่อนๆ คนไทยที่แวะเข้ามาอ่านกันนะครับ ผมขอแนะนำตัวซักนิดนะครับ ผมชื่อ Alex ครับ อาชีพตอนนี้เป็น Makeup Artist อยู่ที่ลาวและรับแต่งหน้าที่ไทยด้วยครับ วันนี้ผมอยากมาเล่าประสบการณ์ที่ผมได้ทำศัลยกรรมในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และรู้สึกประทับใจเลยอยากบอกเล่าเรื่องราวที่ได้เจอมาครับ (ถ้าผมใช้คำที่ผิดหรือแปลกไปต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมตั้งใจเขียนมากๆ ครับ แต่ถ้ามีผิดแปลกตรงไหนบอกกันได้นะครับ ผมยินดีแก้ไข) ขอบอกก่อนว่าผมเคยทำศัลยกรรมมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ผลที่ได้ไม่เป็นอย่างที่ใจผมคิดซักเท่าไหร่
ครั้งที่1 ตัดสินใจฉีด ซิลิโคนเหลว ที่คลินิกขอไม่เอ่ยชื่อนะครับ ถึงจมูกดูโด่งขึ้น แต่ปลายจมูกก็ใหญ่ขึ้นดูไม่ได้รูป
ครั้งที่ 2 เปลี่ยนคลินิกใหม่แก้จมูกขูด ซิลิโคนเหลว แล้วเสริมซิลิโคน แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังดีไม่สุด
เมื่อผมเลือกศัลยกรรมที่ Masterpiece Clinic
ผมรู้จักที่นี่ครั้งแรกตอนที่ผมได้คุยงานตอนไปร่วมงานทำ Work Shop กับพี่ฉัตร Makeup Artist รุ่นพี่ที่ผมเคารพมากที่สุดครับ พี่เขาไปดูแลผิว ดูแลหน้ากับที่นี่แล้วชอบมาก ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นที่ไว้ดูแลผิวเฉยๆ ผ่านไป 1 ปีกว่าๆ ผมเริ่มมีความคิดอยากจะแก้จมูกอีกครั้ง เพราะจมูกผมดูใหญ่ และรู้สึกว่าจมูกเริ่มดูเป็นแท่งใสๆ ขึ้นมา ผมก็กลัวว่าจมูกจะทะลุครับ เป็นครั้งที่สองที่ทำให้ผมรู้จักที่นี่อีกครั้ง ผ่านพี่หมอที่ผมรู้จักด้วยที่ลาว เพราะผมไปปรึกษากับพี่หมอเรื่องจมูกครับ ว่าไม่โอเคกับจมูกนี้เท่าไหร่ เป็น Makeup Artist แต่งหน้าให้คนอื่นสวย หล่อ เป๊ะ มาก็เยอะ ผมก็อยากให้หน้าเป๊ะขึ้นบ้าง ไม่อยากปล่อยให้หน้าโทรมไม่สมกับที่ทำงานด้านนี้ด้วย พี่หมอเขาก็แนะนำให้ไปแก้จมูกที่ Masterpiece Clinic ที่นี่เขารู้จักหมอที่มีฝีมือดี เห็นลูกค้าหลายคนที่ไปทำมาจมูกมาเข้ากับหน้าและประทับใจครับ ถ้าสนใจพี่หมอแนะนำให้ไปแก้ที่นี่ดีกว่า ผมเลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับที่นี่ครับ
จมูกก่อนแก้ที่ Masterpice Clinic ครับ เห็นเงาวาวๆ ที่จมูกไหมครับ ผมกลัวว่าจมูกจะทะลุมากเลยครับ
ปรึกษาที่ Masterpiece Clinic ครั้งแรก
ผมเข้าออกประเทศไทยบ่อยมาก เพราะงานของผมเป็นการแต่งหน้า ครั้งแรกที่มา Masterpiece Clinic พี่หมอที่ผมรู้จักพามาด้วย ความรู้สึกแรกของผม ประทับใจที่เดินทางสะดวก Clinic อยู่แถวสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Siam Paragon, Siam Center และ MBK ส่วนใหญ่ที่ผมมาทำงานในประเทศไทย ก็มาที่ Siam Paragon บ่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกสบายใจมากกว่าหากต้องไปทำที่อื่น ที่ผมไม่คุ้นเคย บรรยากาศของที่นี่ตกแต่งได้ดี ดูโล่งโปร่งสบายตา ทั้งๆ ที่สถานที่ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดครับ
ที่นี่พนักงานมาสอบถามก่อนว่าความต้องการผมคืออะไร มีให้ลงประวัติส่วนตัว และประวัติการทำศัลยกรรมของผมไว้เพื่อให้หมอของที่นี่ประเมินได้อย่างถูกต้อง ผมคุยกับพนักงานว่าอยากแก้จมูก เพราะก่อนหน้านี้ผมพลาดฉีดซิลิโคนเหลวที่จมูกไป แล้วก็แก้จมูกใหม่เป็นจมูกซิลิโคน แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงอยากแก้ใหม่ครับ แล้วก็ผมอยากให้ใบหน้าดูมีมิติ ดูเต็มกว่านี้ พอจะมีศัลยกรรมอะไรแนะนำบางไหม อย่างฉีดซิลิโคนเหลว หรือ Filler ผมไม่ขอทำเพราะยังเข็ดตอนที่ฉีดเสริมจมูกอยู่ พนักงานเลยให้ผมเข้าพบกับคุณหมอเบนซ์ โฆษิต เอี้ยวฉาย พนักงานบอกว่าเป็นคุณหมอที่เก่งเรื่องเสริมจมูกและปรับรูปหน้ามาก
วิธีนี้เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างจมูกโดยการ Open ไม่ใช่แค่การผ่าตัดเปิดจมูกแต่คือการเปิดจมูกเข้าไปเพื่อแก้ไขส่วนที่เสียหายหรือเปลี่ยนโครงสร้างตามที่ต้องการ เช่น ถ้าเป็นคนที่มีจมูกที่สั้น, ดูแหมบ, และจมูกดูกว้าง คุณหมอบอกว่าเสริมซิลิโคนไปก็ไม่ช่วยอะไร ทำออกมาจมูกยิ่งใหญ่ยิ่งเชิดกว่าเดิม แค่มีแท่งซิลิโคนมาแปะเพิ่ม จมูกก็ไม่ได้ดูเล็กลง และไม่ได้ยาวขึ้นแถมดูเป็นแท่งๆ ด้วย แต่หากแก้ด้วยวิธี Nose Reconstruction ของคุณหมอจะสามารถปรับลดฐานกระดูกจมูกทั้งสองข้างให้แคบลงให้ดูได้สัดส่วน เสริมสันจมูกด้วย Gore-Tex ซึ่งเป็นวัสดุที่แพทย์ใช้ในการทำหลอดเลือดเทียม ซึ่งดีกว่าการเสริมซิลิโคนตรงที่ไม่กระตุ้นร่างกายให้สร้างพังผืดและไม่มีหินปูนมาเกาะในอนาคต มีการยืดปลายจมูกให้พุ่งยาวด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูก ร่วมกับการเลาะพังพืดออกจนหมด นำซิลิโคนเหลวออกให้เยอะที่สุดและให้จมูกช้ำน้อยที่สุด วิธีนี้จะช่วยให้จมูกของผมเล็กลงเรียวรับกับสันจมูกที่สโลปสวย ที่สำคัญจมูกไม่ทะลุแน่นอน เพราะไม่มีการใช้ซิลิโคนเลย ซึ่งแตกต่างจากการ Open แล้วใช้แค่ซิลิโคน
คุณหมอใช้เครื่องมือ Vectra 3D สแกนใบหน้าของผม แบบ 360 องศา และคุณหมอตกแต่งให้ดูได้เลยว่า หลังแก้จมูกจะออกมาเป็นทรงแบบไหน ใช่ที่ผมต้องการหรือไม่ ทำให้ผมเห็นภาพและเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
นอกจากการทำให้จมูกสวยได้รูปแล้ว คุณหมอบอกว่าใบหน้าของผม ควรปรับรูปหน้าโดยการใช้ไขมันจากตัวผมเองมาเติมที่ใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาหน้าไม่เต็มอิ่ม หน้าดูแข็ง และโทรม ให้ดูดีขึ้นได้ คุณหมอแนะนำให้ฉีดไขมันตัวเองที่ ขมับ และร่องแก้ม จะช่วยให้หน้าดูมีมิติและดูเด็กรับกับจมูกใหม่ที่ดูสโลปและเรียวโด่งครับ
หลังจากที่ปรึกษาเสร็จ ผมตัดสินใจทำกับที่นี่เลยครับ ส่วนหนึ่งชอบที่สถานที่ดูสะอาด ได้มาตรฐานด้วย และอีกส่วนหนึ่งผมชอบที่คุณหมอเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการและอธิบายเรื่องที่ต้องแก้ไขได้เข้าใจและละเอียดดี พอผมตัดสินใจได้แล้ว ผมต้องตรวจเลือดเพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดว่าค่าเลือดผมปกติพอที่จะผ่าตัดได้ ถ้าคนที่เป็นโรคเลือดจาง อาจทำให้ผ่าตัดไม่ได้ครับ จากนั้น Confirm วันที่เข้าผ่าตัดและราคาที่ต้องจ่าย Clinic จะให้ใบนัดเวลาและวันผ่าตัดมาพร้อมบอกว่าผมควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง และย้ำเรื่องการงดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง เพราะมีการวางยาสลบก่อนผ่าตัดครับ
ได้เวลาแก้จมูกและเติมไขมันที่ใบหน้า
หลังจากที่ผมเข้าไปปรึกษาที่คลินิก ประมาณ 3 วัน ก็มีโทรศัพท์แจ้งเรื่องผลตรวจเลือดว่าผลเลือดของผมปกติ สามารถผ่าตัดได้ และย้ำเรื่องการดูแลตัวเองก่อนผ่าตัดอีกครั้งครับ จนถึงวันที่ผ่าตัดผมไป Clinic ตั้งแต่เช้าประมาณ 8.00 น. มีพนักงานมารอผมก่อนหน้านี้แล้ว พอเข้าไปพนักงานให้ผมเซ็นใบยินยอมก่อนทำศัลยกรรม และให้ผมชำระเงินส่วนเหลือ แล้วจึงนำยามาให้มีคุณพยาบาลแนะนำเรื่องการดูแลและการกินยาหลังการผ่าตัด จากนั้นผมก็ต้องไปเปลี่ยนชุดที่ Clinic ให้มา มีผ้าคลุมหัว ชุดคลุม และกางเกงใน อย่างละ 1 ชุด เปลี่ยนชุดเสร็จผมต้องไปล้างหน้า พนักงานพาผมมาที่ห้องผ่าตัดและกลับออกไป
คุณหมอเบนซ์เข้ามาคุยกับผม อธิบายว่าจะทำการเติมไขมันที่ใบหน้าก่อน ถึงจะแก้จมูก พอฟังเสร็จก็ขึ้นไปนอนบนเตียงครับ แล้วคุณหมอก็แจ้งว่าจะฉีดยาด้วยเทคนิค Painless วิธีนี้ จะทำให้ผมไม่กลัวและไม่เจ็บครับ แต่พอหมอฉีดเสร็จผมก็รู้สึกมึนแล้วก็หลับไป ตื่นมาอีกครั้งคือคุณหมอเติมไขมันให้เสร็จแล้ว แล้วมีคุณหมออีกท่านหนึ่ง แนะนำตัวว่าเป็นวิสัญญีแพทย์(เป็นวิสัญญีแพทย์ของทางคลินิกโดยตรงครับ) มาถามประวัติผม แล้วก็ให้ผมนอนที่เตียงจากนั้นคุณหมอบอกว่าจะให้ยาสลบแล้วนะคะ ผมก็นอนมองเพดานไป แล้วก็รู้สึกวูบไปเลยครับ
หลังจากที่ผมได้แก้จมูกและเติมไขมันที่ใบหน้า
ตื่นขึ้นมาคุณหมอที่เป็นวิสัญญีก็เรียกชื่อผมอยู่หลายครั้งจนผมตื่น ความรู้สึกแรกคือมึนครับ เหมือนหลับไม่เต็มอิ่มแล้วโดนปลุก ตอนนั้นมึนงงมาก แต่จำได้ว่าพยาบาลช่วยพาผมไปนอนพักอีกห้องหนึ่ง จากนั้นผมก็หลับไปอีก ตื่นจริงๆ คือตอนประมาณ 16.00 น. ตื่นมาพร้อมเสียงท้องที่ดังโครมครามอยู่ในตัวผม คุณพยาบาลเห็นผมตื่นก็ออกจากห้องแล้วเอาข้าวต้มหมูมาให้ผมกิน พร้อมน้ำแดง หลังกินเสร็จผมก็รู้สึกดีขึ้น ก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับ พนักงานก็เรียก Taxi ไว้ให้ผม พร้อมมาส่งผมที่ Taxi พี่หมอก็กลับมาด้วยกับผมครับ ส่งผมเข้าที่พักแล้วก็กลับ
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก