เรื่องสุดสะเทือนใจจาก คลับ ฟรายเดย์ เมื่อลูกสาวจับได้ว่าแม่มีอะไรกับสามีตัวเอง

patty

Junior Member
Registered
เข้าร่วม
23 ธันวาคม 2013
ข้อความ
14
382442_261181897326082_2081815562_n.jpg
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Club friday FC

สำหรับใครที่ติดตามรายการ คลับ ฟรายเดย์ ทางคลื่นกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ช่วง 108 คำถามหัวใจ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 19.00-20.00 น. คงได้ฟังเรื่องราวความรักที่มีทั้งสุข เศร้า ปะปนกันไป แต่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 ผู้ฟังหลายคนที่ติดตามรายการนี้อยู่กลับต้องเสียน้ำตาเมื่อได้ฟังเรื่องราวสุดสะเทือนใจจาก คุณแอร์ หญิง วัย 27 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์กับสามีซึ่งเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน แต่เธอกลับพบว่า แม่ วัย 47 ปี ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเธอและเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตเธอ กลับมีความสัมพันธ์ทางกายกับสามี วัย 35 ปี ของเธอด้วย

คุณแอร์ เล่าที่มาของเรื่องว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เธออาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังมาตลอด และทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่แม่ต้องการ ไม่ว่าแม่อยากให้เรียนอะไร หรือทำอะไร เธอก็จะทำ จนกระทั่งเรียนจบและเริ่มทำงาน เธอก็ไม่เคยคบหากับใคร เพราะมีแม่เพียงคนเดียว กระทั่งวันหนึ่งแม่ได้พาผู้ชายคนหนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก โดยบอกว่า ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นน้องที่ทำงาน นิสัยดี จึงอยากให้แต่งงานกับเธอ เพราะเชื่อว่าชายคนนี้จะดูแลเธอได้

จากนั้นเธอได้ทำความรู้จักกับชายคนนั้นเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ก็มองว่าเขาเป็นคนดี อบอุ่น น่าจะดูแลตัวเธอและครอบครัวได้ และคิดว่าแม่คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้ว เธอจึงยอมแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น โดยจัดพิธีแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย แล้วเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน โดยในบ้านมีคุณแอร์ สามี แม่ของเธอ และหลาน ซึ่งเป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องอาศัยอยู่ด้วย

หลังจากแต่งงานกันก็ใช้ชีวิตตามปกติทั่วไป แต่หนึ่งเดือนหลังจากนั้นคุณแอร์ก็ตั้งครรภ์ ด้วยความดีใจและมีความสุข ที่จะได้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ เธอจึงบอกเรื่องดังกล่าวให้ทุกคนในบ้านทราบ แต่แปลกที่แม่กับสามีของเธอกับไม่แสดงความยินดีเลย จนเธอได้แต่คิดว่าตัวเองปล่อยให้ท้องเร็วเกินไปหรือเปล่า หรือมีปัญหาอื่นเกิดขึ้น ซึ่งก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ไม่กล้าถามอะไรออกไป

จากนั้นสามีของเธอก็ยังคงดูแลเรื่องการกินอยู่ของเธอเป็นอย่างดี แต่ที่แปลกคือ แม่กับสามีของคุณแอร์มักออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ โดยไม่ชวนเธอเลยสักครั้ง และยังอ้างว่า เธอตั้งครรภ์แล้วควรอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย เวลาผ่านไป 4 เดือน เธอไม่เคยได้ทานข้าวพร้อมสามีหรือแม่ของเธอเลย ไม่เคยได้ใช้ช่วงเวลาครอบครัวกับสามี ส่วนกับแม่ก็รู้สึกห่างออกไปเรื่อยๆ จนเริ่มสงสัยว่าทำไมความใกล้ชิดสนิทสนมของแม่และสามีดูเกินเลยกว่าลูกเขยและแม่ยายธรรมดา

กระทั่งวันหนึ่งเมื่อเธอตื่นขึ้นมาราว ๆ 23.00 น. เธอไม่เห็นสามีนอนอยู่ข้าง ๆ แต่กลับได้ยินเสียงใครอีกคนอยู่ในห้องของแม่เธอ เนื่องจากบ้านที่อาศัยอยู่นั้นก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เธอจึงตัดสินใจนำกุญแจสำรองที่มีอยู่ในบ้านไปไขกลอนประตูห้องแม่ของเธอ แม้ว่าจะเป็นการเสียมารยาทก็ตาม และสิ่งที่เธอได้เห็นคาตาและทำให้เธอถึงกับใจสลาย คือ ผู้ให้กำเนิดเธอนอนบนเตียงเดียวกับสามีของเธอ และพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข

แม้จะเสียใจมาก ตอนนั้นเธอเดินไปกราบแม่ของเธอ พร้อมถามแม่ของเธอว่า ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร แต่เรามีเวรกรรมต่อกันใช่ไหม เธอเลยต้องชดใช้แม่ด้วยเรื่องนี้ และเธอคิดว่าคงไม่มีแม่คนไหนทำกับลูกแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงขอออกไปจากที่นี่ เพราะหากยังอยู่ต่อไปเธอคงต้องฆ่าตัวตายแน่ ๆ และที่แย่ไปกว่านั้น ขณะที่แม่ของเธอจะพยายามอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกว่าไม่ตั้งใจ แต่แม่ของเธอก็บอกว่าแม่เองก็กำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว คุณแอร์จึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่ออกจากบ้านไปทันที เพราะทนรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้

คุณแอร์เล่าต่อว่า เธอไปนั่งอยู่ตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประมาณ 3 ชั่วโมง โดยช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่สับสนมาก ๆ และยอมรับว่าอยากกระโดดน้ำฆ่าตัวตายหนีเรื่องนี้ไปให้พ้น ๆ จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรอีก เพราะตอนนี้เธอกับแม่มีสามีคนเดียวกัน หลานของแม่ที่อยู่ในท้องของเธอ คือลูกที่เกิดจากสามีของเธอกับแม่ และน้องของเธอที่อยู่ในท้องแม่ก็เป็นลูกของสามีเธอ...

แต่เพราะนึกถึงลูกที่อยู่ในท้อง จึงเลิกคิดสั้น และตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตตามลำพังเพื่อดูแลลูกของเธอ ซึ่งคุณแอร์ย้ำว่า ที่โทรมาเล่าเรื่องในรายการนี้ ไม่ใช่เพราะอยากประจานแม่หรือสามีของเธอเอง เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นยากเกินกว่าจะทำใจรับได้ และต้องการคนรับฟัง เพราะชีวิตเธอมีแค่แม่เพียงคนเดียวมาตลอด แต่แม่ผู้ให้กำเนิดเธอกลับทำร้ายจิตใจเธอเช่นนี้ เธอจึงอยากระบายให้ใครสักคนฟัง เพื่อช่วยส่งกำลังใจให้เธอ และไม่ซ้ำเติมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากคำบอกเล่าของคุณแอร์เท่านั้น หากใครที่อยากฟังเรื่องราวสุดสะเทือนใจเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นแบบอย่างของการก้าวข้ามความเจ็บช้ำ เพื่อใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง ลองไปรับฟังพร้อม ๆ กันเลย

ที่มา www.kapook.com
 
อันนี้ไม่ได้ฟังสดๆ แต่อ่านจากพันทิป เป็นเรื่องสะเทือนใจเอามากๆ ระหว่าง 2 แม่ลูก ที่มีสามีคนเดียวกัน :(
 
กลับ
บน ล่าง