- เข้าร่วม
- 6 ตุลาคม 2017
- ข้อความ
- 4
โอ้ยเบื่อออออออ เบื่อสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นนี่แหละค่ะ ทำลายเวลาชีวิตเรามาก เพราะเราเป็นสตรีตาตี่ เลยต้องทนติดสติ๊กเกอร์เพื่อให้ตาดูมีชั้นดูแบ๊วๆ แต่ใครจะรู้การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นมันใช้เวลาติดนานมาก สำหรับคนตาเล็กแบบเรา คือถ้าวันไหนติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นเราเสียเวลาไปแล้ว 15-20 นาทีเลย เพราะเราติดไม่ค่อยเก่ง แล้วชั้นตาเราเล็กมากเลยทำให้ติดยาก
รูปหน้าสดแบบไม่มีชั้นตาคือดูจืดมาก แต่พอแต่งหน้าแล้วติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็โป๊ะมากเช่นกัน
เริ่มหาวิธีอื่นที่ไม่ใช่การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ก่อนเลย แต่เสิร์จหาเท่าไหร่ก็เจอแต่ ทำตาสองชั้นๆๆๆๆ วนเวียนผ่านตาอยู่ตลอด ตอนนั้นเลยเหมือนโดนสะกดจิตอ่ะ อารมณ์เหมือนเห็นของ Sale ก็อยากซื้อกันใช่ไหม อันนี้เราเห็นทำตาสองชั้นบ่อยๆ มันทำให้เราแบบเห้ย ทำตาสองชั้นดีกว่า จะได้จบๆ ไม่ต้องนั่งงมติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นตลอด
ถ้าแต่งหน้าแบบไม่ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็จะเป็นแบบนี้
พอตัดสินใจได้แล้วเราก็เริ่มหาที่ ที่ทำตาสองชั้นสวยๆ คือก็เล็งๆ ไว้อยู่สองสามที่ เพราะชื่อเสียงเรื่องการทำตาค่อนข้างดัง แต่สุดท้ายก็ได้ตกล่องปล่องชิ้นกับคลินิกผีเสื้อเขียวนามว่า มาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ ถ้าถามว่าทำไมเราถึงกล้าไปทำ เพราะเราเห็นพี่สาวที่รู้จักไปทำมาแล้วคืองามงด ตานี้บริ๊งๆ มาแต่ไกล ตัดสินใจเลือกที่ทำตาว่ายากแล้ว ตัดสินใจทำเราว่ายากกว่า เพราะหน้าเราไม่เคยผ่านมือหมอ มีดหมอใดๆ ทั้งสิ้นมาก่อนเลย
ตอนที่เจอพี่สาวตาสวยของเรา เราเลยถามไว้ยับเลยค่ะ ว่าวิธีเป็นยังไง เจ็บไหม พักฟื้นเยอะหรือเปล่า บลาๆๆๆ พี่สาวเราก็บอกมันไม่เจ็บเลย ตอนทำก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าอยากสวยแล้วไม่กล้าที่จะทำ แล้วเมื่อไหร่จะสวย เราก็อ่ะ พูดขนาดนี้ หนูขอเจริญรอยตามขุ่นแม่เลยดีกว่าค่า
หมออาร์ม (นพ. นวชน สิริกาญจนพล) เห็นรูปแล้วคือปลื้ม 555555
เริ่มแรกเราต้องขอนัดคิวกับทางคลินิกก่อนค่ะ @line ไปที่ @masterpiececlinic เพื่อเข้าไปปรึกษาให้หมอประเมินตาของเรา เราได้ปรึกษากับหมอผู้ชายค่ะ ชื่อหมออาร์ม (นพ. นวชน สิริกาญจนพล) เราเป็นสาวสมัยใหม่เนาะ เทคโนโลยีมีในมือแล้ว จะปล่อยไว้เฉยๆ ทำไมใช่ไหม หาข้อมูลสิคะรออะไร เอาชื่อไปเสิร์จใน google แล้วเห็นรูปหมอ คือแบบ อุ้ยงานดีเราชอบอ่ะ 555555
รู้ตัวอีกทีก็อยู่คลินิกแล้ว วันนี้มาปรึกษากับหมออาร์ม คลินิกอะไรคนเยอะเว่อร์ รอจนเมื่อยเลย
วันปรึกษาเราไปก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง แต่ที่คลินิกคนเยอะเว่อร์ เวลานัดเลยเลื่อนไปเรื่อยๆๆๆ พนักงานก็มาขอโทษขอโพด เราเลยได้แต่ยิ้มสวยใส่ แต่ในใจเรา เมื่อไหร่จะถึงคิวว้า 555555 สิริรวมเวลาในการนั่งรอไป 2 ชั่วโมงได้ ดีที่มีน้ำมีขนมให้นั่งกินรอ อยากสวยต้องอดทน 555555
มุมขนม เรานั่งกินจนอิ่มเลย 555555
ในที่สุดก็จะได้เจอหมอซักที (นี่จะมาทำตา หรือจะมาแอ้วหมอ555555) หมอตัวจริงน่ารักค่ะ คุยดี มีความตั้งใจมากค่ะ (ตอนแรกกลัวหมอหล่อแล้วจะแบด แต่ที่ไหนได้ น่ารักมาก)ตอนประเมิน หมอจะถามความต้องการของเราก่อน อย่างเราชอบตาสองชั้นที่มันไม่หนามาก แต่อยากให้ตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น หมอก็จะเอาเครื่องมือวัดทำชั้นตาให้เราดู ว่าชอบแบบไหนประมาณไหนคุยเสร็จหมอสรุปว่าจะทำตาให้เราแบบแผลเล็กค่ะเป็นการกรีดสั้นไม่มีการตัดหนังตาออกเพราะหนังตาไม่เยอะ แต่จะเอาไขมันที่เปลือกตาออกเพราะตาเราตุ่ย ถ้าไม่เอาออกชั้นตาจะตกเร็ว แล้วดูไม่ชัด แล้วคุณหมอแนะนำให้ทำชั้นตาหนาขึ้นมานิดนึง เพื่อให้เข้ากับใบหน้าของเรา ทำออกมาแล้วพอแต่งตาหน้าจะดูเฉี่ยวสวย ถึงไม่กรีดอายไลน์เนอร์ก็ยังดูเป็นธรรมชาติเพราะไม่หนาจนเกินไป คุณหมอให้คำแนะนำค่อนข้างชัดเจน เป็นที่ปรึกษาความงามได้ดีมากค่ะ
คุยจบแต่เรื่องยังไม่จบ เราออกมานั่งคิด นั่งตัดสินใจอีกรอบว่าจะทำดีไหม แต่โดยรวมเราชอบนะ บรรยากาศดี เดินทางก็ง่าย หมอก็น่ารัก แนะนำดี๊ดี(ข้อนี้สำคัญ 555555) ติดแค่เรื่องคนเยอะ ซึ่งเราไม่คอยมีปัญหากับเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจทำตาสองชั้นกับหมออาร์มค่ะ
ช่วงนั้นก็จะเที่ยวแนวนี้ซะส่วนใหญ่ เบาๆ ชิวๆ รักสุขภาพ
ระหว่างนั้นเราก็ตระเวนทำบุญเก้าวัด เห้ย ไม่ใช่! เราก็ดูแลตัวเองตามที่คลินิกแนะนำค่ะ ที่จริงตลอด 2 อาทิตย์ที่เฝ้าลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถึงวันทำตาสองชั้นซะที เราก็แทบจะถือศีล 5 เลยค่ะ เหล้าเบียร์ไม่ยุ่ง มุ่งดูแลสุขภาพให้พร้อม เพื่อนชวนไปสังสรรค์ที่ไหน เราเทยับเลย 555555
หลังจากผ่าน 2 อาทิตย์หรรษาไป ในที่สุดก็ถึงเวลาซักที ถึงจะเฝ้ารออยากทำตาสองชั้นมาตลอด แต่พอถึงเวลาจริงก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ไปถึงคลินิกเราตื่นเต้นจนมือเย็นเลยแต่ใจดีสู้เสือค่ะไหนๆ ก็ตัดสินใจจะทำแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุดจ้า ที่จริงก็มีพนักงานมาให้กำลังใจเราอยู่ค่ะ เลยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ระหว่างทำไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่พี่สาวคนสวยเราบอกจริงๆ คือตอนทำเราก็นอนหลับตาตลอด คือคนกลัวเลือดกลัวเข็มไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเรามองไม่เห็น 555555 (อาจมีหวาดเสียวตอนฉีดยาบ้าง เพราะหมอจะบอกก่อนว่าจะฉีดยาชา) ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ เราดูเวลาสิริรวมตั้งแต่เข้าห้องยันออกจากห้องก็ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ออกมาจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็พาไปนอนประคบเย็นที่ห้องพักฟื้นเพื่อลดอาการบวม เรานอนประมาณ 15 นาทีให้ตาพอหายตึงบ้าง ก็กลับบ้านค่ะ
หลังทำเสร็จใหม่ๆ เรานอนพักที่ห้องพักฟื้น เลยถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ
กลับมาถึงบ้าน รื้อถุงยาออกมาดูได้ยามาอยู่ 4-5 ชุด ส่วนใหญ่จะเป็นยาลดบวมและแก้อักเสบ แล้วก็มีครีมทาตาเพื่อกันแผลติดเชื้อด้วยค่ะ เรากินยาตามที่หมอบอก แบบเคร่งครัด เพราะกลัวแผลจะติดเชื้อ (เรากลัวมาก กลัวตาพัง) กินข้าวเสร็จ กินยา ทำความสะอาดตา แล้วก็ประคบเย็น ทำวนไป จนตัดไหมเลยค่ะ เราถ่ายรูปตาเก็บไว้ แล้วเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าแผลหายไวมาก อาจจะเพราะเราทำแผลเล็กด้วยเลยหายเร็ว
แผลที่ตาหายเร็วมากจริงๆ
วันที่ 3 ก็แต่งหน้าเบาๆ ได้แล้วค่ะ แต่เว้นช่วงตาไว้หน่อย
รูปหน้าสดแบบไม่มีชั้นตาคือดูจืดมาก แต่พอแต่งหน้าแล้วติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็โป๊ะมากเช่นกัน
เริ่มหาวิธีอื่นที่ไม่ใช่การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ก่อนเลย แต่เสิร์จหาเท่าไหร่ก็เจอแต่ ทำตาสองชั้นๆๆๆๆ วนเวียนผ่านตาอยู่ตลอด ตอนนั้นเลยเหมือนโดนสะกดจิตอ่ะ อารมณ์เหมือนเห็นของ Sale ก็อยากซื้อกันใช่ไหม อันนี้เราเห็นทำตาสองชั้นบ่อยๆ มันทำให้เราแบบเห้ย ทำตาสองชั้นดีกว่า จะได้จบๆ ไม่ต้องนั่งงมติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นตลอด
ถ้าแต่งหน้าแบบไม่ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็จะเป็นแบบนี้
พอตัดสินใจได้แล้วเราก็เริ่มหาที่ ที่ทำตาสองชั้นสวยๆ คือก็เล็งๆ ไว้อยู่สองสามที่ เพราะชื่อเสียงเรื่องการทำตาค่อนข้างดัง แต่สุดท้ายก็ได้ตกล่องปล่องชิ้นกับคลินิกผีเสื้อเขียวนามว่า มาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ ถ้าถามว่าทำไมเราถึงกล้าไปทำ เพราะเราเห็นพี่สาวที่รู้จักไปทำมาแล้วคืองามงด ตานี้บริ๊งๆ มาแต่ไกล ตัดสินใจเลือกที่ทำตาว่ายากแล้ว ตัดสินใจทำเราว่ายากกว่า เพราะหน้าเราไม่เคยผ่านมือหมอ มีดหมอใดๆ ทั้งสิ้นมาก่อนเลย
ตอนที่เจอพี่สาวตาสวยของเรา เราเลยถามไว้ยับเลยค่ะ ว่าวิธีเป็นยังไง เจ็บไหม พักฟื้นเยอะหรือเปล่า บลาๆๆๆ พี่สาวเราก็บอกมันไม่เจ็บเลย ตอนทำก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าอยากสวยแล้วไม่กล้าที่จะทำ แล้วเมื่อไหร่จะสวย เราก็อ่ะ พูดขนาดนี้ หนูขอเจริญรอยตามขุ่นแม่เลยดีกว่าค่า
หมออาร์ม (นพ. นวชน สิริกาญจนพล) เห็นรูปแล้วคือปลื้ม 555555
เริ่มแรกเราต้องขอนัดคิวกับทางคลินิกก่อนค่ะ @line ไปที่ @masterpiececlinic เพื่อเข้าไปปรึกษาให้หมอประเมินตาของเรา เราได้ปรึกษากับหมอผู้ชายค่ะ ชื่อหมออาร์ม (นพ. นวชน สิริกาญจนพล) เราเป็นสาวสมัยใหม่เนาะ เทคโนโลยีมีในมือแล้ว จะปล่อยไว้เฉยๆ ทำไมใช่ไหม หาข้อมูลสิคะรออะไร เอาชื่อไปเสิร์จใน google แล้วเห็นรูปหมอ คือแบบ อุ้ยงานดีเราชอบอ่ะ 555555
รู้ตัวอีกทีก็อยู่คลินิกแล้ว วันนี้มาปรึกษากับหมออาร์ม คลินิกอะไรคนเยอะเว่อร์ รอจนเมื่อยเลย
วันปรึกษาเราไปก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง แต่ที่คลินิกคนเยอะเว่อร์ เวลานัดเลยเลื่อนไปเรื่อยๆๆๆ พนักงานก็มาขอโทษขอโพด เราเลยได้แต่ยิ้มสวยใส่ แต่ในใจเรา เมื่อไหร่จะถึงคิวว้า 555555 สิริรวมเวลาในการนั่งรอไป 2 ชั่วโมงได้ ดีที่มีน้ำมีขนมให้นั่งกินรอ อยากสวยต้องอดทน 555555
มุมขนม เรานั่งกินจนอิ่มเลย 555555
ในที่สุดก็จะได้เจอหมอซักที (นี่จะมาทำตา หรือจะมาแอ้วหมอ555555) หมอตัวจริงน่ารักค่ะ คุยดี มีความตั้งใจมากค่ะ (ตอนแรกกลัวหมอหล่อแล้วจะแบด แต่ที่ไหนได้ น่ารักมาก)ตอนประเมิน หมอจะถามความต้องการของเราก่อน อย่างเราชอบตาสองชั้นที่มันไม่หนามาก แต่อยากให้ตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น หมอก็จะเอาเครื่องมือวัดทำชั้นตาให้เราดู ว่าชอบแบบไหนประมาณไหนคุยเสร็จหมอสรุปว่าจะทำตาให้เราแบบแผลเล็กค่ะเป็นการกรีดสั้นไม่มีการตัดหนังตาออกเพราะหนังตาไม่เยอะ แต่จะเอาไขมันที่เปลือกตาออกเพราะตาเราตุ่ย ถ้าไม่เอาออกชั้นตาจะตกเร็ว แล้วดูไม่ชัด แล้วคุณหมอแนะนำให้ทำชั้นตาหนาขึ้นมานิดนึง เพื่อให้เข้ากับใบหน้าของเรา ทำออกมาแล้วพอแต่งตาหน้าจะดูเฉี่ยวสวย ถึงไม่กรีดอายไลน์เนอร์ก็ยังดูเป็นธรรมชาติเพราะไม่หนาจนเกินไป คุณหมอให้คำแนะนำค่อนข้างชัดเจน เป็นที่ปรึกษาความงามได้ดีมากค่ะ
คุยจบแต่เรื่องยังไม่จบ เราออกมานั่งคิด นั่งตัดสินใจอีกรอบว่าจะทำดีไหม แต่โดยรวมเราชอบนะ บรรยากาศดี เดินทางก็ง่าย หมอก็น่ารัก แนะนำดี๊ดี(ข้อนี้สำคัญ 555555) ติดแค่เรื่องคนเยอะ ซึ่งเราไม่คอยมีปัญหากับเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจทำตาสองชั้นกับหมออาร์มค่ะ
ช่วงนั้นก็จะเที่ยวแนวนี้ซะส่วนใหญ่ เบาๆ ชิวๆ รักสุขภาพ
ระหว่างนั้นเราก็ตระเวนทำบุญเก้าวัด เห้ย ไม่ใช่! เราก็ดูแลตัวเองตามที่คลินิกแนะนำค่ะ ที่จริงตลอด 2 อาทิตย์ที่เฝ้าลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถึงวันทำตาสองชั้นซะที เราก็แทบจะถือศีล 5 เลยค่ะ เหล้าเบียร์ไม่ยุ่ง มุ่งดูแลสุขภาพให้พร้อม เพื่อนชวนไปสังสรรค์ที่ไหน เราเทยับเลย 555555
หลังจากผ่าน 2 อาทิตย์หรรษาไป ในที่สุดก็ถึงเวลาซักที ถึงจะเฝ้ารออยากทำตาสองชั้นมาตลอด แต่พอถึงเวลาจริงก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ไปถึงคลินิกเราตื่นเต้นจนมือเย็นเลยแต่ใจดีสู้เสือค่ะไหนๆ ก็ตัดสินใจจะทำแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุดจ้า ที่จริงก็มีพนักงานมาให้กำลังใจเราอยู่ค่ะ เลยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ระหว่างทำไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่พี่สาวคนสวยเราบอกจริงๆ คือตอนทำเราก็นอนหลับตาตลอด คือคนกลัวเลือดกลัวเข็มไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเรามองไม่เห็น 555555 (อาจมีหวาดเสียวตอนฉีดยาบ้าง เพราะหมอจะบอกก่อนว่าจะฉีดยาชา) ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ เราดูเวลาสิริรวมตั้งแต่เข้าห้องยันออกจากห้องก็ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ออกมาจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็พาไปนอนประคบเย็นที่ห้องพักฟื้นเพื่อลดอาการบวม เรานอนประมาณ 15 นาทีให้ตาพอหายตึงบ้าง ก็กลับบ้านค่ะ
หลังทำเสร็จใหม่ๆ เรานอนพักที่ห้องพักฟื้น เลยถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ
กลับมาถึงบ้าน รื้อถุงยาออกมาดูได้ยามาอยู่ 4-5 ชุด ส่วนใหญ่จะเป็นยาลดบวมและแก้อักเสบ แล้วก็มีครีมทาตาเพื่อกันแผลติดเชื้อด้วยค่ะ เรากินยาตามที่หมอบอก แบบเคร่งครัด เพราะกลัวแผลจะติดเชื้อ (เรากลัวมาก กลัวตาพัง) กินข้าวเสร็จ กินยา ทำความสะอาดตา แล้วก็ประคบเย็น ทำวนไป จนตัดไหมเลยค่ะ เราถ่ายรูปตาเก็บไว้ แล้วเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าแผลหายไวมาก อาจจะเพราะเราทำแผลเล็กด้วยเลยหายเร็ว
แผลที่ตาหายเร็วมากจริงๆ
วันที่ 3 ก็แต่งหน้าเบาๆ ได้แล้วค่ะ แต่เว้นช่วงตาไว้หน่อย
7 วันผ่านไป ตายุบจากวันแรกเร็วมากค่ะ
ช่วงอาทิตย์แรกสำหรับเรา คือไม่มีอะไรเลยค่ะ เห็นของบางคนจะมีรู้สึกเจ็บบ้างที่ตา แต่ของเราไม่มีเลย มีแต่อาการบวม ซึ่งพอเรากินยา และประคบเย็นก็รู้สึกว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ ตอนที่ไปตัดไหม ก็ได้คุยกับหมออีกครั้งหมอชมว่าเราดูแลแผลดี ไม่ติดเชื้อ ไม่ค่อยบวมแล้ว ซัก 1 เดือนก็น่าจะเข้าที่แล้วแหละ ระหว่างนี้ก็ให้เราประคบอุ่นแทน อีก 1-2 อาทิตย์ แล้วครบ 1 เดือนก็มาเจอหมออีกรอบ
14 วันแล้ว ชั้นตาชัดไม่บวมเลยคือดีมากอ่ะช่วงอาทิตย์แรกสำหรับเรา คือไม่มีอะไรเลยค่ะ เห็นของบางคนจะมีรู้สึกเจ็บบ้างที่ตา แต่ของเราไม่มีเลย มีแต่อาการบวม ซึ่งพอเรากินยา และประคบเย็นก็รู้สึกว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ ตอนที่ไปตัดไหม ก็ได้คุยกับหมออีกครั้งหมอชมว่าเราดูแลแผลดี ไม่ติดเชื้อ ไม่ค่อยบวมแล้ว ซัก 1 เดือนก็น่าจะเข้าที่แล้วแหละ ระหว่างนี้ก็ให้เราประคบอุ่นแทน อีก 1-2 อาทิตย์ แล้วครบ 1 เดือนก็มาเจอหมออีกรอบ
1 เดือนแล้ว ตามันก็จะดูหวานๆ หน่อย ตาก็ไม่บวมแล้วด้วย คือ เห้ย จะหายบวมเร็วไปไหน
ไปติดตามผลตอนครบ 1 เดือนค่ะ หมอน่ารักมาก ดูแลดีค่ะ ปลื้มมมม 555555
ตอนนี้ตาเราก็ครบเดือนแล้วนะ คือรู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่หลังทำตาสองชั้นมาชีวิตง่ายขึ้น เร็วขึ้น เวลาชีวิตที่เสียไปกับการติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ตอนนี้คือดี ตื่นมาก็แต่งหน้าได้เลย คือชอบมาก แล้วชั้นตาก็ธรรมชาติสุดๆ ดูไม่ขัดกับหน้าค่ะ ตาไม่โป๊ ไม่ปรือ ไม่งอแงแบบนี้ เราขอให้คะแนนตาสองชั้นสวยๆ ด้วยคะแนน 10 เต็ม 10 เลยค่ะ เอาจริงๆ เราว่าสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นมันดีไหม มันก็ดีอยู่ แต่เราว่าทำตาสองชั้นดีกว่า จ่ายแค่ 35,000 บาท แต่มันอยู่กับเราได้นาน และไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียเงินหลายๆ รอบ มันเป็นอะไรที่คุ้มกับการลงทุนจริงๆ ค่ะ
ตอนนี้ตาเราก็ครบเดือนแล้วนะ คือรู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่หลังทำตาสองชั้นมาชีวิตง่ายขึ้น เร็วขึ้น เวลาชีวิตที่เสียไปกับการติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ตอนนี้คือดี ตื่นมาก็แต่งหน้าได้เลย คือชอบมาก แล้วชั้นตาก็ธรรมชาติสุดๆ ดูไม่ขัดกับหน้าค่ะ ตาไม่โป๊ ไม่ปรือ ไม่งอแงแบบนี้ เราขอให้คะแนนตาสองชั้นสวยๆ ด้วยคะแนน 10 เต็ม 10 เลยค่ะ เอาจริงๆ เราว่าสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นมันดีไหม มันก็ดีอยู่ แต่เราว่าทำตาสองชั้นดีกว่า จ่ายแค่ 35,000 บาท แต่มันอยู่กับเราได้นาน และไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียเงินหลายๆ รอบ มันเป็นอะไรที่คุ้มกับการลงทุนจริงๆ ค่ะ
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก