- เข้าร่วม
- 14 พฤศจิกายน 2013
- ข้อความ
- 421
ความสวยเซ็กซี่ที่สาวๆหลายคนไฝ่ฝันคือการมีบั้นท้ายที่สวยกลมกลึงได้รูป จะแต่งชุดไหนก็ดูดี ส่วนสาวๆที่สะโพกแบน ก้นแฟบมักจะมีอุปสรรคในเรื่องการแต่งตัว ขาดความมั่นใจ ทำให้เวลาสวมใส่เสื้อผ้าบริเวณก้นมีลักษณะย่น ไม่เต็มก้น ใส่แล้วดูไม่สวยงาม สาวๆ ที่มีปัญหาก้นแบน แล้วอยากก้นสวย กลมกลึง บางคนก็เลือกแก้ปัญหาด้วยการสวมกางเกงในเสริมก้น เสริมสะโพก ซึ่งก็ทำได้แต่ก็ต้องใส่กันทุกวันไปตลอด แต่ถ้าอยากมีบั้นท้ายกลมกลึงสวยงามอย่างถาวรในเร็ววัน สามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อผ่าตัดเสริมก้น เสริมสะโพกได้ค่ะ
การเสริมก้น เสริมสะโพกเหมาะกับใคร ?
1.ก้นเล็กตั้งแต่กำเนิด ลีบ แฟ่บ ต้องการใส่กางเกงรัดรูป หรือบิกินี่ให้ดูเข้ารูปมากขึ้น
2.ผู้ที่เคยเสริมหน้าอกแล้ว ถ้าเสริมก้นไปอีก จะทำให้ดูมีสัดส่วนและดูเซ็กซี่มากขึ้น
3.ผู้ที่ลดน้ำหนักมากเกินไป มีการยกกระชับ อาจต้องเสริมก้นเพิ่มด้วย
4.ผู้ที่มีปัญหาบั้นท้ายหย่อนยานตามวัย ต้องการเสริมให้ดูเต่งตึงขึ้น
5.ผู้ที่ไม่ต้องการใส่กางเกงในเสริมก้น อยากใส่กางเกงรัดรูป โชว์สะโพกได้อย่างมั่นใจ
รูปร่างของถุงซิลิโคนสะโพกจะแตกต่างจากถุงเต้านม โดยจะมี 2 แบบ คือ ทรงกลมและทรงวงรี
ทรงกลม
มีรูปร่างกลมแต่จะแบนกว่าถุงซิลิโคนที่ใช้เสริมเต้านม ใช้สำหรับเสริมบริเวณสะโพกด้านใน
ข้อดี : ทรงกลมใส่ง่ายกว่าทรงวงรีและไม่มีโอกาสเคลื่อนตัว หมุนอย่างไรก็ไม่เป็นไร ช่วยให้วางตำแหน่งได้ง่าย
ข้อเสีย : ไม่สามารถเน้นการเสริมเฉพาะจุดได้
ถุงทรงวงรีหรือทรงหยดน้ำ
เหมาะสำหรับเน้นบางจุดเพราะสามารถหมุนได้ทุกทิศทาง ถ้าคนไข้ต้องการเสริมเฉพาะด้านนอก ไม่ต้องการเน้นด้านใน กรณีนี้ต้องใช้ทรงหยดน้ำ เพราะมีให้เลือกทั้งขั้วเล็ก ขั้วใหญ่ ในขณะที่ทรงกลมไม่มีขั้ว ทุกด้านเท่ากันหมด
ข้อดี : สามารถเน้นตำแหน่งที่ต้องการได้
ข้อเสีย : ซิลิโคนมักจะเคลื่อนที่ง่าย ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ถุงซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพกที่ใช้ ภายในจะบรรจุด้วยซิลิโคนเจลเท่านั้น ไม่มีการผลิตแบบถุงน้ำเกลือ เนื่องจากโอกาสที่ถุงน้ำเกลือจะรั่วมีมากกว่าถุงเจล เพราะการเสริมสะโพกเป็นการใส่ถุงในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหว ทำให้มีแรงกดบริเวณถุงสะโพกมากกว่าถุงเต้านม เจลที่บรรจุในถุงซิลิโคนเป็นเจลที่มีความหนาแน่นมาก (High Cohesive gel)
เตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
1.งดยาแอสไพริน บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดอาหารประเภทกระเทียม หัวหอม น้ำมันปลา วิตามินอี และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะอาหารพวกนี้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เลือดออกมากระหว่างผ่าตัดได้
2.งดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
3.ถ้ามีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
4.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ไม่ควรผ่าตัด
5.การผ่าตัดเสริมสะโพกไม่ควรทำร่วมกับการผ่าตัดอื่นๆ บริเวณส่วนหน้าของร่างกาย เช่น การตัดไขมันหน้าท้องหรือการเสริมหน้าอก เพราะจะมีปัญหาในการดูแลหลังผ่าตัด ยกเว้นการดูดไขมันเล็กน้อยอาจทำร่วมกันได้
6.ควรมีผู้ดูแลที่บ้านหลังการผ่าตัด
7.งดสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
1.ต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 2 คืน
2.สัปดาห์แรกควรพักผ่อนมากๆ แต่ไม่จำเป็นต้องนอนบนเตียงตลอดเวลา โดยทั่วไป ในวันที่ 4 สามารถเดินหรือนั่งอย่างช้าๆ โดยอาจรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างเล็กน้อย
3.นอนคว่ำในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ห้ามนอนหงายเพราะจะเป็นการกดทับถุงซิลิโคน
4.หลังจากเปิดแผล ควรทำความสะอาดแผลทุกวันจนถึงวันตัดไหม
5.เปิดผ้าพันแผลวันที่ 2 หรือ 3
6.ระวังอย่าให้พลาสเตอร์เปียกน้ำ
7.สัปดาห์ที่สองสามารถนั่งบนเบาะนิ่มๆ ได้
8.หลังผ่าตัดประมาณ 10 วัน จึงจะสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
9.อาการปวดบริเวณสะโพกอาจเกิดขึ้นได้ใน 1 – 3 เดือนแรก
10.จะไม่รู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมที่สะโพกภายใน 6 – 8 เดือน
11.ใส่กางเกงรัดไว้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กางเกงนี้เปรียบเสมือนตัวควบคุมตำแหน่งซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนที่
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมทุกครั้งถือเป็นเรื่องดีที่สุด เตรียมร่างกาย เตรียมจิตใจให้พร้อม สำหรับน้องๆที่ไม่อยากบวมช้ำนาน แอดมินแนะนำทานหยุนหนานไป๋เหยาเขียวก่อนการเสริมก้น 3-5 วัน และทานต่อเนื่องหลังทำ ซึ่งหยุนหนานสามารถทานติดต่อกันได้ 6 แผง แต่ถ้าจะให้ดีควรทานคู่กับบัวบกและเหล่งเอี๊ยง Extra เพื่อการฟื้นฟูร่างกาย ให้หายไว สวยเร็วขึ้น โดยสามารถทานร่วมกับยาของคุณหมอได้เลย ไม่ต้องกังวลใจนะคะ
เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง น้องๆที่มีแพลนทำศัลยกรรม สามารถปรึกษาแอดมินได้เลยนะคะ ทางร้านเราแนะนำดูแลแบบเคสต่อเคส สมุนไพรร้านเราเน้นสดใหม่ ปลอดภัย หายห่วงค่ะอยากได้ด่วนๆ เรามีบริการส่งแมสภายกรุงเทพและปริมณฑลนะคะ
ดูรีวิวเพิ่มเติมแน่นๆจากลูกค้าที่ทานจริงๆได้ตามลิงค์นี้นะคะ https://goo.gl/SSHQ7R
ติดต่อสอบถาม Line : @surgerycare , Tel. 097-4475573
www.surgery-care.lnwshop.com
การเสริมก้น เสริมสะโพกเหมาะกับใคร ?
1.ก้นเล็กตั้งแต่กำเนิด ลีบ แฟ่บ ต้องการใส่กางเกงรัดรูป หรือบิกินี่ให้ดูเข้ารูปมากขึ้น
2.ผู้ที่เคยเสริมหน้าอกแล้ว ถ้าเสริมก้นไปอีก จะทำให้ดูมีสัดส่วนและดูเซ็กซี่มากขึ้น
3.ผู้ที่ลดน้ำหนักมากเกินไป มีการยกกระชับ อาจต้องเสริมก้นเพิ่มด้วย
4.ผู้ที่มีปัญหาบั้นท้ายหย่อนยานตามวัย ต้องการเสริมให้ดูเต่งตึงขึ้น
5.ผู้ที่ไม่ต้องการใส่กางเกงในเสริมก้น อยากใส่กางเกงรัดรูป โชว์สะโพกได้อย่างมั่นใจ
รูปร่างของถุงซิลิโคนสะโพกจะแตกต่างจากถุงเต้านม โดยจะมี 2 แบบ คือ ทรงกลมและทรงวงรี
ทรงกลม
มีรูปร่างกลมแต่จะแบนกว่าถุงซิลิโคนที่ใช้เสริมเต้านม ใช้สำหรับเสริมบริเวณสะโพกด้านใน
ข้อดี : ทรงกลมใส่ง่ายกว่าทรงวงรีและไม่มีโอกาสเคลื่อนตัว หมุนอย่างไรก็ไม่เป็นไร ช่วยให้วางตำแหน่งได้ง่าย
ข้อเสีย : ไม่สามารถเน้นการเสริมเฉพาะจุดได้
ถุงทรงวงรีหรือทรงหยดน้ำ
เหมาะสำหรับเน้นบางจุดเพราะสามารถหมุนได้ทุกทิศทาง ถ้าคนไข้ต้องการเสริมเฉพาะด้านนอก ไม่ต้องการเน้นด้านใน กรณีนี้ต้องใช้ทรงหยดน้ำ เพราะมีให้เลือกทั้งขั้วเล็ก ขั้วใหญ่ ในขณะที่ทรงกลมไม่มีขั้ว ทุกด้านเท่ากันหมด
ข้อดี : สามารถเน้นตำแหน่งที่ต้องการได้
ข้อเสีย : ซิลิโคนมักจะเคลื่อนที่ง่าย ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ถุงซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพกที่ใช้ ภายในจะบรรจุด้วยซิลิโคนเจลเท่านั้น ไม่มีการผลิตแบบถุงน้ำเกลือ เนื่องจากโอกาสที่ถุงน้ำเกลือจะรั่วมีมากกว่าถุงเจล เพราะการเสริมสะโพกเป็นการใส่ถุงในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหว ทำให้มีแรงกดบริเวณถุงสะโพกมากกว่าถุงเต้านม เจลที่บรรจุในถุงซิลิโคนเป็นเจลที่มีความหนาแน่นมาก (High Cohesive gel)
เตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
1.งดยาแอสไพริน บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดอาหารประเภทกระเทียม หัวหอม น้ำมันปลา วิตามินอี และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะอาหารพวกนี้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เลือดออกมากระหว่างผ่าตัดได้
2.งดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
3.ถ้ามีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
4.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ไม่ควรผ่าตัด
5.การผ่าตัดเสริมสะโพกไม่ควรทำร่วมกับการผ่าตัดอื่นๆ บริเวณส่วนหน้าของร่างกาย เช่น การตัดไขมันหน้าท้องหรือการเสริมหน้าอก เพราะจะมีปัญหาในการดูแลหลังผ่าตัด ยกเว้นการดูดไขมันเล็กน้อยอาจทำร่วมกันได้
6.ควรมีผู้ดูแลที่บ้านหลังการผ่าตัด
7.งดสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
1.ต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 2 คืน
2.สัปดาห์แรกควรพักผ่อนมากๆ แต่ไม่จำเป็นต้องนอนบนเตียงตลอดเวลา โดยทั่วไป ในวันที่ 4 สามารถเดินหรือนั่งอย่างช้าๆ โดยอาจรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างเล็กน้อย
3.นอนคว่ำในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ห้ามนอนหงายเพราะจะเป็นการกดทับถุงซิลิโคน
4.หลังจากเปิดแผล ควรทำความสะอาดแผลทุกวันจนถึงวันตัดไหม
5.เปิดผ้าพันแผลวันที่ 2 หรือ 3
6.ระวังอย่าให้พลาสเตอร์เปียกน้ำ
7.สัปดาห์ที่สองสามารถนั่งบนเบาะนิ่มๆ ได้
8.หลังผ่าตัดประมาณ 10 วัน จึงจะสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
9.อาการปวดบริเวณสะโพกอาจเกิดขึ้นได้ใน 1 – 3 เดือนแรก
10.จะไม่รู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมที่สะโพกภายใน 6 – 8 เดือน
11.ใส่กางเกงรัดไว้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กางเกงนี้เปรียบเสมือนตัวควบคุมตำแหน่งซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนที่
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมทุกครั้งถือเป็นเรื่องดีที่สุด เตรียมร่างกาย เตรียมจิตใจให้พร้อม สำหรับน้องๆที่ไม่อยากบวมช้ำนาน แอดมินแนะนำทานหยุนหนานไป๋เหยาเขียวก่อนการเสริมก้น 3-5 วัน และทานต่อเนื่องหลังทำ ซึ่งหยุนหนานสามารถทานติดต่อกันได้ 6 แผง แต่ถ้าจะให้ดีควรทานคู่กับบัวบกและเหล่งเอี๊ยง Extra เพื่อการฟื้นฟูร่างกาย ให้หายไว สวยเร็วขึ้น โดยสามารถทานร่วมกับยาของคุณหมอได้เลย ไม่ต้องกังวลใจนะคะ
เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง น้องๆที่มีแพลนทำศัลยกรรม สามารถปรึกษาแอดมินได้เลยนะคะ ทางร้านเราแนะนำดูแลแบบเคสต่อเคส สมุนไพรร้านเราเน้นสดใหม่ ปลอดภัย หายห่วงค่ะอยากได้ด่วนๆ เรามีบริการส่งแมสภายกรุงเทพและปริมณฑลนะคะ
ดูรีวิวเพิ่มเติมแน่นๆจากลูกค้าที่ทานจริงๆได้ตามลิงค์นี้นะคะ https://goo.gl/SSHQ7R
ติดต่อสอบถาม Line : @surgerycare , Tel. 097-4475573
www.surgery-care.lnwshop.com