9 ผัก-ผลไม้สำหรับสาย Healthy อร่อยได้ ประโยชน์ครบที่ Gourmet Market
ใครชอบเดินช้อปปิ้งที่โซน Gourmet Market ทั้งห้างสรรพสินค้า The Emporium และ
The EmQuarter คงเคยเห็นผักและผลไม้สดๆ วางเรียงสวยอยู่ในตู่แช่ รอให้เราไปเลือกจับจ่าย
สำหรับปรุงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งล้วนมีประโยชน์มากมาย ที่สำคัญเป็นหนึ่งในโครงการที่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วางรากฐานไว้เพื่อให้ชาวเขามีอาชีพทำกิน
และไม่ต้องนำเข้าผักเมืองหนาวจากต่างประเทศ ลองดูนี่สิ อาจมีผักจากโครงการหลวงบางชนิดที่คุณ
ไม่เคยหยิบลงตะกร้าสักครั้งเลยก็ได้นะ
1. อโวคาโด
ผลไม้ที่คนไทยหลายคนยังไม่คุ้นลิ้นนัก อโวคาโดเคยเป็นพืชเมืองหนาว มีราคาแพง จนกระทั่งโครงการหลวง
เริ่มปลูกและจำหน่ายในประเทศ มีน้ำหนักประมาณ 250 – 400 กรัมต่อผล
2. เสาวรส
อีกหนึ่งผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เสาวรสของโครงการหลวงจะมีรสหวานนำ ไม่เปรี้ยวมาก มีเส้นใยอาหารสูง
ปัจจุบันมีคนนำเสาวรสไปประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ทำสมูธตี้ ไอศกรีม และเค้ก อ้อ ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่
เราแนะนำว่าให้กินสลัดผักโดยใช้เสาวรสแทนเดรสซิ่งมายองเนส ไม่มีไขมัน และช่วยขับถ่ายได้ดี น้ำเสาวรส
มีวิตามินซีมากและเหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
3. ฟักทองญี่ปุ่น
ข้อดีของฟักทองญี่ปุ่นจากโครงการหลวงคือมีขายทั้งปี ความแตกต่างระหว่างฟักทองญี่ปุ่นและฟักทองไทยคือ
ลูกเล็กกว่า เปลือกไม่หนามาก ให้สีเหลืองสวยและมีเท็กเซอร์ที่เนียนละเอียดกว่ามาก
4. ต้นหอมญี่ปุ่น
รู้หรือยังว่าเมืองไทยก็ปลูกต้นหอมญี่ปุ่นได้เหมือนกัน ใครที่ไม่ชอบกลิ่นและรสที่ฉุนของผักชนิดนี้อยากให้ลองดูใหม่
เพราะต้นหอมญี่ปุ่นจากโครงการหลวงมีรสหวานติดปลายลิ้น
5. แรดิช
ถ้าไม่เคยกินแรดิช จินตนาการว่ารสสัมผัสของมันเหมือนหัวไชเท้าน่ะ แต่มีกลิ่นและรสฉุนมากกว่าหน่อย
ในอาหารฝรั่ง นิยมฝานแรดิชเป็นแผ่นบางๆ โรยอยู่ในสลัดหลายจาน เพราะแรดิชเป็นผักดูดน้ำ สำหรับสรรพประโยชน์ แรดิชมีกลูโคซิโนแลต ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด
มะเร็งและให้วิตามินซีสูง ควรรับประทานสดโดยไม่ผ่านความร้อน
6. ฟักบัตเตอร์นัท
ขึ้นชื่อว่าฟัก แต่รสชาติไม่ได้เหมือนฟักเลยสักนิด อาจจะคล้ายฟักทองนิดหน่อย แต่นิ่มและหวานกว่ามาก
บัตเตอร์นัทเป็นผักที่คล้ายน้ำเต้า สีเหลืองสวย
7. เบบี้แครอท
ชูมือสุดแขนเพราะชอบเบบี้แครอทแท่งจิ๋วมากกว่าแครอทธรรมดาซะอีก (เป็นเหมือนกันมั้ย) เพราะว่ากลิ่นที่แรงน้อยกว่า
มีกลิ่นดินน้อยกว่า และรสชาติหวานกว่า ทำให้กินเป็นสแน็คแทนขนมขบเคี้ยวได้เลย
8. มันเทศญี่ปุ่น
ถึงเปลือกจะสีเดียวกัน แต่รู้หรือยังละว่า มันเทศญี่ปุ่นจากโครงการหลวงนั้นมีให้เลือกมากถึง 3 สี คือ
เหลือง ม่วง และส้ม ให้รสชาติและรสสัมผัสแตกต่างกันออกไปนิดหนึ่ง
9. สตรอว์เบอร์รี่ พันธุ์พระราชทาน 80
สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 มีขนาดไม่ใหญ่มาก เน้นปลูกง่าย ปลูกได้ทั่วประเทศ
รสชาติหวานอมเปรี้ยว เรื่องวิธีการกินคงไม่ต้องบรรยายมาก เพราะไม่ใช่ผลไม้เพื่อสุขภาพใหม่ในเมืองไทย
ใครชอบเดินช้อปปิ้งที่โซน Gourmet Market ทั้งห้างสรรพสินค้า The Emporium และ
The EmQuarter คงเคยเห็นผักและผลไม้สดๆ วางเรียงสวยอยู่ในตู่แช่ รอให้เราไปเลือกจับจ่าย
สำหรับปรุงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งล้วนมีประโยชน์มากมาย ที่สำคัญเป็นหนึ่งในโครงการที่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วางรากฐานไว้เพื่อให้ชาวเขามีอาชีพทำกิน
และไม่ต้องนำเข้าผักเมืองหนาวจากต่างประเทศ ลองดูนี่สิ อาจมีผักจากโครงการหลวงบางชนิดที่คุณ
ไม่เคยหยิบลงตะกร้าสักครั้งเลยก็ได้นะ
1. อโวคาโด
ผลไม้ที่คนไทยหลายคนยังไม่คุ้นลิ้นนัก อโวคาโดเคยเป็นพืชเมืองหนาว มีราคาแพง จนกระทั่งโครงการหลวง
เริ่มปลูกและจำหน่ายในประเทศ มีน้ำหนักประมาณ 250 – 400 กรัมต่อผล
2. เสาวรส
อีกหนึ่งผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เสาวรสของโครงการหลวงจะมีรสหวานนำ ไม่เปรี้ยวมาก มีเส้นใยอาหารสูง
ปัจจุบันมีคนนำเสาวรสไปประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ทำสมูธตี้ ไอศกรีม และเค้ก อ้อ ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่
เราแนะนำว่าให้กินสลัดผักโดยใช้เสาวรสแทนเดรสซิ่งมายองเนส ไม่มีไขมัน และช่วยขับถ่ายได้ดี น้ำเสาวรส
มีวิตามินซีมากและเหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
3. ฟักทองญี่ปุ่น
ข้อดีของฟักทองญี่ปุ่นจากโครงการหลวงคือมีขายทั้งปี ความแตกต่างระหว่างฟักทองญี่ปุ่นและฟักทองไทยคือ
ลูกเล็กกว่า เปลือกไม่หนามาก ให้สีเหลืองสวยและมีเท็กเซอร์ที่เนียนละเอียดกว่ามาก
4. ต้นหอมญี่ปุ่น
รู้หรือยังว่าเมืองไทยก็ปลูกต้นหอมญี่ปุ่นได้เหมือนกัน ใครที่ไม่ชอบกลิ่นและรสที่ฉุนของผักชนิดนี้อยากให้ลองดูใหม่
เพราะต้นหอมญี่ปุ่นจากโครงการหลวงมีรสหวานติดปลายลิ้น
5. แรดิช
ถ้าไม่เคยกินแรดิช จินตนาการว่ารสสัมผัสของมันเหมือนหัวไชเท้าน่ะ แต่มีกลิ่นและรสฉุนมากกว่าหน่อย
ในอาหารฝรั่ง นิยมฝานแรดิชเป็นแผ่นบางๆ โรยอยู่ในสลัดหลายจาน เพราะแรดิชเป็นผักดูดน้ำ สำหรับสรรพประโยชน์ แรดิชมีกลูโคซิโนแลต ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด
มะเร็งและให้วิตามินซีสูง ควรรับประทานสดโดยไม่ผ่านความร้อน
6. ฟักบัตเตอร์นัท
ขึ้นชื่อว่าฟัก แต่รสชาติไม่ได้เหมือนฟักเลยสักนิด อาจจะคล้ายฟักทองนิดหน่อย แต่นิ่มและหวานกว่ามาก
บัตเตอร์นัทเป็นผักที่คล้ายน้ำเต้า สีเหลืองสวย
7. เบบี้แครอท
ชูมือสุดแขนเพราะชอบเบบี้แครอทแท่งจิ๋วมากกว่าแครอทธรรมดาซะอีก (เป็นเหมือนกันมั้ย) เพราะว่ากลิ่นที่แรงน้อยกว่า
มีกลิ่นดินน้อยกว่า และรสชาติหวานกว่า ทำให้กินเป็นสแน็คแทนขนมขบเคี้ยวได้เลย
8. มันเทศญี่ปุ่น
ถึงเปลือกจะสีเดียวกัน แต่รู้หรือยังละว่า มันเทศญี่ปุ่นจากโครงการหลวงนั้นมีให้เลือกมากถึง 3 สี คือ
เหลือง ม่วง และส้ม ให้รสชาติและรสสัมผัสแตกต่างกันออกไปนิดหนึ่ง
9. สตรอว์เบอร์รี่ พันธุ์พระราชทาน 80
สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 มีขนาดไม่ใหญ่มาก เน้นปลูกง่าย ปลูกได้ทั่วประเทศ
รสชาติหวานอมเปรี้ยว เรื่องวิธีการกินคงไม่ต้องบรรยายมาก เพราะไม่ใช่ผลไม้เพื่อสุขภาพใหม่ในเมืองไทย
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- คุณหมอกวาง วาสิตา ศัลยแพทย์หนึ่งเดียวจากประเทศไทย ปลื้มเข้าร่วมประชุมงาน PRS KOREA 2024 กระทบไหล่หมอจากทั่วเอเชีย
- ประตูม้วนกม8 กม4 คู้บอน รามคำแหง บดินทรเดชา รามอินทรา เกษตร ประตูม้วนคลองกุ่ม คลองสามวา เลียบด่วน
- EMMA CLINIC นำเทรนด์ทรงจมูก TEARDROP อ.พญ.วาสิตาหรือคุณหมอกวาง แกะกล่องเทคนิคใหม่ Preservation Rhinoplasty ชี้ฝั่งยุโรปและเอเชียกำลังมาแรง
- หอพักหน้า ม.มหิดล ประตู6 PJ Bed Story ศาลายา พุทธมลฑล นครปฐม ห้องพักใหม่ เช่าถูก เฟอร์ใหม่ทั้งตึก
- EMMA CLINIC ไม่หยุดอัปความรู้ ส่ง “อ.พญ.วาสิตา หรือหมอกวาง ” ดีกรีศัลยแพทย์งานแก้สุดปัง บินตรงเอ็กซ์คลูซีฟเทรนนิ่งความรู้ใหม่ๆเทรนด์ศัลยกรรมจมูก ณ ป