เราชื่อลีนนะคะทุกคน ต้องกราบสวัสดี และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ วันนี้อยากมาเล่าเรื่องสยองที่ครั้งนึง เราพลาดไปทำจมูกแบบไม่คิดจนจมูกเกือบพัง ตอนนั้นมันรู้สึกชีช้ำมาก นั่งโขกหัวตัวเองว่าทำไม ไม่ยอมหาข้อมูลให้ดีก่อน เลยอยากมาเป็นอุทาหรณ์ ให้เพื่อนๆ ที่คิดจะศัลยกรรม หาข้อมูลให้เยอะๆ และดูว่าวิธีที่จะทำนั้นดีจริงหรือเปล่า ขอเล่าประสบการณ์พลาดครั้งแรกให้ฟังก่อน
ทำจมูกครั้งแรก...ตอนนั้นเรายังเป็นนศ.อยู่ค่ะ เงินทองก็มีไม่มาก มีจากรับงานพาร์ทไทม์บ้าง นิดๆ หน่อยๆ เก็บสะสมจนได้จำนวนนึงก็ตัดสินใจทำจมูก ตอนนั้นใจนึงก็อยากให้ดูสวยและเป็นสาวมากขึ้น อีกใจนึงก็อยากทำเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ เกณฑ์ในการเลือกที่ทำจมูกของเราเลย ดูเรื่องเงินเป็นหลัก ของบน้อยๆ แต่ปัง จนไปเจอที่นึง ที่นี่เค้าค่อนข้างดังในหมู่นศ.ค่ะ คนไปทำเยอะ ถ้าจมูกพังขึ้นมาคลินิกน่าจะอยู่ไม่ได้
ทำเสร็จได้จมูกทรงแหลมพุ่ง มาประดับหน้า ถ้าถามว่าชอบมั้ย ตอนนั้นก็ชอบแหละค่ะ เพราะเป็นดั้งแรกที่เรามี ช่วงแรกเราก็ว่าดีนะคะ มีคนทักว่าหน้าเปลี่ยน ดูหน้าเฉี่ยวคมขึ้น ก็อยู่มาได้ 4 ปี เริ่มมีอาการเสียวแปลบที่ปลายจมูก ตามด้วยซิลิโคนเอียงจนเห็นชัด ตบท้ายด้วยจมูกเริ่มแดงค่ะ ตอนนั้นก็กลัวทะลุเลยหาที่แก้จมูกอีกครั้ง คราวนี้จะไม่ขอพลาดแบบครั้งแรก!
ทำจมูกครั้งที่สอง...คิดไว้ว่า อยากแก้จมูกใหม่ แต่คงไม่ขอไปที่เดิม เพราะบริการค่อนข้าง...เราเลยเลือกที่ใหม่ เราหาข้อมูลจากในพันทิปค่ะ จนไปเจอที่นึงรับถอดจมูกราคาไม่แพง ราคาประมาณ 3000 บาท เลยรีบไปปรึกษาหมอเพราะอยากเอาออกให้เร็วที่สุด ทนกับจมูกนี้ไม่ไหวแล้วเราก็ตัดสินใจทำ จากที่คุยๆ คุณหมอก็บอกว่าซิลิโคนมันยาวเกินไป และก็โด่งเกินไป ปลายจมูกเลยบาง คุณหมอจะลดโด่งและความยาวให้ ซึ่งเราก็ไม่ใช้คนเรื่องมากอยู่แล้ว คุณหมอก็คุยด้วยง่าย ก็ตัดสินใจขึ้นเขียงเปลี่ยนจมูกซีรี่ย์ใหม่ หวังว่าครั้งนี้คงจบแล้วแหละ แต่...
ทำออกมาแล้วไม่พุ่งเท่าตอนแรกค่ะ ซิลิโคนที่ใช้ก็เป็นแบบ USA อเมริกาแบบนิ่ม บิดได้ ตอนแรกก็รู้สึกพอใจ แต่หลังจากนั้น 14 วัน จมูกเราอักเสบค่ะ มีอาการบวมและปวดที่ปลายจมูก กลับไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ให้ยากลับมากิน ประมาณอาทิตย์นึง ก็หายปวดค่ะ แต่อาการบวมมันไม่ยุบซะอย่างงั้น ใจตอนนั้นก็คิดนะคะว่าจมูกไม่ทะลุก็บุญแล้ว เลยใช้ชีวิตกับซิลิโคนแท่งที่สองมาปีกว่าๆ ฝันร้ายก็กลับมาอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้รู้สึกว่าปลายมันบางลง จมูกเริ่มแดง และเอียงค่ะ (แต่ไม่ชัดเท่าตอนแรก) ใจตอนนั้นก็เริ่มกังวลว่าจมูกชั้นจะพังอีกแล้วใช่มั้ย เราจะปล่อยมันไว้ไม่ได้ เลยตัดสินใจกลับไปปรึกษากับคุณหมอท่านเดิม...
คราวนี้คุณหมอจะไม่ใส่ปลายให้พุ่งเหมือนตัวแรก เพราะปลายเราบาง คุณหมอเลยตัดขาซิลิโคนออกเพื่อไม่ให้จมูกเรามีปัญหาอีก...
ผลที่ได้คือปลายไม่บางแล้วค่ะ แต่ทรงมันไม่สวยเอาซะเลย ทั้งสั้นทั้งทู่ จากที่ปลายดูใหญ่อยู่แล้ว ก็ยิ่งดูใหญ่กว่าเดิมไปอี๊ก แถมทำไปได้ไม่กี่เดือน จมูกเจ้ากรรมเอียงอีกแล้วค่า จบกันค่ะคุณหมอ ตอนนั้นเราคิดว่าจมูกเราคงไม่ไหวแล้วแหละ ทำมากี่ทีก็เบี้ยวตลอด จะมีที่ไหนที่ทำจมูกให้โด่งโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนมั้ยนะ...
ขอลงทุนกับจมูกซักครั้ง แล้วของานดีงานปังมาให้ข้าเจ้าด้วยเถ๊อะ...ครั้งนี้หาข้อมูลอย่างหนักหน่วงค่ะ อ่านทั้งรีวิว อ่านทั้งบทความ อ่านทั้งความรู้ที่แพทย์เค้าโพสกัน อ่านจนจะบรรลุธรรมแล้วค่า จนสุดท้ายตกผลึกกับคุณหมอท่านนึง ที่ทำจมูกได้โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน ส่วนตัวอ่านทั้งรีวิวและ Ig ของคุณหมอ รู้สึกว่าคุณหมอเก่งมากค่ะ เลยขอเข้าไปปรึกษากับคุณหมอ...
ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะทำจมูกช่วงเดือนธันวาปีที่แล้ว แต่พอได้คุยกับคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่าเราเคยมีปัญหาจมูกอักเสบ และได้รับการรักษาที่ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นคุณหมอจะให้เราทานยารักษาอาการอักเสบก่อน 3 อาทิตย์ค่ะ เพราะคุณหมอกลัวว่าถ้าดื้อทำจมูกไปเลยจะมีปัญหาได้ (เราก็แอบเสียดายนะคะ ว่าไม่มีจมูกใหม่ไปรับงานแต่งของเราตอนเดือนมกรา แต่เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้จมูกพังอีก เราก็ต้องยอมค่ะ)...
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก