- เข้าร่วม
- 30 ตุลาคม 2017
- ข้อความ
- 5
Hey Girl สวัสดีสาวๆ ทุกคนนะค้า เราชื่อแพนค๊า เพื่อนๆ ชอบเรียกแพนด้า น้องกับพี่ชอบเรียกว่าดำ(มองบน) แต่ถามว่าเราแคร์มั้ย ไม่ค๊า ณ จุดๆ นี้ โนสนโนแคร์ ดำแล้วไง ดำแล้วแซ่บเหมือนกันมั้ยล่ะ ฮึๆ ด้วยความที่เราเป็นสาวผิวแทนๆ เราจะไปสายเกาก็คงไม่รุ่ง เราเลยมุ่งไปสายฝ.ดีกว่า เพราะปกติก็ไม่ใช่คนมุ้งมิ้งงุ้งงิ้งอะไรอยู่แล้ว ออกจะชอบไปแนว Adventure ด้วยซ้ำ เห็นหน้าเหมือนหยิ่งๆ แต่จริงเราเป็นคนลุยๆ สบายๆ นะค๊า
แต่มันก็มีอุปสรรคมาเบรก เพราะความฝ. มันต้องเป๊ะสำหรับเรา สายฝ.ในอุดมคติของเราบอกเลยว่าต้อง “หน้าตอบกับกรอบหน้าชัดคือวัฎจักรของสายฝ.” ซึ่งบอกเลยว่าตอนนี้เราหุ่นก็ได้แล้ว ไม่อ้วนไม่ผอมมาก แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รูปร่างค่ะ ปัญหาอยู่ที่หน้าเรานี่แหละ คือแบบ เห้ยจะเป็นสายฝ. แต่ตัวผอมหน้ากลมมันใช่ป่ะแกรรรร แบบนี้สำหรับเรามันไม่ฝ.อ่ะ มัน Fat
ใครไล่ให้ไปออกกำลังกายบอกเลยว่าเรานี่ออกกำลังกายบ่อยมาก ออกจนซิกแพคจะขึ้นอยู่ละ แต่หน้านี่ทั้งเหนียงทั้งแก้ม ไม่ยุบเลยซักอย่างท้อใจมาก ตอนนั้นก็เลยคิดว่าอยากหน้าเรียว อยากฉีด Botox อยากฉีด Meso Fat อะไรแบบนี้ เข้าไปปรึกษาที่มาสเตอร์พีซ คลินิก เพราะน้องสาวเราเคยมาทำตาสองชั้นที่นี่ไป แล้วตาดูสวยมากกกก น้องก็บอกนะว่าที่นี่เค้ามีบริการหลายอย่าง ทั้งทำหน้าฉีดผิว ศัลยกรรมมีครบเลย คือเดินเข้ามาสเตอร์พีซแบบโทรมๆ เดินออกมาก็สวยแล้วอะไรแบบนี้ 555 เราไม่รอช้าค่า จัดแจงติดต่อนัดคิวปรึกษาเข้าไปที่ไลน์ @masterpiececlinic เลยค่ะ
ถ่ายแบบเผลอๆ เหนียงก็ออกแบบเผลอๆ เศร้า
เราได้เข้าปรึกษากับหมอเบนซ์ โฆษิต หมอดู Expert มากกก คือก่อนคุยหมอก็จะถามความต้องการของเราก่อนนะ ว่าอยากทำส่วนไหนอะไรยังไง เงื่อนไขที่เราบอกหมอไปก็คือ เราไม่อยากให้หน้าดูกลม เพราะเราแก้มเยอะ เหนียงเยอะ และอยากทำแค่ครั้งเดียวจบไม่ต้องทำหลายๆ รอบ หมอเค้าก็เช็คเหนียงเราก่อนให้เราก้มเงย อยู่สองสามรอบมาจับๆ เหนียง จับตรงแก้ม จับตรงกรอบหน้า ให้อ้าปากด้วยนะ 555 เช็คเสร็จหมอก็บอกว่า อย่างเราเนี่ยควรดูดไขมันที่เหนียงและกรอบหน้าแล้วก็ตัดไขมันกระพุ้งแก้มด้วย ที่ให้ตัดไขมันกระพุ้งแก้มด้วยเพราะไขมันตรงแก้มเราเยอะ สังเกตเวลายิ้ม ถ้ายิ้มแล้วช่วงแก้มดูห้อยๆ นั่นแสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ
พาเหนียงมาหาหมอ 555
หลังจากปรึกษากับหมอเสร็จก็เข้าสู่ช่วงตัดสินใจ แต่เราตัดสินใจไม่ยากเพราะน้องก็เชียร์ที่นี่อยู่แล้ว แล้วจากที่คุยกับหมอก็รู้สึกว่าหมอ Expert จริง การนัดคิวทำศัลยกรรมต้องวางเงินมัดจำไว้ก่อน และต้องตรวจเลือดด้วยค่ะ ที่ต้องตรวจเพื่อความปลอดภัยของเราว่าเราร่างกายพร้อมสำหรับการผ่าตัด หรือมีโรคประจำตัวมั้ย ตรงนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยเพราะคลินิกต้องส่งเลือดไปตรวจกับที่อื่น แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไปตรวจเลือดจากที่อื่นแล้วส่งผลเลือดมาให้ที่คลินิกได้เหมือนกันค่ะ
หน้าปกติก็กลมๆ หน่อย หย่อนนิดๆ
คิวนัดผ่าตัดของเราไม่นานจากวันที่เข้าไปปรึกษาเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรง สำหรับเรานี่ชิวๆ แข็งแรงอยู่แล้ว ป่วยน้อยมากด้วย เลยไม่มีปัญหาอะไร พอถึงวันผ่าตัดเราเข้าคลินิกตอนเช้า กินข้าว กินน้ำพอเป็นพิธีนะคะ อย่ากินเยอะมาก เดี๋ยวไม่สบายท้องตอนผ่าตัด เพราะหมอบอกว่าจะให้ยาด้วยวิธี Painless หมอบอกว่ามันจะทำให้รู้สึกมึนๆ ไม่กลัว บางทีก็อาจทำให้หลับได้แปปนึง แต่ไม่เป็นอันตราย เราเลยกินน้อยๆ กันไว้ดีกว่า เข้าคลินิก ต้องมีเซ็นเอกสารยินยอมพร้อมใจก่อนเข้าผ่าตัดด้วยนะคะ แล้วก็ต้องจ่ายเงิน รับยา ถ่ายรูป เปลี่ยนชุด ล้างหน้า ถึงเข้าห้องผ่าตัดได้ แบบหลายขั้นตอนมาก ดีที่ ที่นี่มีพนักงานคอยดูแลตลอดเลยไม่งงค่ะ
พกเหนียงและความมั่นใจมาเต็มสตรีมค๊า 555
ขอถ่ายรูปเป็นกำลังใจก่อนเข้าห้องไปกำจัดไขมันค่า
เข้าห้องผ่าตัดมา พยาบาลก็ให้เรานอนที่เตียงแล้วมาทำความสะอาดหน้าเราอีกรอบ สะอาดในสะอาดจริงๆ 555 ตอนฉีดยาเราก็จะงงๆ มึนๆ หน่อย เป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่กลัว ไม่เจ็บ เพราะหมอเค้าฉีดยาชาด้วยแหละ เผลอหลับไปด้วยนอนฟินไปดิ เรานอนนิ่งๆให้หมอทำสวยอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ออกมานอนให้หายมึนต่ออีกประมาณ 20 นาที พยาบาลมีเจลเย็นมาให้เราประคบด้วยค่า นอนฟินไปดิ
ทำเสร็จประคบเจลเย็นนิดนึง สบายหน้ามากกก
กลับบ้านมาดูแลตัวเองง่ายๆ ค่า ของเรามีแผลเล็กๆ สองจุดคือในปากสองข้าง แล้วหลังหูสองข้าง คือมองไม่เห็นรอยเลยค่ะ หมอเค้าซ่อนแผลไว้หมดเลย ดีเริสเว่อร์ แต่ถึงแผลเล็กยังไงก็ต้องดูแลแผลนะคะ หลังตื่นนอนแล้วก็ก่อนนอน เราเช็ดด้วยน้ำเกลือ พันผ้าซัพพอร์ตแล้วก็ทานยาตามที่หมอบอก ปกติเราจะพันผ้าซัพพอร์ตที่หน้าตลอด แต่ถ้าแต่งสวยออกไปข้างนอก เราก็ไม่พัน(ลักไก่เอา) แต่ถ้าไปทำงานก็พันซัพพอร์ตตลอดเหมือนกัน ช่วงแรกๆ ทำงานเค้าก็จะมองแปลกๆ หน่อย แต่ไม่กี่วันเค้าก็ชินกันหมดแล้วค่ะ 555
ทำเสร็จวันแรก แต่งหน้าออกไปสวยได้ละ
กลับบ้านมาก็ใส่ซัพพอร์ต
วันที่ 4 ถึงมาทำงานก็ใส่ซัพพอร์ต ไม่ได้บ้านะค้า 555
เพราะว่าเรามีแผลในปากด้วย ความรู้สึกเราคล้ายๆ มีแผลร้อนใน ในปาก แต่ว่าไม่แสบเท่าไหร่ค่ะ เพราะแผลสมานเร็วมาก 4 วันก็หายแล้วค่ะ สองสามวันแรกเราอาศัยบ้วนปากเอา เพื่อความสะอาด ช่วงนี้เราจะยังไม่แปรงฟันค่า เพราะกลัวแปรงสีฟันไปโดนแผล เดียวแผลเปิด แล้วก็กินอาหารรสอ่อนๆ เบาๆ ไม่ร้อนมาก อุ่นๆ เราก็กินได้ค่ะ กินแค่อาทิตย์เดียวก็จัดหนักลาบ ส้มตำ ได้แล้ว เพราะแผลหายเร็วด้วย ส่วนที่ดูดไขมันหน้าไปคือมันก็ดูบวมๆ อยู่นะอาทิตย์แรก ของเราแผลแห้งดีค่ะ แผลดูแลง่ายแห้งเร็วดี ครบอาทิตย์ก็มาตัดไหมที่ข้างหูออก แต่ในปากเป็นไหมละลาย มันหลุดไปเองตอนเรากลั้วปากค่ะ
ตัดไหมแบบชิวๆ ไม่พกเหนียงมาแล้วนะ
วันที่ไปตัดไหมก็ได้เจอกับหมออีกครั้งด้วย หมอก็ดีค่ะมีสอบถามอาการว่ามีอาการเจ็บหรือเปล่า ซึ่งเราว่าเราโชคดีที่ได้หมอที่มือเบามากมาทำ เพราะหน้าเราไม่เจ็บ ไม่ช้ำเลยค่ะ อาจจะดูบวมจากตอนแรกหน่อย ซึ่งหมอเค้าก็บอกแหละว่าหน้าจะค่อยๆ ยุบลงแหละ แต่เดือนแรกก็อาจจะยุบเท่าตอนก่อนดูดด้วยซ้ำ ต้องรอ 2-3 เดือนถึงจะหน้าเข้าที่เลยจริงๆ
14 วันค่า ถ่ายแบบเกร๋ๆ หน้าเริ่มตอบ กรอบหน้าเริ่มมา
มุมข้างเหนียงไม่มีแว้ว
หลังจากตัดไหมเราก็ดูแลแค่ใส่ผ้าพันหน้าค่ะ ใส่บ่อยๆ มีโอกาสก็ใส่ ก่อนนอนก็ใส่ วันไหนต้องสวยหน่อยก็เอาออก ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่แค่นี้ค่ะ ไม่มีอะไรมาก แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สองเราก็เริ่มรู้สึกว่าหน้ามันกระชับขึ้น หน้าเริ่มตอบ กรอบหน้าเริ่มมาค่า แต่เหนียงนี้เรายังรู้สึกว่าก็ยังมีอยู่แต่น้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย
1 เดือนหน้าฉ่ำๆ ฝ.สุดๆ หน้าเริ่มเป๊ะแล้วค่า
ช็อตต่อช็อตให้ดูเลยค่ะ หน้าเรียวแล้ว
ขอบคุณหมอเบนซ์ที่มอบความเรียวเป๊ะให้หน้าหนูนะคะ
ในที่สุดก็ครบ 1 เดือน ไปหาหมออีกรอบเพราะที่นี่หมอเค้าติดตามผลตลอด คือดี หน้าเรียวตอบกรอบหน้าชัดแล้วตอนนี้ ส่วนเหนียง เราว่าก็ยุบลงไปเยอะแล้วนะ ไหนหมอบอกว่าต้องรอ 2-3 เดือน นี่แค่เดือนเดียวหน้าก็เริ่มเป๊ะแล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้าผ่านไป 2 เดือนจะขนาดไหน หมอเช็คหน้าเราก็ชมว่าหน้าเรายุบเร็วดี (แน่นอนค่ะหมอหนูใส่ซัพพอร์ตเกือบตลอดเวลานี่คะ 555) มองหน้าตรงจากเมื่อก่อนจะดูหน้าเต็มๆ ตอนนี้หน้าเริ่มฟิต แต่งหน้าง่ายไม่ต้องลงคอนทัวน์เบอร์หนักแล้วค๊า เดี๋ยวนี้มีความสุขทุกครั้งที่แต่งหน้าเพราะรู้สึกว่าหน้าไม่ Fat แต่หน้าฝ. แล้วค่ะ ใครอยากมีหน้าเรียวเป๊ะ เหนียงหายแบบนี้ แนะนำมาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ แอดไลน์คลินิก @Masterpiececlinic นัดปรึกษาคุณหมอฟรีเบยยค่า
แต่มันก็มีอุปสรรคมาเบรก เพราะความฝ. มันต้องเป๊ะสำหรับเรา สายฝ.ในอุดมคติของเราบอกเลยว่าต้อง “หน้าตอบกับกรอบหน้าชัดคือวัฎจักรของสายฝ.” ซึ่งบอกเลยว่าตอนนี้เราหุ่นก็ได้แล้ว ไม่อ้วนไม่ผอมมาก แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รูปร่างค่ะ ปัญหาอยู่ที่หน้าเรานี่แหละ คือแบบ เห้ยจะเป็นสายฝ. แต่ตัวผอมหน้ากลมมันใช่ป่ะแกรรรร แบบนี้สำหรับเรามันไม่ฝ.อ่ะ มัน Fat
ใครไล่ให้ไปออกกำลังกายบอกเลยว่าเรานี่ออกกำลังกายบ่อยมาก ออกจนซิกแพคจะขึ้นอยู่ละ แต่หน้านี่ทั้งเหนียงทั้งแก้ม ไม่ยุบเลยซักอย่างท้อใจมาก ตอนนั้นก็เลยคิดว่าอยากหน้าเรียว อยากฉีด Botox อยากฉีด Meso Fat อะไรแบบนี้ เข้าไปปรึกษาที่มาสเตอร์พีซ คลินิก เพราะน้องสาวเราเคยมาทำตาสองชั้นที่นี่ไป แล้วตาดูสวยมากกกก น้องก็บอกนะว่าที่นี่เค้ามีบริการหลายอย่าง ทั้งทำหน้าฉีดผิว ศัลยกรรมมีครบเลย คือเดินเข้ามาสเตอร์พีซแบบโทรมๆ เดินออกมาก็สวยแล้วอะไรแบบนี้ 555 เราไม่รอช้าค่า จัดแจงติดต่อนัดคิวปรึกษาเข้าไปที่ไลน์ @masterpiececlinic เลยค่ะ
ถ่ายแบบเผลอๆ เหนียงก็ออกแบบเผลอๆ เศร้า
เราได้เข้าปรึกษากับหมอเบนซ์ โฆษิต หมอดู Expert มากกก คือก่อนคุยหมอก็จะถามความต้องการของเราก่อนนะ ว่าอยากทำส่วนไหนอะไรยังไง เงื่อนไขที่เราบอกหมอไปก็คือ เราไม่อยากให้หน้าดูกลม เพราะเราแก้มเยอะ เหนียงเยอะ และอยากทำแค่ครั้งเดียวจบไม่ต้องทำหลายๆ รอบ หมอเค้าก็เช็คเหนียงเราก่อนให้เราก้มเงย อยู่สองสามรอบมาจับๆ เหนียง จับตรงแก้ม จับตรงกรอบหน้า ให้อ้าปากด้วยนะ 555 เช็คเสร็จหมอก็บอกว่า อย่างเราเนี่ยควรดูดไขมันที่เหนียงและกรอบหน้าแล้วก็ตัดไขมันกระพุ้งแก้มด้วย ที่ให้ตัดไขมันกระพุ้งแก้มด้วยเพราะไขมันตรงแก้มเราเยอะ สังเกตเวลายิ้ม ถ้ายิ้มแล้วช่วงแก้มดูห้อยๆ นั่นแสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ
พาเหนียงมาหาหมอ 555
หน้าปกติก็กลมๆ หน่อย หย่อนนิดๆ
คิวนัดผ่าตัดของเราไม่นานจากวันที่เข้าไปปรึกษาเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรง สำหรับเรานี่ชิวๆ แข็งแรงอยู่แล้ว ป่วยน้อยมากด้วย เลยไม่มีปัญหาอะไร พอถึงวันผ่าตัดเราเข้าคลินิกตอนเช้า กินข้าว กินน้ำพอเป็นพิธีนะคะ อย่ากินเยอะมาก เดี๋ยวไม่สบายท้องตอนผ่าตัด เพราะหมอบอกว่าจะให้ยาด้วยวิธี Painless หมอบอกว่ามันจะทำให้รู้สึกมึนๆ ไม่กลัว บางทีก็อาจทำให้หลับได้แปปนึง แต่ไม่เป็นอันตราย เราเลยกินน้อยๆ กันไว้ดีกว่า เข้าคลินิก ต้องมีเซ็นเอกสารยินยอมพร้อมใจก่อนเข้าผ่าตัดด้วยนะคะ แล้วก็ต้องจ่ายเงิน รับยา ถ่ายรูป เปลี่ยนชุด ล้างหน้า ถึงเข้าห้องผ่าตัดได้ แบบหลายขั้นตอนมาก ดีที่ ที่นี่มีพนักงานคอยดูแลตลอดเลยไม่งงค่ะ
พกเหนียงและความมั่นใจมาเต็มสตรีมค๊า 555
ขอถ่ายรูปเป็นกำลังใจก่อนเข้าห้องไปกำจัดไขมันค่า
เข้าห้องผ่าตัดมา พยาบาลก็ให้เรานอนที่เตียงแล้วมาทำความสะอาดหน้าเราอีกรอบ สะอาดในสะอาดจริงๆ 555 ตอนฉีดยาเราก็จะงงๆ มึนๆ หน่อย เป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่กลัว ไม่เจ็บ เพราะหมอเค้าฉีดยาชาด้วยแหละ เผลอหลับไปด้วยนอนฟินไปดิ เรานอนนิ่งๆให้หมอทำสวยอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ออกมานอนให้หายมึนต่ออีกประมาณ 20 นาที พยาบาลมีเจลเย็นมาให้เราประคบด้วยค่า นอนฟินไปดิ
ทำเสร็จประคบเจลเย็นนิดนึง สบายหน้ามากกก
กลับบ้านมาดูแลตัวเองง่ายๆ ค่า ของเรามีแผลเล็กๆ สองจุดคือในปากสองข้าง แล้วหลังหูสองข้าง คือมองไม่เห็นรอยเลยค่ะ หมอเค้าซ่อนแผลไว้หมดเลย ดีเริสเว่อร์ แต่ถึงแผลเล็กยังไงก็ต้องดูแลแผลนะคะ หลังตื่นนอนแล้วก็ก่อนนอน เราเช็ดด้วยน้ำเกลือ พันผ้าซัพพอร์ตแล้วก็ทานยาตามที่หมอบอก ปกติเราจะพันผ้าซัพพอร์ตที่หน้าตลอด แต่ถ้าแต่งสวยออกไปข้างนอก เราก็ไม่พัน(ลักไก่เอา) แต่ถ้าไปทำงานก็พันซัพพอร์ตตลอดเหมือนกัน ช่วงแรกๆ ทำงานเค้าก็จะมองแปลกๆ หน่อย แต่ไม่กี่วันเค้าก็ชินกันหมดแล้วค่ะ 555
ทำเสร็จวันแรก แต่งหน้าออกไปสวยได้ละ
กลับบ้านมาก็ใส่ซัพพอร์ต
วันที่ 4 ถึงมาทำงานก็ใส่ซัพพอร์ต ไม่ได้บ้านะค้า 555
เพราะว่าเรามีแผลในปากด้วย ความรู้สึกเราคล้ายๆ มีแผลร้อนใน ในปาก แต่ว่าไม่แสบเท่าไหร่ค่ะ เพราะแผลสมานเร็วมาก 4 วันก็หายแล้วค่ะ สองสามวันแรกเราอาศัยบ้วนปากเอา เพื่อความสะอาด ช่วงนี้เราจะยังไม่แปรงฟันค่า เพราะกลัวแปรงสีฟันไปโดนแผล เดียวแผลเปิด แล้วก็กินอาหารรสอ่อนๆ เบาๆ ไม่ร้อนมาก อุ่นๆ เราก็กินได้ค่ะ กินแค่อาทิตย์เดียวก็จัดหนักลาบ ส้มตำ ได้แล้ว เพราะแผลหายเร็วด้วย ส่วนที่ดูดไขมันหน้าไปคือมันก็ดูบวมๆ อยู่นะอาทิตย์แรก ของเราแผลแห้งดีค่ะ แผลดูแลง่ายแห้งเร็วดี ครบอาทิตย์ก็มาตัดไหมที่ข้างหูออก แต่ในปากเป็นไหมละลาย มันหลุดไปเองตอนเรากลั้วปากค่ะ
ตัดไหมแบบชิวๆ ไม่พกเหนียงมาแล้วนะ
14 วันค่า ถ่ายแบบเกร๋ๆ หน้าเริ่มตอบ กรอบหน้าเริ่มมา
มุมข้างเหนียงไม่มีแว้ว
1 เดือนหน้าฉ่ำๆ ฝ.สุดๆ หน้าเริ่มเป๊ะแล้วค่า
ช็อตต่อช็อตให้ดูเลยค่ะ หน้าเรียวแล้ว
ขอบคุณหมอเบนซ์ที่มอบความเรียวเป๊ะให้หน้าหนูนะคะ
ในที่สุดก็ครบ 1 เดือน ไปหาหมออีกรอบเพราะที่นี่หมอเค้าติดตามผลตลอด คือดี หน้าเรียวตอบกรอบหน้าชัดแล้วตอนนี้ ส่วนเหนียง เราว่าก็ยุบลงไปเยอะแล้วนะ ไหนหมอบอกว่าต้องรอ 2-3 เดือน นี่แค่เดือนเดียวหน้าก็เริ่มเป๊ะแล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้าผ่านไป 2 เดือนจะขนาดไหน หมอเช็คหน้าเราก็ชมว่าหน้าเรายุบเร็วดี (แน่นอนค่ะหมอหนูใส่ซัพพอร์ตเกือบตลอดเวลานี่คะ 555) มองหน้าตรงจากเมื่อก่อนจะดูหน้าเต็มๆ ตอนนี้หน้าเริ่มฟิต แต่งหน้าง่ายไม่ต้องลงคอนทัวน์เบอร์หนักแล้วค๊า เดี๋ยวนี้มีความสุขทุกครั้งที่แต่งหน้าเพราะรู้สึกว่าหน้าไม่ Fat แต่หน้าฝ. แล้วค่ะ ใครอยากมีหน้าเรียวเป๊ะ เหนียงหายแบบนี้ แนะนำมาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ แอดไลน์คลินิก @Masterpiececlinic นัดปรึกษาคุณหมอฟรีเบยยค่า
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก
