ฝุ่นละอองดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไกลตัวแต่ความจริงแล้วปัญหาเรื่องฝุ่นละอองนั้นใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เพราะสามารถเจอฝุ่นละอองได้ทุกที่แม้แต่ที่บ้านหรือในห้องนอนของตัวเองก็ตาม และคงจะไม่ดีแน่หากฝุ่นละอองเหล่านี้มารบกวนการนอนหลับหรือการอยู่อาศัยของคนในบ้านรวมถึงการทำให้คุณภาพชีวิตของเราแย่ลงด้วย หากใครไม่อยากเผชิญกับปัญหาเหล่านี้เรามี 4 สัญญาณเตือนมาบอกกันว่าทำไมคุณถึงควรมีเครื่องฟอกอากาศได้แล้ว
4 สัญญานใกล้ตัวที่จะมาเตือนให้คุณใช้เครื่องฟอกอากาศได้แล้ว
- มีฝุ่นเยอะ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ว่ามีฝุ่นจับหรือไม่ เช่น โต๊ะทำงาน หัวเตียง ชั้นวางของ ฯลฯ โดยการทำความสะอาดในตอนเช้าและลองใช้นิ้วมือสัมผัสดูในช่วงเย็นหรือเช้าวันรุ่งขึ้นว่ามีฝุ่นติดมาที่นิ้วมือหรือไม่ หากมีนั่นก็แปลว่าบ้านของคุณนั้นมีฝุ่นเยอะเกินไปและควรที่จะใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ ในบ้านได้แล้ว เพราะหากในบ้านหรือห้องนอนมีฝุ่นมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้
- หายใจไม่สะดวก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่สะดวกหรือคัดจมูกบ่อย โดยอาการหายใจไม่สะดวกนั้นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่าเราสูดดมฝุ่นละอองมากเกินไปจนทำให้ระบบทางเดินหายใจเกิดความผิดปกติ และหายใจไม่สะดวก หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินระบบหายใจขึ้นได้ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้จมูกในเด็ก โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ ฯลฯ
- ป่วยบ่อย มีอาการป่วยบ่อยแบบไม่มีสาเหตุ เช่น รู้สึกเจ็บคอ คัดจมูก ฯลฯ โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการสูดดมฝุ่นละอองเข้าไปจนทำให้เกิดโรคทางเดินระบบหายใจต่าง ๆ เช่น หลอดลมอักเสบ คออักเสบ ภูมิแพ้ ฯลฯ
- อยู่ในพื้นที่ที่มีค่า PM 5 สูง หากว่าพื้นที่ที่คุณอยู่เป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับกลางหรือระดับสูงก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าควรจะมีเครื่องฟอกอากาศในบ้านหรือเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนได้แล้ว เพราะหากร่างกายได้รับฝุ่นเกินค่ามาตรฐานอาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงชีวิตได้ โดยจะทำให้มีอาการไอ จาม เป็นภูมิแพ้หรือภูมิแพ้กำเริบ มีผื่นขึ้นตามตัว ปวดแสบปวดร้อน ลมพิษ และปอดอักเสบ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.camarciothai.com/article/24