- เข้าร่วม
- 26 มกราคม 2015
- ข้อความ
- 2
ในการเก็บสถิติและวิจัย ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ที่พบอยู่ในประเทศไทย ณ ปัจจุบันแล้ว จะพบว่า มีชายไทยจำนวน 1 ใน 3 ที่มีปัญหาหัวล้าน ในขณะที่ผู้หญิงจะพบปัญหาผมบาง เพียง 1 ใน 10 คนจะพบผมบางผิดปกติ 1 คน และสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้แต่ละคนต้องเจอกับปัญหาหัวล้าน ผมร่วงนั้น 90% มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์
ความจริงเกี่ยวกับการรักษาปัญหา ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ที่มาทดแทน ซึ่งแต่ละคนก็จะมองหาการรักษาที่ราคาถูกเข้าว่า จนลืมมองว่าปัญหา ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ที่กำลังเผชิญอยู่ มีสาเหตุจากอะไร และสภาพหนังศีรษะที่ ณ ปัจจุบัน ตอนนี้ จะใช้วิธีไหนที่รักษาได้ผล
โดยปกติทั่วไปแล้ว นอกจากสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้านแล้ว ก็จะต้องดูว่าสภาพหนังศีรษะ รากผมของผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน นั้น รากผมตายแล้วหรือไม่ หากรากผมยังไม่ได้ การรักษาก็จะมีวิธีการหลาย ทั้งรักษาด้วยยาทา ยาทาน ตามที่รู้จักกันนั้นคือ ฟีเนสเทอไรด์ และ ไมน็อกซิดิล ซึ่งมีการยืนยันทางการแพทย์แล้วว่า สามารถยับยั้งการผลิต DHT ได้ แต่ว่าไม่ถาวร และมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลงได้ และรวมถึงผลข้างเคียงอื่นๆ อีก แต่ทั้งนี้ นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ก็ยังมีการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ เทคโนโลยีMeso Hair ที่ฉีดยายับยั้งผมร่วง และรวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาใช้ในการรักษากระตุ้นรากผมด้วย ผลลัพธ์ของการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี
ส่วนในกรณีที่รากผมตายแล้ว ผมไม่งอกขึ้นใหม่ จนทำให้หัวล้าน นั้น การรักษาด้วยยา หรือเทคโนโลยีใดๆที่กระตุ้นรากผมให้ผลิตเส้นผมนั้นไม่ได้ผมอย่างแน่นอน ทางที่จะรักษาได้นั่นคือ ต้องปลูกผมถาวร อาจจะด้วยวิธีผ่าตัดแผ่นหนังศีรษะ ผ่าตัดย้ายเซลล์รากผม หรือด้วยการใช้เทคโนโลยีย้ายรากผม และเส้นผมในบริเวณที่มีเส้นผมอยู่ไปปลูกยังบริเวณที่รากผมตายแล้วแทน ซึ่งวฺิธีการผ่าตัดปลูกผมเหล่านี้ มีราคาสูง และก็ผลข้างเคียงและผลเสียอยู่พอสมควร ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ และคาดไม่ถึงเป็นแน่
5 ข้อจำกัดของการปลูกผมถาวร ที่หลายคนไม่รู้
1. ราคาปลูกผม แสนแพง คุ้มค่าจริงหรือ
ศัลยกรรมปลูกผมเป็นเหมือนศาสตร์และและงานศิลป์ เหมือนภาพเขียนที่ ราคาปลูกผม จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ซื้อ สำหรับ ราคาปลูกผม ในประเทศไทย แม้ว่าจะถูกกว่าต่างประเทศมาก แต่เมื่อพิจารณาดูจริงๆแล้ว ก็ถือว่าสูงมากอยู่ดี
สำหรับราคาปลูกผมในประเทศไทยนั้น แต่ละประเภท จะคิดราคาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกระบวนการ แต่ทั้งนี้ การปลูกผมทั้งแบบผ่าตัด แบบไม่ผ่าตัด และแบบการใช้ Robot นั้นจะคิดราคาค่าปลูกผมตามปริมาณรากผมหรือกอผม(graft) ที่ย้ายมาปลูก กราฟหนึ่งจะมีเส้นผมประมาณ 1-3 เส้น ถ้าแบบผ่าตัดขั้นต่ำที่เคยทราบจะอยู่ที่ 150 บาท ต่อกราฟ ส่วนการปลูกผมแบบ FUE กับแบบ Robot ก็จะแพงขึ้นเนื่องจากมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ซึ่งเราได้รวบรวม ราคาปลูกผม ชี้แจงไว้ด้านล่างนี้
1. ผ่าตัดปลูกผม แบบ FUT- ราคา 150 บาท
ต่อ กราฟ - ได้กราฟละ 1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 500 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 5000 กราฟ
2. การปลูกผม แบบ ย้ายเซลล์รากผม FUE- ราคา 200 บาท
ต่อกราฟ- ได้กราฟละ 1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 500 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 1000 กราฟ
3. การปลูกผม โดยใช้หุ่นยนต์- ราคา 250 -300 บาท ต่อกราฟ- ได้กราฟละ1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 1000 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 4000 กราฟ
4. เทคโนโลยี ปลูกผมด้วย STEM CELL
- ราคา 6,000 บาท
ต่อครั้ง
- ต้องทำเป็นคอร์ส
- คอร์สประมาณ 5-10 ครั้งแล้วแต่สภาพปัญหาของแต่ละคน
จากราคาข้างต้น ตอนแรกที่แจ้งว่าเป็นกราฟ หลายคนอาจคิดว่า ไม่แพงนัก แต่ถ้าเรามาคำนวณจริงๆเราจะพบว่า การปลูกผมในครั้งหนึ่งนั้น ต้องปลูกไม่ต่ำกว่า 1,000 กราฟ และปลูกได้ในบริเวณที่ไม่กว้างมาก เพราะตามความเป็นจริงทั่วทั้งหนังศีรษะของเรามีเส้นผมมากกว่า 100,000เส้น แต่การปลูกผม นั้น ได้เส้นผมมากที่สุดเพียงไม่เกิน 1 หมื่นเส้น แล้วยิ่งเทียบกับราคารวมแล้ว แพงมากๆ และจะอาจไม่คุ้มค่า
ดูข้อมูลราคาผ่าตัดปลูกผมต่อ ได้ ที่นี่
2. แผลผ่าตัด และรอยแผลเป็น
เป็นเรื่องที่ต้องทราบกันไว้แต่เนิ่นๆเลยว่า การปลูกผมถาวรนั้น ไม่ว่าจะทั้งแบบผ่าตัด แบบไม่ผ่าตัด แบบใช้หุ่นยนต์ นั้น ล้วนแล้วแต่มีแผลทั้งสิ้น ที่ออกมาโฆษณาว่า การปลูกผม FUE ไม่มีรอยแผลนั้น จริงๆ แล้ว คือ มีรอยแผล แต่เป็นจุดๆ ไม่ได้เป็นรอยแผลเย็บยาวแบบการผ่าตัดปลูกผม แบบ FUT
ดูภาพตัวอย่างแผลผ่าตัด และข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
3. การหลุดร่วงของเส้นผม หลังปลูกผมถาวร
อ่านไม่ผิดหรอกครับ ว่าผมจะร่วง หลังปลูกผม เพราะความเป็นจริงแล้วหลังจากการศัลยกรรมปลูกผมนั้น แทบทุกราย เส้นผมที่ทำการย้ายมาปลูกในตำแหน่งใหม่ จะหลุดร่วงออกมาประมาณ 10-14 วันหลังผ่าตัด แล้วเส้นผมถึงจะค่อยๆ งอกออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอผลลัพธ์การปลูกผมอีกประมาณ 6-12 เดือนว่า รากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่นั้นจะงอกออกมาหรือไม่ ต้องใช้เวลาถึงจะบอกได้อย่างมั่นใจว่าการทำศัลยกรรมปลูกผมประสบความสำเร็จดีหรือไม่ และการจะปลูกผมซ้ำหรือแซมเสริมครั้งที่ 2 ซึ่งนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นอีก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
4. ต้องกินยาควบด้วย เพราะปลูกผม ไม่ได้หยุดผมร่วง
หลายคนต่างคาดหวังหลังการปลูกผมแล้วจะไม่ต้องกินยาอีก ซึ่งยังเป็นเรื่องที่บางคนยังเข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะความเป็นจริงแล้ว การปลูกผม ไม่สามารถช่วยให้เส้นผมในบริเวณที่ไม่ได้ปลูก หยุดร่วงแต่อย่างใด ดังนั้นหลังทำศัลยกรรมปลูกผมแล้วยังต้องกินยาเพื่อประคองผมส่วนอื่นที่ยังไม่ได้ทำศัลยกรรม มิเช่นนั้น ผมก็ยังคงร่วง และ ผมอาจจะบาง มากขึ้นก็ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ยารักษาผมร่วง ที่นี่
5. ปลูกผมถาวร ที่ไม่ถาวรเสมอไป
เรื่องจริงของการปลูกผมถาวรที่น้อยคนนักจะรู้คือ นอกจากเส้นผมในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ได้การปลูกผมนั้น ยังคงหลุดร่วงได้ตามปกติหากหยุดยาแล้ว เส้นผมที่ผ่าตัดมาปลูกผมในบริเวณศีรษะล้านนั้น ก็สามารถหลุดร่วงได้ เมื่อเวลาผ่านไป 10-15ปีได้เช่นกัน
เพราะอย่าลืมว่า การปลูกผมนั้นเป็นการซ่อมแซมรากผมในบริเวณที่รากผมตายแล้ว แต่ไม่ใช่การรักษาหยุดยั้ง DHT ที่อยู่ร่างกายได้ ดังนั้น เมื่อ DHT ยังคงอยู่ กระบวนการทำลายรากผมจากฮอร์โมน DHT ยังเดินหน้าต่อเนื่องและขยายไปเรื่อยๆ สรุปแล้วก็คือปลูกผมถาวร นั้นไม่ถาวรเสมอไป
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องผลแทรกซ้อนกลังผ่าตัดได้ ที่นี่
บทความของ IHC-Hairloss.com
คลินิค ปลูกผม โดยไม่ต้องผ่าตัด
ความจริงเกี่ยวกับการรักษาปัญหา ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ที่มาทดแทน ซึ่งแต่ละคนก็จะมองหาการรักษาที่ราคาถูกเข้าว่า จนลืมมองว่าปัญหา ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ที่กำลังเผชิญอยู่ มีสาเหตุจากอะไร และสภาพหนังศีรษะที่ ณ ปัจจุบัน ตอนนี้ จะใช้วิธีไหนที่รักษาได้ผล
โดยปกติทั่วไปแล้ว นอกจากสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้านแล้ว ก็จะต้องดูว่าสภาพหนังศีรษะ รากผมของผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน นั้น รากผมตายแล้วหรือไม่ หากรากผมยังไม่ได้ การรักษาก็จะมีวิธีการหลาย ทั้งรักษาด้วยยาทา ยาทาน ตามที่รู้จักกันนั้นคือ ฟีเนสเทอไรด์ และ ไมน็อกซิดิล ซึ่งมีการยืนยันทางการแพทย์แล้วว่า สามารถยับยั้งการผลิต DHT ได้ แต่ว่าไม่ถาวร และมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลงได้ และรวมถึงผลข้างเคียงอื่นๆ อีก แต่ทั้งนี้ นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ก็ยังมีการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ เทคโนโลยีMeso Hair ที่ฉีดยายับยั้งผมร่วง และรวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาใช้ในการรักษากระตุ้นรากผมด้วย ผลลัพธ์ของการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี
ส่วนในกรณีที่รากผมตายแล้ว ผมไม่งอกขึ้นใหม่ จนทำให้หัวล้าน นั้น การรักษาด้วยยา หรือเทคโนโลยีใดๆที่กระตุ้นรากผมให้ผลิตเส้นผมนั้นไม่ได้ผมอย่างแน่นอน ทางที่จะรักษาได้นั่นคือ ต้องปลูกผมถาวร อาจจะด้วยวิธีผ่าตัดแผ่นหนังศีรษะ ผ่าตัดย้ายเซลล์รากผม หรือด้วยการใช้เทคโนโลยีย้ายรากผม และเส้นผมในบริเวณที่มีเส้นผมอยู่ไปปลูกยังบริเวณที่รากผมตายแล้วแทน ซึ่งวฺิธีการผ่าตัดปลูกผมเหล่านี้ มีราคาสูง และก็ผลข้างเคียงและผลเสียอยู่พอสมควร ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ และคาดไม่ถึงเป็นแน่
5 ข้อจำกัดของการปลูกผมถาวร ที่หลายคนไม่รู้
1. ราคาปลูกผม แสนแพง คุ้มค่าจริงหรือ
ศัลยกรรมปลูกผมเป็นเหมือนศาสตร์และและงานศิลป์ เหมือนภาพเขียนที่ ราคาปลูกผม จะถูกหรือแพงขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ซื้อ สำหรับ ราคาปลูกผม ในประเทศไทย แม้ว่าจะถูกกว่าต่างประเทศมาก แต่เมื่อพิจารณาดูจริงๆแล้ว ก็ถือว่าสูงมากอยู่ดี
สำหรับราคาปลูกผมในประเทศไทยนั้น แต่ละประเภท จะคิดราคาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกระบวนการ แต่ทั้งนี้ การปลูกผมทั้งแบบผ่าตัด แบบไม่ผ่าตัด และแบบการใช้ Robot นั้นจะคิดราคาค่าปลูกผมตามปริมาณรากผมหรือกอผม(graft) ที่ย้ายมาปลูก กราฟหนึ่งจะมีเส้นผมประมาณ 1-3 เส้น ถ้าแบบผ่าตัดขั้นต่ำที่เคยทราบจะอยู่ที่ 150 บาท ต่อกราฟ ส่วนการปลูกผมแบบ FUE กับแบบ Robot ก็จะแพงขึ้นเนื่องจากมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ซึ่งเราได้รวบรวม ราคาปลูกผม ชี้แจงไว้ด้านล่างนี้
1. ผ่าตัดปลูกผม แบบ FUT- ราคา 150 บาท
ต่อ กราฟ - ได้กราฟละ 1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 500 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 5000 กราฟ
2. การปลูกผม แบบ ย้ายเซลล์รากผม FUE- ราคา 200 บาท
ต่อกราฟ- ได้กราฟละ 1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 500 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 1000 กราฟ
3. การปลูกผม โดยใช้หุ่นยนต์- ราคา 250 -300 บาท ต่อกราฟ- ได้กราฟละ1-3 เส้น
- ปลูกผมขั้นต่ำ 1000 กราฟ
- ปลูกได้ครั้งละไม่เกิน 4000 กราฟ
4. เทคโนโลยี ปลูกผมด้วย STEM CELL
- ราคา 6,000 บาท
ต่อครั้ง
- ต้องทำเป็นคอร์ส
- คอร์สประมาณ 5-10 ครั้งแล้วแต่สภาพปัญหาของแต่ละคน
จากราคาข้างต้น ตอนแรกที่แจ้งว่าเป็นกราฟ หลายคนอาจคิดว่า ไม่แพงนัก แต่ถ้าเรามาคำนวณจริงๆเราจะพบว่า การปลูกผมในครั้งหนึ่งนั้น ต้องปลูกไม่ต่ำกว่า 1,000 กราฟ และปลูกได้ในบริเวณที่ไม่กว้างมาก เพราะตามความเป็นจริงทั่วทั้งหนังศีรษะของเรามีเส้นผมมากกว่า 100,000เส้น แต่การปลูกผม นั้น ได้เส้นผมมากที่สุดเพียงไม่เกิน 1 หมื่นเส้น แล้วยิ่งเทียบกับราคารวมแล้ว แพงมากๆ และจะอาจไม่คุ้มค่า
ดูข้อมูลราคาผ่าตัดปลูกผมต่อ ได้ ที่นี่
2. แผลผ่าตัด และรอยแผลเป็น
เป็นเรื่องที่ต้องทราบกันไว้แต่เนิ่นๆเลยว่า การปลูกผมถาวรนั้น ไม่ว่าจะทั้งแบบผ่าตัด แบบไม่ผ่าตัด แบบใช้หุ่นยนต์ นั้น ล้วนแล้วแต่มีแผลทั้งสิ้น ที่ออกมาโฆษณาว่า การปลูกผม FUE ไม่มีรอยแผลนั้น จริงๆ แล้ว คือ มีรอยแผล แต่เป็นจุดๆ ไม่ได้เป็นรอยแผลเย็บยาวแบบการผ่าตัดปลูกผม แบบ FUT
ดูภาพตัวอย่างแผลผ่าตัด และข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
3. การหลุดร่วงของเส้นผม หลังปลูกผมถาวร
อ่านไม่ผิดหรอกครับ ว่าผมจะร่วง หลังปลูกผม เพราะความเป็นจริงแล้วหลังจากการศัลยกรรมปลูกผมนั้น แทบทุกราย เส้นผมที่ทำการย้ายมาปลูกในตำแหน่งใหม่ จะหลุดร่วงออกมาประมาณ 10-14 วันหลังผ่าตัด แล้วเส้นผมถึงจะค่อยๆ งอกออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอผลลัพธ์การปลูกผมอีกประมาณ 6-12 เดือนว่า รากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่นั้นจะงอกออกมาหรือไม่ ต้องใช้เวลาถึงจะบอกได้อย่างมั่นใจว่าการทำศัลยกรรมปลูกผมประสบความสำเร็จดีหรือไม่ และการจะปลูกผมซ้ำหรือแซมเสริมครั้งที่ 2 ซึ่งนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นอีก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
4. ต้องกินยาควบด้วย เพราะปลูกผม ไม่ได้หยุดผมร่วง
หลายคนต่างคาดหวังหลังการปลูกผมแล้วจะไม่ต้องกินยาอีก ซึ่งยังเป็นเรื่องที่บางคนยังเข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะความเป็นจริงแล้ว การปลูกผม ไม่สามารถช่วยให้เส้นผมในบริเวณที่ไม่ได้ปลูก หยุดร่วงแต่อย่างใด ดังนั้นหลังทำศัลยกรรมปลูกผมแล้วยังต้องกินยาเพื่อประคองผมส่วนอื่นที่ยังไม่ได้ทำศัลยกรรม มิเช่นนั้น ผมก็ยังคงร่วง และ ผมอาจจะบาง มากขึ้นก็ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ยารักษาผมร่วง ที่นี่
5. ปลูกผมถาวร ที่ไม่ถาวรเสมอไป
เรื่องจริงของการปลูกผมถาวรที่น้อยคนนักจะรู้คือ นอกจากเส้นผมในตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ได้การปลูกผมนั้น ยังคงหลุดร่วงได้ตามปกติหากหยุดยาแล้ว เส้นผมที่ผ่าตัดมาปลูกผมในบริเวณศีรษะล้านนั้น ก็สามารถหลุดร่วงได้ เมื่อเวลาผ่านไป 10-15ปีได้เช่นกัน
เพราะอย่าลืมว่า การปลูกผมนั้นเป็นการซ่อมแซมรากผมในบริเวณที่รากผมตายแล้ว แต่ไม่ใช่การรักษาหยุดยั้ง DHT ที่อยู่ร่างกายได้ ดังนั้น เมื่อ DHT ยังคงอยู่ กระบวนการทำลายรากผมจากฮอร์โมน DHT ยังเดินหน้าต่อเนื่องและขยายไปเรื่อยๆ สรุปแล้วก็คือปลูกผมถาวร นั้นไม่ถาวรเสมอไป
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องผลแทรกซ้อนกลังผ่าตัดได้ ที่นี่
บทความของ IHC-Hairloss.com
คลินิค ปลูกผม โดยไม่ต้องผ่าตัด