5 อันดับการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ที่สาวไทยนิยมทำ

doctorgrace

สมาชิกใหม่
Registered
เข้าร่วม
15 ตุลาคม 2015
ข้อความ
1
5 อันดับการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ที่สาวไทยนิยมทำกันมากที่สุดมีอะไรบ้างพร้อมคำแนะนำคะจากคุณหมอเกรซคะ

อันดับ 5 ร้อยไหม
การร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้าจะเหมาะกับผู้ที่ใบหน้ามีความหย่อนคล้อย ดังนั้นสาวๆ ที่อายุยังไม่เยอะ จึงอาจเห็นผลไม่ชัดเจนเท่าคนที่มีความหย่อนคล้อยมากๆนะคะ แม้ว่าการร้อยไหมจะสามารถเห็นผลได้ทันทีก็ตาม แต่จะเห็นผลมากที่สุดเมื่อมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาหลังการร้อยราวๆ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ


อันดับ 4 ฉีดฟิลเลอร์จมูก
ใบหน้าของคนเอเชียส่วนใหญ่มักแบนไร้มิติ การเสริมจมูกจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้มิติของใบหน้าพุ่งออกมาด้านหน้ามากขึ้นทำให้หน้าดูแบนน้อยลง ใบหน้าโดยรวมก็จะดูเรียวสวยได้รูปขึ้นค่ะ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่สลายได้และผ่านอย.แล้ว การฉีดฟิลเลอร์จมูกก็ยังถือเป็นบริเวณหนึ่งที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง หมอจึงมักแนะนำให้คนไข้ไปผ่าตัดเสริมจมูกจะปลอดภัยและอยู่ได้นานกว่าด้วยค่ะ


อันดับ 3 ฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง
เป็นวิธีที่ทำให้ใบหน้าดูเรียวยาววีเชพได้เร็วที่สุด คือจะเห็นผลหลังฉีดทันที อย่างไรก็ดี ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ที่ใช้ฟิลเลอร์แบบสลายได้ และเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. เพราะการฉีดฟิลเลอร์ที่ราคาถูกมากๆ ไม่ผ่าน อย. อาจทำให้คางบวมแดง เป็นก้อน หน้าเสียรูป และทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมากได้ค่ะ


อันดับ 2 เมโสแฟตสลายไขมัน
สาวๆที่ยิ้มแล้วมีแก้มยุ้ยออกมามากๆจะทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วดูเหมือนเป็นคนเจ้าเนื้อได้ค่ะ หลายคนที่กล้ามเนื้อกรามไม่ใหญ่มากแต่มีแก้มยุ้ย เมื่อไปฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วอาจเห็นผลหน้าเรียวไม่ชัดเจน แนะนำให้ลองทำเมโสแฟตสลายไขมันที่แก้มเพิ่มเติม หน้าก็จะเรียวชัดเจนขึ้นค่ะ


อันดับ 1 ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
การปรับรูปหน้าแบบไม่พึ่งศัลยกรรมที่ง่ายที่สุดก็คือการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน เข้าไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม เมื่อกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ขนาดของกล้ามเนื้อก็จะเล็กลง และใบหน้าก็จะเรียวขึ้นค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการให้รูปหน้าเปลี่ยน หรือให้เรียวมากๆ แนะนำให้ฉีดทุกๆ 4-6 เดือน ติดต่อกันอย่างน้อย 3-4 ครั้ง เมื่อมาฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง พบว่าขนาดกรามจะไม่กลับมาใหญ่เท่าเดิมอีกเลยทีเดียวค่ะ


เรียบเรียงบทความโดย แพทย์หญิง เสาวภาคย์ พงศ์ศศิธร
แพทย์ผู้บริหาร DoctorGrace Clinic
http://doctorgraceblog.blogspot.com/2015/10/blog-post.html
https://www.facebook.com/doctorgraceclinic
 

กระทู้ที่คล้ายกัน

กลับ
บน ล่าง