เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอคชั่นสุดมันส์ที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ในตอนนี้กับ Overlord ใครที่ชอบดูหนังบู๊แอคชั่น แบบดุเดือดต้องห้ามพลาดเรื่องนี้กันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปชมดีไหม วันนี้เรามีบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้ จากบล็อคเกอร์ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง มาให้ทุกคนได้อ่านและตัดสินใจกันก่อนไปชมกันภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปอ่านคำวิจารณ์จาก ชีวิตผมก็เหมือนหนัง กันได้เลยค่ะ 

 

Overlord

 

ทุกนาทีที่เหล่านายทหารอเมริกันพยายามเอาชีวิตรอดและเดินหน้าปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อหยุดยั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ในหมู่บ้านเล็กๆ บนชายฝั่งฝรั่งเศส โดยไม่รู้ว่านอกจากทหารนาซีที่ต้องเผชิญแล้ว ยังมีมนุษย์ซอมบี้กลายร่างที่น่าสะพรึงรออยู่ด้วย นั้นทำให้ Overlord บ้าคลั่ง ดีเดือด ลุ้นระทึก และโหดจนเรานั่งขดตัวไปมาบนเก้าอี้ในโรงหนัง พลางครางออกมาเบาๆ ตลอดเรื่องว่า “โอ๊ย เหนื่อย”

ตั้งแต่ฉากแรกที่พวกเค้านั่งพูดคุยแหย่กันไปมาบนเครื่องบินรบ มันก็เต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ เพราะเรารู้ดีว่าสถานการณ์บนเครื่องบินนั้นมันสามารถเลวร้ายลงได้ทุกเมื่อ แล้วก็จริง! ซึ่งหลังจากนั้นเราก็นั่งดูทุกฉากด้วยความระทึกตลอดเวลา จริงอยู่ว่ามันมีการแทรกฉากตกใจแบบโป้งชึ่งอยู่บ้าง แต่มันก็เวิร์กทุกหมัด เช่นเดียวกับการฮุคด้วยสถานการณ์ตึงเครียดต่างๆ แม้ว่าจะพึ่งพาความบังเอิญอยู่เยอะ แต่มันก็ทำหน้าที่ได้ดีทุกฮุค

 

 

 

ชอบงานโปรดักชั่นและบรรยากาศของหนังมาก ฉากแอ็คชั่นหลายๆ ฉากสวยมาก! อย่างฉาก Boyce ร่วงหล่นจากเครื่องบินรบต้นเรื่องก็ทั้งดูสวยและดูจริง! ฉากห้องทดลองลับใต้ดินที่บ้าคลั่งราวกับหนังวิทยาศาสตร์ดาร์กๆ ฉาก Boyce วิ่งหนีระเบิดตอนสุดท้ายก็ยิ่งใหญ่และดูสมจริงยิ่งกว่า James Bond วิ่งหนีระเบิดใน Skyfall เสียอีก แล้วเอาจริงๆ ต่อให้ไม่มีซอมบี้มนุษย์กลายพันธุ์ หนังมันก็ดูสนุกมากอยู่แล้ว Overlord เป็นหนังสงครามที่ดูสมจริงสมจัง และน่าเอาใจช่วยทุกตัวละครได้คงเส้นคงวาตลอดทั้งเรื่อง ชอบมากที่ดีกรีความโหดและกดดันของมนุษย์กลายพันธุ์หรือซอมบี้? นั้นดุเดือดสูสีกับความโหดร้ายของมนุษย์ที่มีต่อกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์สงครามเช่นนี้ ชอบมากขึ้นไปอีกที่แม้ Overlord จะเลือกยืนอยู่ฝั่งทหารอเมริกัน แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าอเมริกันก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป! ความโหดเหี้ยมอำมหิตมันก็ดำมืดพอๆ กันทุกฝ่ายนั่นแหละ แล้วชีวิตของมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างพวกเราก็ถูกกำหนดขีดเส้นให้ดิ้นรนโดยมือหรืออุดมการณ์ของใครก็ไม่รู้…

 

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก ชีวิตผมก็เหมือนหนัง ชีวิตผมก็เหมือนหนัง นามปากกาของนักเขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์ ละครเวที และเพลง เจ้าของแฟนเพจ “ชีวิตผมก็เหมือนหนัง” ที่ยังคงเขียนบทวิจารณ์ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังเสพงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ อยู่เสมอ ติดตามผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่ www.facebook.com/LifeLikeMovies

 

เรื่องน่าสนใจ