เนื้อหาโดย Dodeden.com

น้ำโซดาไม่แต่งกลิ่นและรสชาติ หรือที่เรียกกันว่า Sparkling Water นั้น ดื่มไปแล้วจะมีประโยชน์เทียบเท่ากับการดื่มน้ำเปล่าหรือเปล่านะ มาลองดูกันค่ะ

สำหรับบางคน เวลากินสเต็กหรืออาหารฝรั่งที่มีเนื้อเป็นหลัก ก็มักจะสั่ง Sparkling Water มาดื่มด้วยเพราะว่าจะช่วยย่อยอาหาร ทำให้ท้องสบายขึ้น หลายบ้านจึงมีเครื่องทำน้ำเปล่าที่ให้รสสัมผัสซ่าๆ นี้ติดบ้านไว้ด้วย เพราะไม่แพงและทำเองง่ายมาก ซึ่งข้อดีของน้ำโซดานี้ก็คือมันไม่ผสมน้ำตาลและแต่งกลิ่นแต่งรส น้ำโซดาหรือ Sparkling Water จึงมีประโญชน์ และสำหรับคนที่อยากจะเลิกดื่มน้ำอัดลมก็สามารถเริ่มได้จากการดื่มน้ำนี้แทน ซึ่งไร้นำตาล ไม่มีแคลอรี่ และเติมความชุ่มชื่นให้ร่างกายไม่ต่างจากน้ำเปล่า 

เคยมีความเข้าใจว่าการดื่ม Sparkling Water นั้นจะทำให้เคลือบฟันเสีย ทำลายเเคลเซียมจากกระดูก ก่อให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวน จริงๆ ากเป็นน้ำอัดลมแต่งรสแต่งกลิ่นนั้นแน่นอนว่ามันทำให้เกิดได้ แต่ถ้าเป็น Sparkling Water นั้นไม่ส่งผลดังกล่าว เพราะมันจะให้ความชุ่มชื้นเช่นเดียวกับการดื่มน้ำเปล่าเลยค่ะ สิ่งที่มีอยู่ในน้ำก็แค่คาร์บอเนตเท่านั้น ถ้าหากเป็นน้ำอัดลมหวานๆ นั้น จะทำลายเคลือบฟัน ทำลายกระดูก เพราะเมื่อน้ำคาร์บอเนตผสมกับน้ำตาล จะมีความเป็นกรดสูงปรี๊ดเลยล่ะ ตรงกันข้ามกับน้ำโซดาไม่แต่งกลิ่นแต่งรส ที่ไม่ใกล้เคียงกับค่าความเป็นกรดเลย

นอกจากจะช่วยเรื่องการย่อยเเล้ว การดื่ม Sparkling Water สำหรับบางคนที่มีปัญหาเหล่านี้ก็ต้องควรระวังไว้สักนิด คือคนที่มีปัญหาท้องอืดได้ง่าย กระเพาะเซ้นซิทีฟ เพราะการดื่มน้ำที่มีคาร์บอเนตที่มีอากาศเพิ่มเข้าไปอีก จะทำให้ท้องอืดง่ายกว่าเดิม เรอด้วย ที่สำคัญคือควรระวังน้ำตาลแฝง ในโทนิกจะมีสองสิ่งนี้แฝงอยู่ ถึงเเม้ว่าจะไม่ใช้น้ำหวานอัดลมเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ลองดูที่ฉลากก่อนดื่มนะคะ

หากซื้อหรือทำน้ำโซดาจืดๆ กินเองที่บ้าน เเต่เติมน้ำหวานเข้มข้นลงไป มันก็ไม่ต่างจากการกินน้ำอัดลมที่วางขายทั่วไป ลองเปลี่ยนมาสร้างรสชาติและความชื่นใจแทนจากผลไม้ เช่น มะนาวสไลด์บางใส่ลงไป ใบมิ้ทน์ แตงกวา ผลไม้ที่เราชอบ ก็จะเพิ่มความหอมให้กับ Sparkling Water เเล้วค่ะ

 

เรื่องน่าสนใจ