วันนี้ (2 พ.ย.58) เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยเรื่องราวซาบซึ้งของอู๋ หยางหลิน เด็กชายวัย 7 ขวบ ซึ่งกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินและดูแลพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาตเพียงลำพัง หลังแม่หอบน้องสาวหนีหาย เพราะแบกรับภาระไม่ไหว โดยคุณพ่อวัย 37 ปี จากหมู่บ้านหวังฝู มณฑลกุ้ยโจว ประสบอุบัติเหตุตกจากบ้านชั้น 2 ระหว่างก่อสร้าง
แพทย์ตรวจสอบพบว่าซี่โครงและกระดูกสันหลังได้รับความเสียหายหนักเส้นประสาทไขสันหลังเสียหายทำให้เขาเป็นอัมพาตช่วงล่างกลายเป็นคนพิการอย่างถาวรทำให้ภรรยาต้องเอาเงินเก็บของครอบครัวทั้งหมดมาใช้ในการรักษาแต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย จนในที่สุดภรรยาของตงหมิงก็ตัดสินใจหอบลูกสาววัย 3 ขวบ หนีไป โดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ทิ้ง อู๋ หยางหลิน ลูกชายคนโตวัย 7 ขวบให้ดูแลผู้เป็นพ่อตามลำพัง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ถูกแม่ทิ้งไป หยางหลินก็ยังคงรับผิดชอบเรื่องการเรียนของตัวเองเป็นอย่างดี แม้จะต้องดูแลพ่อเพียงคนเดียว ในทุก ๆ เช้าหยางหลินจะตื่นตั้งแต่ 6 โมง เพื่อเตรียมอาหารให้พ่อก่อนไปโรงเรียน และระหว่างวันหลังจากทานข้าวกลางวันที่โรงเรียนเสร็จ หยางหลินก็จะรีบกลับมาบ้านเพื่อป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับพ่อ ส่วนช่วงเย็นหลังเลิกเรียน เขาก็จะเดินตระเวนรอบโรงเรียนเก็บเศษขยะรีไซเคิลไปขาย เอาเงินมาใช้ซื้ออาหารในแต่ละวัน
ยางหลิน กล่าวว่า “พ่อของผมต้องการยา แต่ผมไม่มีเงินเลย” นั่นจึงเป็นจุดที่ทำให้หยางหลินเก็บขยะรีไซเคิลขายเพื่อให้ได้เงินวันละ 100 บาท และยังมีเงินเบี้ยเลี้ยงจากรัฐบาลที่ให้พ่อเดือนละ 300 หยวน หรือราว 1,500 บาท ทำให้มีเงินพอที่จะซื้อยาให้พ่อได้บ้าง โดยหยางหลินบอกว่า “ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อ” พร้อมเผยว่าเขาอยากจะโตเร็ว ๆ เพื่อที่จะหาเงินมารักษาอาการป่วยของพ่อและจะดูแลพ่อให้ดีกว่านี้