ปลาร้ากับการทำศัลยกรรม ทำไมทางการแพทย์จึงถือว่าเป็นของแสลง? การทานปลาร้าจะก่อให้เกิดเอฟเฟคใดๆ ต่อร่างกายบ้าง และถ้าหากเผลอทานเข้าไปแล้วต้องทำตัวอย่างไร บทความนี้มีคำตอบค่ะ
เราอาจเคยเห็นเคสที่มีคนทานปลาร้าหลังศัลยกรรมแล้วมีผื่นคัน หรือส่วนที่ศัลยกรรมเกิดอาการบวมแดงขึ้น นั่นเป็นเพราะปฎิกิริยาของอาหารชนิดนี้ ที่เข้าไปกระตุ้น สารอีสตามีน ที่อยู่ในร่างกายของเรานั่นเองค่ะ
ฮีสตามีน (Histamine) คือ สารที่สะสมอยู่ใน mast cell ของร่างกาย ซึ่งจะถูกหลั่งออกมา เมื่อร่างกายของเราเกิดอาการแพ้ มาจากปฏิกิริยาดีคาร์บอกซีเลชันของกรดแอมิโน ชนิดฮีสทิดีน) ซึ่งสารฮีสตามีนถือว่าเป็นสารพิษท่ีอันตรายในอาหารประเภทอันตรายทางเคมี หากทานเข้าสู่ร่างกาย ก็จะทำให้เกิดพิษที่เรียกว่า คอมโบรทอกซิน (Scombrotoxin)
การเกิดสารพิษ Scombrotoxin มาจากการย่อยสลายกรดอะมิโนฮีสทิดีนของแบคทีเรีย ที่มีมากในเนื้อปลา เช่น ปลาทูน่า ปลาแมคคอเรล หรืออาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักดอง ผลไม้ดอง หอยดอง ซึ่งในระหว่างการเก็บรักษาท่ีอุณหภูมิสูง จะทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโต และทำให้เนื้อปลาเกิดการเน่าเสีย ซึ่งแบคทีเรียที่สร้างสารฮีสตามีนนี้ ก็จะเพิ่มมากข้ึน และทำให้สารฮีสทิดีนเปลี่ยนเป็นฮีสตามีนในปริมาณท่ีสูงมากขึ้นด้วย
หากทานปลาร้าหรือของหมักดองหลังทำศัลยกรรมในช่วง 1 เดือนแรก อาจจะทำให้แผลหายช้า กระตุ้นปฏิกริยาภูมิแพ้ได้หนักขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นอาหารต้องห้ามไม่ใช่แค่คนที่ทำศัลยกรรมมาใหม่ๆ ยังต้องห้ามสำหรับโรคภูมิแพ้ (ผื่น, คัน, น้ำมูก, จาม) เป็นสิวอักเสบ คนที่ผ่าตัดมาใหม่ๆ หรือคนที่กำลังมีบาดแผลอยู่ด้วย นอกจากนี้ อาหารที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่า เป็นอาหารแสลง(อาหารกระตุ้นภูมิแพ้) ก็คือเนื้อวัว อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม ปลาทู ของหมักดอง เช่น ปลาร้า กระปิ ผักดอง หน่อไม้ดอง ผลไม้ดอง ถั่วทุกชนิด เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู แลคตาซอย ถั่วลิสง ถั่วเขียว ฯลฯ นั่นคือถ้าไปทำศัลยกรรมมา 1 เดือนแรก จำไว้ว่า เราต้องงดอาหารเหล่านั้นค่ะ
ดังนั้น หากเพิ่งทำศัลยกรรมมาใหม่ๆ ช่วงแรกต้องงดทานปลาร้า หรือของหมักดองอื่น ๆ อย่างน้อย 1 เดือนก่อนนะคะ รอให้แผลสมานดีก่อนแล้วค่อยทาน หรือสอบถามคุณหมอเจ้าของไข้เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่