เห็นแล้วอึ้ง..รัฐบาลเม็กซิโกเผยแพร่คลิปวิดีโอ ช่วงเหตุการณ์ เอล ชาโป ราชาค้ายาเสพติดรายใหญ่ หลบหนีออกจากคุก พร้อมยังเผยแพร่ให้สาธารณชนได้เห็น อุโมงค์ลึก ความยาว 1.5 กม. ที่ถูกขุดจากห้องขังไปโผล่ด้านนอกเรือนจำ สำหรับใช้เป็นเส้นทางพาเอล ชาโปหลบหนี
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเม็กซิโกได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ แสดงให้เห็นช่วงเวลาก่อนนายโจฮาคิน กุซแมน หรือ ‘เอล ชาโป’ ราชายาเสพติด ชาวเม็กซิโก วัย 58 ปี จะหลบหนีออกจากเรือนจำอัลติปลาโน เรือนจำความมั่นคงสูงสุดของประเทศเม็กซิโก ที่เมืองอัลโมโลยา ทางตะวันตกของกรุงเม็กซิโก ซิตี้ เมืองหลวงเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา จนนับเป็นการหลบหนีออกจากเรือนจำเม็กซิโกสำเร็จเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเขาถูกเจ้าหน้าที่เม็กซิโกบุกจับกุมได้เมื่อเดือนก.พ.ปี 2557
สำหรับวิดีโอดังกล่าวของเรือนจำ ติดตั้งอยู่ที่มุมด้านนอกของห้องขัง และกล้องได้หันไปบริเวณห้องน้ำ โดยจากภาพในกล้องวิดีโอ แสดงให้เห็นนายกุซแมนเดินกลับไป-กลับมา ระหว่างห้องน้ำและเตียงนอนของเขาหลายครั้ง ก่อนจะหายตัวไปในบริเวณห้องน้ำ ขณะที่ นายอาลีแจนโดร รูบิโด คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของเม็กซิโกกล่าวว่า การเดินกลับไป-กลับมาของนักโทษในห้องขังนั้น ถือเป็นพฤติกรรมปกติ ไม่ได้แสดงความผิดสังเกตอะไร
กล้องวิดีโอแสดงให้เห็นช่วงเวลา เอล ชาโป กำลังหลบหนีลงอุโมงค์ที่บริเวณห้องน้ำ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่เรือนจำยังกล่าวว่า การติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของนักโทษในห้องขังนั้น จะมีพื้นที่ที่เป็นจุดบอดอยู่ 2 แห่งที่กล้องวิดีโอจะไม่เห็นนักโทษ คือบริเวณภายในห้องอาบน้ำ เนื่องจากเป็นการคุ้มครองในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของนักโทษ
มอเตอร์ไซต์ถูกดัดแปลงที่พบอยู่ในอุโมงค์
ด้านเว็บไซต์ France 24 รายงานว่า รัฐบาลเม็กซิโกยังได้เผยแพร่ภาพและวิดีโอที่แสดงให้เห็นอุโมงค์ ความยาว 1.5 เมตร ที่เอล ชาโป ใช้เป็นช่องทางหลบหนี โดยภายในอุโมงค์ ยังมีรถจักรยานยนต์ที่ถูกดัดแปลงจอดทิ้งอยู่ด้วย
ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ ทางทีมอัยการของเม็กซิโกกำลังดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำอยู่ว่าพวกเขาได้ดำเนินมาตรการในการติดตามเอล ชาโป หรือไม่ หลังจากเจ้าพ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้ระดับโลกสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำสำเร็จเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่ ทางการเม็กซิโกกำลังระดมกำลังตำรวจ-ทหารตามล่าหาตัวเอล ชาโป พร้อมกับประกาศตั้งรางวัลนำจับถึง 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 125 ล้านบาท