ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

จากกรณีโลกโซเชียลฯ โพสต์ภาพ และข้อความเหตุเศร้าใจ แม่ใจร้ายทุบตีลูกทารกเพราะเมายา แล้วนำไปทิ้งหนองน้ำ ก่อนทำทีลูกหายไปแจ้งความ ล่าสุด คดีพลิก! ที่แท้พลัดตกลงป่าพรุข้างบ้าน ตร.คาดเด็กตื่นนอนดิ้นตกเปล-ยังไม่ชัดแม่ลงมือ วอนโลกออนไลน์อย่าด่วนสรุป ชี้อาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย

EyWwB5WU57MYnKOuYBn035RAbylkXMpYiQmxHz1A00YBjHgwvx6WcO

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่ สภ.กันตัง จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถาม ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ มณีกาญจน์ ร้อยเวร สภ.กันตัง เพื่อติดตามกรณีที่หน่วยกู้ภัยกันตัง กุศลสถานตรัง มีการโพสต์ภาพ และข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า “รับแจ้งเหตุ แม่ใจทรามไปแจ้งตำรวจว่าลูกหาย แต่สุดท้ายทำร้ายลูกในไส้ของตัวเอง โดยตีศีรษะของเด็กแล้วนำไปทิ้งในหนองน้ำข้างบ้าน แถวตรอกโรงไม้เก่า ซอยตรอกลิเก ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมีหน่วยกู้ภัยกันตัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้าน ช่วยกันหาเด็กที่สูญหาย

พบเด็กหญิงกำลังหายใจรวยรินอยู่ในหนองน้ำ แต่ตอนนี้เด็กหญิงวัย 6 เดือนอาการสาหัส ตอนนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลตรังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาเหตุเกิดจากแม่เสพยาเสพติดแล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายลูกของตนเอง และขอขอบคุณชาวบ้านบริเวณนั้นที่ช่วยให้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่”

โดยจากกรณีที่เกิดขึ้น เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก และมีการแชร์ข้อความต่อไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่ต่างรุมประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมของผู้เป็นแม่ แต่ต่อมาทางเพจหน่วยกู้ภัยกันตัง ได้ลบข้อความดังกล่าวออกไปแล้ว

สอบถาม ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ทราบว่า ในวันที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งเหตุเวลาประมาณ 16.10 น. ของวันที่ 29 พ.ย. 58 จาก นางสาวปราง (นามสมมติ) วัย 28 ปี อยู่บ้านพักไม่มีเลขที่ ตรอกลิเก ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ว่าลูกสาวของตนเองวัย 6 เดือนได้หายไปจากบ้าน หลังจากที่ตนเองเอาลูกน้อยใส่เปลไว้ขณะหลับ แล้วออกจากบ้านไปเพื่อซื้อนมให้ลูกในเวลาเที่ยง เมื่อกลับมาลูกก็ได้หายไป ได้ขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยกันหาแต่ก็ไม่พบ จึงรีบแจ้งตำรวจให้ช่วยกันตามหา เมื่อได้รับแจ้งก็เดินทางไปตามหาเด็กทันที พร้อมด้วยชุดสายตรวจอีกหลายนาย

ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ช่วยกันตามหาเด็กน้อยคนดังกล่าว โดยเริ่มจากบริเวณบ้านหลังที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม อยู่ภายในชุมชนแออัด ยกพื้นสูง โดยด้านล่างเป็นน้ำเน่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที ก็เจอเด็ก สภาพเด็กในตอนนั้นเห็นแล้วน่าหดหู่ใจเป็นอย่างมาก

โดยสภาพที่เห็นเด็กนอนแน่นิ่ง ลืมตาอยู่บนพงหญ้าในป่าพรุข้างบ้าน ซึ่งมีน้ำเน่าเปรอะเปื้อนอยู่เต็มตัว สภาพอิดโรย หายใจรวยริน พบบาดแผลมีเลือดออกบริเวณหน้าผาก ซึ่งเกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรงจนแผลบวมปูด จากการสอบสวนแม่ของเด็กแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นการทำร้ายลูกแล้วเอาลูกไปทิ้ง ตามที่มูลนิธิได้นำเสนอข้อมูลไปทางเฟซบุ๊ก โดยมองว่าหากแม่คนดังกล่าวจะนำลูกไปทิ้งจริงๆ จะไม่ทิ้งใกล้บ้านอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังคงต้องสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าผากของเด็กนั้น ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ เผยว่า สันนิษฐานได้ว่า อาจเกิดจากการที่เด็กตื่นนอนมาแล้วดิ้นจนเกิดพลัดตกลงจากเปล จนหน้าผากกระแทกพื้น ก่อนที่สัญชาตญาณของเด็กจะคลานไปตามวัย จนพลาดตกลงไปนอกบ้าน เนื่องจากสภาพบ้านที่เก่า และมีร่องพื้นเป็นช่องว่างพอที่เด็กจะลื่นล้มลงไปจากบ้าน และไปนอนแช่น้ำดังภาพที่เห็น ซึ่งก็ได้นำประวัติของแม่เด็กไปตรวจสอบแล้ว ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด

ขณะที่ ด.ต.ปรีดา บุญวิชัย หรือ ดาบเป็ด ผบ.หมู่ ป.สภ.กันตัง ดาบตำรวจน้ำใจงาม ที่ปรากฏอยู่ในภาพขณะอุ้มเด็ก ก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงวินาทีที่เห็นเด็กน้อยนอนแช่น้ำในพงหญ้านั้น ก็ได้วิ่งปรี่ลงไปช่วยในทันทีอย่างไม่คิดชีวิต เพราะเด็กได้ติดอยู่ในพงหญ้า ซึ่งอยู่ในช่วงที่น้ำกำลังขึ้น กลัวเด็กได้รับอันตราย และกลัวเด็กจะจมน้ำไปมากกว่าเดิม และรีบนำตัวเด็กมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามหลักสูตรการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติเข้าทำการช่วยเหลือ

โดยการปั๊มหัวใจเด็ก ซึ่งก็ได้ผล เด็กเริ่มมีปฏิกิริยาที่ดีขึ้น เริ่มมีน้ำปนทรายเป็นฟองออกมาจากปาก และพยายามถีบเท้าและเคลื่อนไหวร่างกาย ก่อนจะเร่งนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลกันตัง และรอจนแพทย์ออกมายืนยันว่าเด็กปลอดภัย ซึ่งได้รับคำยืนยันจากแพทย์โรงพยาบาลกันตัง ว่าอาการเด็กยังคงน่าเป็นห่วง เด็กอาจมีการติดเชื้อจากการสำลักน้ำเน่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และด้วยสภาพร่างกายที่เริ่มเกร็งตัวไปครึ่งตัวแล้ว สมองอาจขาดออกซิเจนได้ จึงจำเป็นต้องส่งตัวน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตรัง เพื่อตรวจและรักษาตัวอย่างละเอียดอีกครั้ง ล่าสุด ทราบว่าเด็กปลอดภัยแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.อิศราพงศ์ จินา รอง ผกก.ป.สภ.กันตัง เผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นยังสรุปได้ไม่แน่ชัด ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายหรือเป็นอุบัติเหตุ ยังอยู่ในกระบวนการของการตรวจสอบอย่างละเอียด ยังไม่ชัดเจนว่าเด็กพลัดตกลงไปเองหรือไม่ แต่จากการสอบประวัติของผู้เป็นแม่แล้วไม่พบประวัติเสื่อมเสีย หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด ต้องสืบจากพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง วอนโลกออนไลน์อย่าด่วนสรุป หรือลงภาพและข้อมูลที่บิดเบือน เพราะอาจจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายได้.

เรื่องน่าสนใจ