ระยะนี้การศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยในบ้านเราได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอกมีอิทธิพลต่อหนุ่มสาวสมัยใหม่เป็นอย่างมาก ตั้งแต่การยอมรับของเพศตรงข้าม เพื่อนฝูง สังคม รวมไปถึงหน้าที่ การงาน

11

นอกจากใบหน้า ตา คิ้ว จมูก ปาก แล้ว หน้าอกหรือเต้านมก็เป็นจุดสําคัญที่ทําให้คุณผู้หญิงดูดีและมั่นใจ ทําให้การศัลยกรรมเสริมเต้านมเป็นศัลยกรรมตกแต่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีคุณผู้หญิงชาวอเมริกันเข้ารับการผ่าตัดเสริมเต้านมมากกว่า 300,000 รายต่อปี ส่วนในประเทศไทยนั้นศัลยกรรมเสริมเต้านมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปี

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวครึกโครมสะท้านวงการศัลยกรรมทั่วโลก เมื่อผู้หญิงชาวฝรั่งเศสกว่า 300 คน ที่ได้รับการเสริมเต้านมจากผู้ผลิตซิลิโคนด้อยคุณภาพ ออกมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยและขอเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนเสริมเต้านม

ซึ่งเมื่อค้นหาความจริงพบว่าบริษัทดังกล่าวใช้ซิลิโคนเสริมเต้านมที่คุณภาพต่ำกว่าที่จะนํามาใช้ใน ร่างกายมนุษย์ได้ และมีความเป็นไปได้ว่าซิลิโคนเหล่านี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งในร่างกายอีกด้วย ข่าวดังกล่าว ทําให้คุณผู้หญิงที่ได้รับการเสริมเต้านมไปแล้ว หรือกําลังมีความคิดอยากจะเสริมเต้านม เกิดความวิตกกังวลไปตามๆ กัน

รู้จักถุงซิลิโคนเสริมเต้านม หลายคนคงได้ยินคําว่า ‘ซิลิโคน’ บ่อยๆ ในชีวิตประจําวัน ซิลิโคนนั้นมีหลายชนิด แต่ละชนิดก็ถูกนํามาใช้ประโยชน์แตกต่างกัน ตั้งแต่ซิลิโคนที่ใช้อุดกันน้ําซึม หรือใช้ยารอยแยกของผนังในช่วงน้ําท่วม

ไปจนถึงซิลิโคนคุณภาพสูงที่สามารถนํามาใช้กับร่างกายมนุษย์ในทางการแพทย์ได้ (Medical grade silicone) ถุงซิลิโคนเสริมเต้านมได้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 โดย Cronin และ Gerow หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ซิลิโคนเสริมเต้านมมีลักษณะคล้ายขนมปังไส้สังขยา ประกอบด้วยวัสดุ 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ถุงหรือเปลือก (เปรียบได้กับขนมปังที่อยู่ภายนอก) ซึ่งผลิตจากซิลิโคนคุณภาพดี สามารถทนแรงบีบเค้น ทนการยืดขยายตัวได้ดี มีการรั่ว ซึมของวัสดุภายในต่ำ และไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย

ส่วนที่สอง คือ ของเหลวที่ใส่ในถุง (เปรียบได้กับไส้สังขยาที่อยู่ภายใน) ซึ่งอาจเป็น “น้ําเกลือ” ซึ่งใช้อย่างกว้างขวางในทางการแพทย์ หรือเป็น “ซิลิโคนเหลว” คุณภาพสูง โดยซิลิโคนเหลวในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มีการเกาะตัวกันระหว่างโมเลกุลดีมาก ทําให้มีการคงรูปร่างได้ดีและการรั่วซึมต่ำ จึงมีความปลอดภัยในการใช้งานสูง

ซิลิโคนเสริมเต้านมยังมีความปลอดภัยอยู่ไหม หลังจากซิลิโคนเสริมเต้านมชิ้นแรกได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นและเริ่มมีการใช้อย่างกว้างขวาง ก็มีคําถามเกี่ยวกับความปลอดภัยเกิดขึ้นมากมาย ทําให้ถุงซิลิโคนเสริมเต้านมเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ถูกจับตามองจากองค์กรทางการแพทย์ต่างๆ ทั่วโลก

มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย บ้างก็ว่าอาจทําให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งอื่นๆ ในร่างกาย บ้างก็ว่าอาจทําให้เกิดโรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue disease)

ด้วยเหตุนี้ ถุงซิลิโคนเสริมเต้านมจึงถูกตรวจสอบอย่างหนัก มีผลงานการวิจัยมากมายแสดงให้เห็นว่าซิลิโคนเสริมเต้านมที่ได้มาตรฐานไม่ได้เป็นตัวการทําให้เกิดโรคร้ายต่างๆ

 ดังเช่น การศึกษาจาก Mayo Clinic หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนําของสหรัฐอเมริกา ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร New England Journal of Medicine ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในปี ค.ศ. 1994 ว่า

 “ไม่พบว่าผู้หญิงที่เสริมเต้านมด้วยซิลิโคนเป็นโรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมากกว่าผู้หญิงปกติ” อีกหนึ่งตัวอย่างเป็นการศึกษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (National Cancer Institute) ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1997 ว่า “ซิลิโคนเสริมเต้านมไม่ทําให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม”

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัยอีกมากมายซึ่งได้ผลในทํานองเดียวกัน รวมไปถึงการศึกษาผลกระทบในระยะยาวในผู้ป่วยที่ได้รับการเสริมเต้านมนานกว่า 10 ปีด้วย ทําให้สถาบันองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ออกมาประกาศรับรองความปลอดภัยของซิลิโคนเสริมเต้านม ทั้งแบบน้ําเกลือและแบบซิลิโคนเหลว ซึ่งผลิตโดย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยการรับรองดังกล่าวมีผลตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006

ปัจจุบันสามารถสรุปได้ว่า “ถุงซิลิโคนเสริมเต้านมนั้นไม่ทําให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งอื่นๆ ในร่างกาย และโรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ในร่างกายด้วย” แต่ทั้งนี้ต้องเป็นซิลิโคนที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

 นายแพทย์กิดากร กิระนันทวัฒน์

คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ที่มา ไทยรัฐ

เรื่องน่าสนใจ