เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.ย. นางวรัทยา ตรีสินธุ์ อายุ 46 ปี อยู่ ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นำรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎศ 7222 กทม. จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถที่มีความเหมือนกัน แตกต่างกันที่ล้อแม็กซ์ นำมาที่กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์เก๋งทั้งสองคัน ว่าคันใดเป็นรถที่ถูกต้องตามทะเบียนขนส่งกันแน่

222

ดยนางวรัทยา ตรีสินธุ์ อายุ 46 ปี กล่าวว่า หลังจากนำรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎศ 7222 กทม. เข้าต่อภาษี และพ.ร.บ. ประจำปี ที่ขนส่งฯจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 แต่ถูกปฎิเสธ ในการต่อภาษี เนื่องจาก ได้มีนางรื่นรมย์ ใสสด อยู่ ต.วังคุ้ง อ.กาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ได้นำรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎศ 7222 กทม. รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน เข้ามาต่อภาษี และพ.ร.บ. ก่อนหน้าแล้ว เมื่อวันที่ 9  มิถุนายน 2557 ตนจึงได้เข้าแจ้งความได้ที่กองปราบปราม ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และเชื่อว่ารถที่ตนเองใช้นั้น น่าจะถูกสวมทะเบียนปลอม

หลังจากนั้นได้มีการนำรูปรถและทะเบียนลงไปแชร์ผ่านเฟซบุ๊ก จนกระทั่งได้มี เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงศรีฯ ที่เป็นผู้จัดสินเชื่อให้กับนางรื่นรมย์ ติดต่อเข้าขอตรวจสอบรถทั้งสองคัน ที่ สภ.อุทัย โดยนำรถทั้งสองคันมาตรวจสอบ พบว่า รถทั้งสองคัน มีหมายเลขทะเบียนเดียวกัน สีเดียวกัน เลขตัวเครื่อง ตัวถังเหมือนกันทุกอย่าง มีเพียงอย่างเดียว ที่แตกต่างกัน คือ ซีเรียลบาร์โค๊ดเท่านั้น

ส่วนนางวรัทยา เจ้าของรถ กล่าวอีกว่า รถคันดังกล่าว ตนเองและสามี ได้ออกรถป้ายแดงมาจากศูนย์ฮอนด้า ในจังหวัดสมุทรปราการ ในนาม พันจ่าอากาศเอก สมาน พางศิริ สามี  พอสามีเสียชีวิต รถคันดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดมาถึงตนเอง โดยทางธนาคาร ที่ทำสินเชื่อเป็นผู้โอนให้ ซึ่งตนก็ได้ทำการต่อภาษีและพ.ร.บ. มาตลอด ทั้ง 2 ปี จนมาปีนี้ ปีที่ 3 กลับพบว่าถูกปฎิเสธในการให้ต่อภาษี เนื่องจากมีผู้ได้นำรถสีเดียวกัน หมายเลขทะเบียนเดียวกัน มาต่อภาษีไปแล้ว และเมื่อขอตรวจสอบเอกสารจากไฟแนนซ์ของรถอีกคัน พบว่ามีเอกสารการโอนลอย ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนของตนเอง แต่ลายเซ็นในเอกสารเป็นลายเซ็นของใครก็ไม่รู้ ซึ่งไม่ใช่ลายเซ็นของตน

ด้านนายสมจิตร เจ้าของเต็นท์รถ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่นำรถฮอนด้า ซีวิคอีกคัน เข้ามาตรวจสอบ ได้เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าว น้องชายได้ติดต่อซื้อรถมาจากนายวัฒนพล เจริญภักดี  ชาวจังหวัดราชบุรี ซึ่งก่อนที่จะตกลงซื้อขายกัน ตนได้ตรวจสอบไปยังที่กรมการขนส่งฯแล้วว่า รถคันดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย โดนมีการเซ็นสัญญาโอนลอยกัน จนกระทั่งได้ขายไปให้กับนางรื่นรมย์ ซึ่งขั้นตอนในการต่อทะเบียน ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ได้มีการติดต่อจากบริษัทกรุงศรีฯ เชื่อว่า มีรถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน หมายเลขทะเบียน  เดียวกัน ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนจึงได้นำรถเข้ามาตรวจสอบ ที่สภ.อุทัย เนื่องจากตนก็ไม่แน่ใจว่าตนจะถูกหลอกขายรถมาหรือไม่

อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน เขต 1 ได้รับรถทั้งสองคันไว้ตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ตามเอกสารทะเบียนขนส่งว่าคันไหนมีรายละเอียดหมายเลขตามอุปกรณ์ และเครื่องยนต์ที่แท้จริง เพื่อจะได้ดำเนินการกับรถคันที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจมีการสวมทะเบียนมา

ที่มา : ข่าวสด

เรื่องน่าสนใจ