ศาลอิหร่านตัดสินลงโทษคนร้าย ซึ่งก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่ผู้อื่นจนใบหน้าเสียโฉมและตาบอด ด้วยการควักลูกตาทิ้ง ถือเป็นบทลงโทษในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยว่าเป็นระบบยุติธรรมที่โหดร้าย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักโทษรายหนึ่งซึ่งมีการระบุชื่อเพียงว่า นายฮามิด ถูกศาลอิหร่านตัดสินลงโทษโดยการควักลูกตาข้างซ้ายทิ้งเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา จากฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยการสาดน้ำกรดเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2009 รวมถึงถูกตัดใบหู หลังสาดน้ำกรดใส่นายดาวูด รุสฮานาอีจนใบหน้าเสียโฉม ซึ่งหนังสือพิมพ์อิหร่านรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นักโทษรายนี้ได้รับการว่าจ้างจากเครือญาติฝ่ายภรรยาของเหยื่อเอง
การลงโทษในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟันดังกล่าว ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ โดยเฉพาะองค์การนิรโทษกรรมสากลของอิหร่านระบุว่า “การลงโทษใครสักคนด้วยการตั้งใจทำให้ตาบอด นับเป็นการลงโทษที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมอย่างน่าตกใจ ไม่ต่างจากการลงโทษด้วยการตัดแขนตัดขา การเฆี่ยนตีหรือการปาก้อนหินใส่จนตาย”
อย่างไรก็ตามทางการอิหร่านพยายามอย่างยิ่งยวด ในการปกป้องผู้หญิงจากการถูกทำร้ายร่างกายด้วยการสาดน้ำกรด โดยเฉพาะในเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งกรณีของอเมเนห์ บาห์รามี หญิงสาวชาวอิหร่าน ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกสาดน้ำกรดจนตาบอดและใบหน้าเสียโฉม ซึ่งยังคงรอคอยความยุติธรรมจากศาล