นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวกรณี บริษัทศรีสะเกษทัวร์ จำกัด จำหน่ายตั๋วค่าโดยสารเกินราคา กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที พบว่า บริษัทศรีสะเกษทัวร์ จำกัด มีพื้นที่จำหน่ายตั๋วภายในอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ชั้นที่ 3 ช่องจำหน่ายตั๋วที่ 2 ในเส้นทางสาย ที่ 926 กรุงเทพ-ศรีสะเกษ
โดยพนักงานจำหน่ายตั๋วของบริษัท คือ นางสาวธีราพร เดชโภชน์ ได้กระทำความผิดจริง ตาม พ.ร.บ.ขนส่ง มาตรา159 ฐานจำหน่ายตั๋วเกินราคา โดยได้จำหน่ายตั๋วไปจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยรถมาตรฐาน 4ข(พิเศษ) ในราคา 680 บาท จากราคาที่กำหนดไว้ 433 บาท ตามที่มีการนำเสนอข่าว กรมการจนส่งทางบกจึงได้ ลงโทษเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 10,000 บาท ทันที พร้อมบันทึกในศูนย์ประวัติ ของกรมการขนส่งทางบก
ส่วนผู้ประกอบการขนส่ง มีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งมาตรา 38 ประกอบมาตรา135 ฐานเพิ่มค่าบริการค่าโดยสาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 20,000 บาท และได้กำชับให้บริษัทขนส่ง จำกัด เข้มงวดกวดขันผู้จำหน่ายตั๋วให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และในกรณีดังกล่าวนี้จะส่งผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้ดำเนินการต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบของ ผู้ให้บริการบางราย กรมการขนส่งทางบก ได้จัดเจ้าหน้าที่กองตรวจการขนส่งทางบกออกอำนวยความสะดวกและตรวจสอบตามสถานีขนส่งผู้โดยสารในกรุงเทพมหานครทุกแห่ง และจุดที่มีประชาชนเรียกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก
โดยตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการและกวดขันจับกุมรถโดยสารธารณะที่กระทำความผิดอย่างเข้มงวดจริงจัง พร้อมเพิ่มความเข้มข้นมาตรการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ
ขอให้ประชาชนเลือกใช้รถโดยสารสาธารณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้จัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ และเพิ่มจำนวนคู่สายโทรศัพท์สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้บริการรถสาธารณะ
หากพบเห็นการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนได้ทันที โดยระบุรายละเอียดรถและผู้ขับรถคันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุล ผู้ขับรถ โดยกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบด้วยความเป็นธรรมทั้งต่อผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการโดยทันทีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะต่อไป
