แล้วเกี่ยวอะไรกับโตโน่ ?
“ก็พอตกลงกับครูเป็ดคนละครึ่งแล้วครูเป็ดก็บอกมีน้องอยู่คนหนึ่ง โตโน่ เดอะสตาร์ แฟนแตงโมอ่ะเขาใฝ่ฝันอยากมีค่ายมวย เขาสนิทกับเรามาก เอ๋ก็บอกว่า ไม่รู้จัก อย่าเพิ่งเลย เราค่อยๆ กันดีกว่าไหม เขาก็บอกว่าโตโน่ อย่างน้อยน้องเขาก็โด่งดัง มีแฟนคลับเยอะก็อาจจะช่วยเราได้ แล้วก็เป็นฝันหนึ่งของโตโน่”
โตโน่เป็นนักชกมวยมาก่อน ?
“เก่งมากค่ะ คุณพ่อเขาก็เป็นนักมวยดังนะ”
แล้วโตโน่ตกลงทำไหม ?
“หลังจากที่ครูเป็ดบอก โตโน่เขาก็โทรมาคุย”
โทรคุยไม่เจอตัว ?
“เจอค่ะ โตโน่มาที่บ้าน แล้วพอคุยกันเสร็จ ที่เอ๋คุยกับครูเป็ด เราได้ดำเนินการไป 20% ตัดต้นไม้โน่นนี่นั่น คุยกับผู้รับเหมาแล้ว พอโตโน่เข้ามาปุ๊บน้องเขาก็มาดูสถานที่ มาดูแบบที่เอ๋เขียน แล้วเขาก็ดูไม่ออก เขาเลยให้ผู้รับเหมาขึงเชือกที่ตัวอาคาร ว่าประมาณแค่นี้นะ ห้องน้ำแค่นี้นะ เวทีมวยจะวางตรงนี้ พื้นที่จะเหลืออย่างนี้ น้องเขาก็มาทำแล้วก็บอกว่าพี่เอ๋ ออฟฟิศหมายถึงตัวสโตร์อย่าอยู่ในยิมเลย
พื้นที่ข้างนอกมันเหลือเอาไปไว้ข้างนอกเถอะก็คือช่วยกันค่ะ แล้วก็จะไลน์คุยกันตลอด ซึ่งเอ๋บอกแล้วว่าเอ๋ไม่มีความรู้เรื่องมวยเลย คุยกันแล้วค่ะว่าเอ๋มีหน้าที่พีอาร์นะ เขาก็มีหน้าที่บริหารเรื่องค่ายมวยไป”
ได้คุยไหม หุ้นยังไง กี่เปอร์เซ็นต์ ?
“คุยค่ะ เอ๋ 40% ในฐานะเจ้าของบ้านน้อง 30 ครูเป็ด 30 เพราะว่าตอนแรกคือคนละครึ่งกับครูเป็ด ครูเป็ดบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวให้โตโน่เอาในหุ้นครูเป็ด เราก็แบบดูเหมือนเราเอาเปรียบ ก็เลยเป็นแบบ 40 30 30 ก็คุยกันตกลงสัญญาฉบับแรกผ่านไปด้วยดี”
มีเอกสารสัญญาด้วย ?
“มีๆ มีเอกสาร”
แล้วทำไมเขาถอนหุ้น ?
“ก็คุยกัน เผอิญเอ๋ไม่ได้ถือเอกสาร แต่วันที่เปิดยิมได้นำเอกสารให้สื่อดู ก็น้องเขาถึงขึ้นมาว่า พี่! โอเคถ้าในยิมนักเรียนมาเรียน ผมได้ 30% เพราะผมลง 30 แต่ในส่วนเสื้อผ้ากางเกงมวย อุปกรณ์ ผมต้องได้ 80 นะ”
เขาเป็นคนนำเข้ามาขายเหรอ ?
“ไม่ๆ เพราะเขาเป็นโตโน่ เดอะสตาร์ เขาบอกว่าแฟนคลับใน ig หรือในเพจเขามีเยอะมีเกือบ 5 แสนคน ถ้าลูกค้าโทรมาไม่ได้เรียนมาจากต่างจังหวัดเนี่ย แต่อยากได้เสื้อ ลูกค้ามาจากทางผม ผมได้แค่ 30 เองเหรอ ก็เลยคุยกัน ทำไมน้องไม่ไปทำแบรนด์เองล่ะ ถ้าอย่างนี้มันเป็นการเอาเปรียบพี่กับครูเป็ด พี่ลง 40 ครูเป็ด 30 แล้วมันได้แค่ 10% พี่คงไม่ยอม ก็เลยบอกว่าเอางี้แล้วกัน ครูเป็ดก็เรียกเอ๋ไปคุยเป็นการส่วนตัว คุยกันที่ 30 ยอมไหม
เดี๋ยวผมไม่เอาก็ได้ในส่วน ครูเป็ดน่ารักๆ ครูเป็ดยอมหมดเพราะอยากทำ อยากขยายสาขา ก็เลยบอกว่างั้นตัวเองกับเขาต้องทำอีกฉบับนะเรากลัวก็คุยกันจบที่ 70 30 นั่งอยู่โตโน่คงรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ต่อหน้าทนายอีก 30 คน เขาก็บอกว่าผมไม่สบายใจเลย น้องเขาสปิริตสูงมาก ผมเหมือนเอาเปรียบพวกพี่เลย เอางี้ดีกว่าผมขอ 60 พี่ 2 คนเอาไป 40 แล้วครูเป็ดก็ตีขาเอ๋ ผมให้ตัวเองทั้งหมด(หมายถึงให้เอ๋ทั้งหมด) ก็เลยมีสัญญาอีกฉบับเรียกว่าหนังสือแนบท้ายสัญญา ทีนี้เอ๋เลยต้องพูดว่าในฐานะเจ้าของบ้านเนื้อที่ 250 วา ที่มันก็เหลืออยู่เยอะ เอ๋ก็ขอคิดเป็นค่าเช่าหน่อยได้ไหม”
ค่าเช่าเท่าไหร่ ?
“เอ๋ขอค่าเช่าเดือนละ 2 หมื่น ก็ทำสัญญากันเดือนละ 2 หมื่น ทำสัญญากัน 10 ปี ทุก 3 ปีจะขึ้น 10% ทนายเขาก็ร่างมา ครูเป็ดยังแซวเลยว่าทำให้ดีนะเกิดปีหน้าไม่สบายมึงตายเนี่ย ลูก แม่ มาขายที่ยิมผมไม่ได้นะ”
ก็ดูเหมือนจะคุยกันได้ แล้วเคืองโตโน่เรื่องอะไร ?
“เพราะอีกวันหนึ่งผ่านมา โตโน่ก็คุยกันนะคะ น้องเขาก็บอกว่าผมจะไม่ทำแล้ว เซ็นสัญญาไปแล้ว น้องก็เอาสัญญาไป 1 ฉบับ”
เหตุผลของเขาคืออะไร ?
“เขาบอกเขาไม่ทำดีกว่าเพราะว่า ผมมองแล้วว่าแฟนคลับผมเยอะ ไม่สบายใจ ผมมีความรู้สึกว่าผมเสียเปรียบ น้องเขาคิดว่าโปรโมตความเป็นโตโน่ แต่น้องเขาลืมไปว่ามันเป็นธุรกิจที่เราทำร่วมกัน”
พอน้องบอกไม่ทำได้คุยกัน ปรับความเข้าใจกันไหม ?
“น้องไม่รับสายเอ๋อีกเลย โทรไปก็รับนะคะแต่บอกว่าติดถ่ายละคร ในขณะที่ครูเป็ดยังช่วยมาดู เอ๋ก็โทรหาพี่เขาทราย เขาก็จะแวะมาดูวัน 2 วัน แวะมาคมงานให้”
สรุปคือตอนนี้ไม่มีโตโน่แล้ว ?
“ไม่มี”
คนมองเอาเรื่องโตโน่มาสร้างกระแส ?
“นี่แหละที่ทำเอาเอ๋เครียดต้องเข้าโรงพยาบาล เอ๋เครียดเรื่องนี้จนเอ๋หัวใจวายเส้นเลือดตีบ เอ๋เครียดมาก เอ๋ไม่มีความรู้เรื่องนี้ แล้วทำไมทำกันแบบนี้ เอ๋โทรหาน้องเขาไม่ทำไม่เป็นไรแต่ด้วยความที่ครูเป็ดยังน่ารัก ซื้อผ้าพันมือที่นี่นะ เห็นน้องรู้จักพวกยี่ห้อเยอะพวกกระสอบทราย ประสานให้พี่หน่อยสิ น้องเขาจะบอกว่าผมไม่ว่าง ผมถ่ายละคร”
ไม่มีความรู้ก็ยังจะทำ ?
“เขาให้เอ๋สำรองจ่ายไปก่อน แล้วเอ๋ก็เจ๋งมากเลยนะเพิ่งจะมาเห็นในสัญญาว่าเอ๋ได้รับเงินจากน้องเขามา 1.5 ล้าน ได้รับเงินมาเรียบร้อยแล้ว ทนายบอกว่าพี่เอ๋เอาอย่างนั้นเลยเหรอครับ”
สรุปได้เงินมารึยัง ?
“ไม่ได้รับเงิน แต่ก็เขียนลงในสัญญาว่ารับแล้ว แล้วก็เซ็นไปเรียบร้อย เพราะน้องเขาบอกว่าเดี๋ยวกลับไปเขาคืนให้ เขาจะโอนตังมาให้ คือเรื่องทั้งหมดไม่ได้เริ่มที่เอ๋ เริ่มที่น้องเขาเพราะน้องเขาไปพูดหลังจากที่เราคุยแล้วมีสัญญากัน น้องเขาไปประกาศว่าจะทำยิมกับเอ๋”
แล้วยังไงต่อ ?
“หลังจากเปิดยิม สื่อก็ไปถามโตโน่ว่าพี่เอ๋จะเปิดยิมในความเข้าใจของสื่อคือจะหุ้นกัน โตโน่ก็บอกว่าผมไม่ได้หุ้นแล้ว ไปดูสถานที่แล้วไม่ลงตัวเลยไม่ได้ทำ แล้วน้องบอกว่าน้องไม่ได้มาที่เอ๋ เราก็รู้นะว่าสื่อเป็นยังไง ก็ระวังอยู่แล้ว สื่อจะพูดเกินไปรึป่าว น้องที่เป็นสื่อก็ให้ดูว่านี่หลักฐานที่โตโน่พูด เอ๋ก็เลยเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่า มันเงินเฮือกสุดท้ายของพี่ ที่พี่จะใช้ อยากทำสเต็มเซลล์ อยากหายจากมะเร็ง พี่อยู่กับเธอไม่นานหรอกนะ”
อยากบอกอะไรโตโน่ ?
“ก็ไม่ได้โกรธน้องนะคะ ไม่ได้เคืองอะไรมากมาย ไม่ได้แค้น แค่รู้สึก…จะบอกว่าไม่เคืองก็ไม่ได้ ไม่ได้แค้นดีกว่า แต่รู้สึกเคืองๆ ตรงที่ว่าหวังว่าน้องคงมีน้ำใจให้พี่บ้าง”