เว็บไซต์เดลีเมล์ รายงานเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เผยภาพหญิงชาวอินโดนีเซียถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนหลังจำนวน 26 ครั้งอย่างเจ็บปวด ผลจากการทำผิดกฎหมายชารีอะห์ ที่ห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ขณะที่ฝ่ายชายก็ถูกลงโทษลักษณะเดียวกันทามกลางสายตาผู้คนจำนวนมาก
ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นหญิงชาวอินโดนีเซียรายหนึ่งถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าบนเวทีกลางแจ้งที่ตั้งขึ้นหน้ามัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองอาเจะ ประเทศอินโดนีเซีย โดยชายผู้ทำการลงโทษใช้ไม้ไผ่ยาวฟาดไปที่แผ่นหลังหญิงคนดังกล่าวจำนวน 26 ครั้ง ขณะที่ผู้ถูกลงโทษกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จนถึงกับต้องร้องไห้ออกมา โดยหลังการลงโทษสิ้นสุดลง ชายคนที่รับรับการกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับหญิงคนดังกล่าวก็ถูกลงโทษด้วยเช่นเดียวกัน
รายงานระบุว่าจังหวัดอาเจะ ของอินโดนีเซีย ประเทศซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เป็นจังหวัดเดียวที่ได้รับการเปิดทางให้บังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ หรือกฎหมายศาสนาอิสลาม โดยภายใต้กฎหมายดังกล่าวระบุว่า ชายและหญิง ที่ไม่ใช่คู่สามีภรรยากันไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้กันมากเกินไป หากฝ่าผืนจะต้องถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยน
นอกจากนี้ เพศสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกัน การพนัน และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีข้อห้ามและบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนด้วยการเฆี่ยนด้วยไม้ไผ่หลังจากจังหวัดอาเจะห์ได้รับการเปิดทางให้ปกครองตนเองได้เมื่อปี 2544
ทั้งนี้มีร่างกฎหมายชารีอะห์ใหม่ๆหลายมาตราที่นำออกบังคับใช้ในอาเจะห์ ในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเสียงคัดค้านจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง ล่าสุดเมื่อปี 2558 เมืองบันดาอาเจะห์ เมืองเอกของจังหวัดอาเจะห์ ออกกฎหมายห้ามผู้หญิงเข้าไปยังสถานบันเทิงหลัง23.00น. แม้ว่าหญิงคนดังกล่าวจะเดินทางไปพร้อมกับสามีหรือสามชิกครอบครัวที่เป็นผู้ชายก็ตาม นอกจากนี้ในจังหวัดอาเจะห์ยังมีกฎหมายห้ามชายและหญิงที่ยังไม่แต่งงานนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกันด้วย
