กรมควบคุมโรค แจงเด็กติดโรคมือ เท้า ปาก 3 วันตาย เป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง-อาการทรุดเร็ว เผยเป็นสายพันธุ์ เอนเทอโรไวรัส (EV) 71 ตอนกลางวันอาการดี ๆ ตกเย็นก็ทรุดได้ เผยไม่มียา-วัคซีนป้องกัน ต้องรักษาตามอาการ
จากกรณีที่ คุณ Saowapa Sittikankaew ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ต้องสูญเสียลูกสาวด้วยโรคมือ เท้า ปาก หลังลูกสาวป่วยเพียง 3 วันเท่านั้น พร้อมแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ได้ทราบและเฝ้าระวังกัน
ล่าสุด วันที่ 7 กันยายน 2558 นายแพทย์ธนะรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เด็กเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ได้มากกว่ากลุ่มอายุอื่น ซึ่งโรคนี้มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็รุนแรงไม่เท่ากัน ส่วนสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุดคือ “เอนเทอโรไวรัส (EV) 71” แต่ทั้งนี้มีโอกาสพบได้น้อยมาก ซึ่งหากป่วยแล้วเชื่อดังกล่าวจะทำให้อาการทรุดหนักรวดเร็วและเสี่ยงชีวิตได้ง่าย
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ธนะรักษ์ เผยว่า จากเรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบรายละเอียดเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จากเคสดังกล่าว ก็คาดว่าน่าจะเป็นการป่วยโรคมือ เท้า ปาก สายพันธุ์รุนแรงอย่างเอนเทอโรไวรัส (EV) 71 เพราะเชื้อนี้ทำให้อาการป่วยเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
จากตอนกลางวันอาการยังดี ๆ อยู่ ตกเย็นอาการอาจจะแย่ลง และเชื้อจะลามเข้าไปที่ก้านสมอง ทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมระบบหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นช้าและความดันต่ำ ทั้งนี้ ตนคิดว่าแพทย์ที่ดูแลอาการคงช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว เพราะโรคนี้ไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกัน ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น
นายแพทย์ธนะรักษ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อพบผู้ป่วย ก็จะพยายามหาว่าติดเชื้อตัวไหน แต่ก็ไม่สามารถตรวจหาได้ทุกคน เพราะแต่ละปีมีเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก เป็นหมื่น ๆ คน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจมีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็พยายามจัดทำระบบเพื่อไม่ให้ราคาแพงมาก อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเด็กมีอาการรุนแรง ก็จะตรวจหาเชื้อเอนเทอโรไวรัส (EV) 71 ทุกราย และจากการตรวจพบ เด็กที่มีอาการรุนแรงดังกล่าว ก็ติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส (EV) 71 ทั้งสิ้น
