กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรม สบส ) กระทรวงสาธารณสุข จับมือสถานีตำรวจในเขตนครบาล เดินหน้าสร้างความเข้าใจและกวดขันผู้ประกอบกิจการสปา และกิจการนวดทั่วกรุงเทพฯ ทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่เข้าข่ายเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้มาเข้าคอร์สอบรมการขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้ถูกกฎหมาย ก่อนจะถูกใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ทั้งจำทั้งปรับ
นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรม สบส. ได้มีนโยบายให้กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 โดยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่งที่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องขออนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้รับบริการที่มีมาตรฐาน ทั้งด้านสถานที่ การให้บริการ และความปลอดภัย ปัจจุบันมีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการทั่วประเทศกว่า 12,200 แห่ง โดยสถานประกอบการฯที่ได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการฯแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น ยกเว้นภาษีสรรพสามิต(ตามประกาศกรมสรรพสามิต) ได้รับการส่งเสริมศักยภาพในด้านต่างๆ ส่งเสริมให้ร่วมออกบู๊ธทั้งในและต่างประเทศ และหากสถานประกอบการฯแห่งใดมีความพร้อมก็จะได้รับการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานจนไปสู่ระดับสากล ได้แก่ Thai world class spa และ Nuad Thai Premium อันเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่สถานประกอบการฯและทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้นด้วย
ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรม สบส. และผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้กล่าวว่านับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพฯ มาเป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้วนั้น กรม สบส. มีการประชาสัมพันธ์ทั้งในรูปแบบการจัดคาราวาน Knock door กระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด การประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย การจัดอบรมและจัดประชุมชี้แจง รวมทั้งการลงพื้นที่สถานีตำรวจในเขตนครบาล เพื่อทำความเข้าใจ แนะแนวทางการขออนุญาต และรับยื่นเอกสารขออนุญาตเปิดกิจการนอกสถานที่อีกด้วย เพื่อให้กิจการสปา กิจการนวด ที่เข้าข่ายเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตามกฎหมาย โดยต้องมาขออนุญาตประกอบกิจการกับกระทรวงสาธารณสุข และในการจัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบกิจการและผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตนครบาล ทำการสำรวจ ประสาน และระดมกิจการสปา กิจการนวด ที่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการให้เข้ามารับฟังแนวทางการขออนุญาตประกอบกิจการ และให้ความรู้เกี่ยวกับบทลงโทษ กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ร้านนวด-สปาที่เปิดกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจว่า “สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ” “กิจการสปา” “นวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม” หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท เป็นต้น