ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 8 พฤษภาคม 2560 ) นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( สบส. ) กล่าวว่า ตามที่พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 27 กันยายน 2559 และมีการประกาศใช้กฎหมายลูกอีก 6 ฉบับ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง จึงจะสามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการฯได้ และผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องรับผู้ให้บริการฯ ที่ได้รับใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพแล้วเท่านั้น
โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้ให้บริการฯ ขจัดปัญหาสปา นวดไทยไม่มีมาตรฐาน คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้รับบริการ
ซึ่งผู้ให้บริการฯ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติฯ สามารถยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯ โดยในเขตกรุงเทพฯ ยื่นคำขอ ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี
ส่วนต่างจังหวัด ให้ยื่น ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ หรือยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ www.spa.hss.moph.go.th ทุกช่องทางไม่เสียค่าธรรมเนียม และใบรับรองใช้ได้ตลอดชีพ ทั้งนี้ ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติฯ กำหนดให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (ตรวจสอบหลักสูตรที่ผ่านการรับรองได้ที่ เว็บไซต์กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ www.thaispa.go.th) เป็นผู้ที่ไม่วิกลจริต ไม่ถูกพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเกี่ยวกับเพศ/ทรัพย์/ยาเสพติด หรือการค้าประเวณี
เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีก่อนวันยื่นคำขอขึ้นทะเบียน ไม่ป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติด ในกรณีที่ทราบภายหลังว่ามีคุณสมบัติไม่ครบ หรือมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว จะถูกลบชื่อออกจากทะเบียนของ กรม สบส. ทันที
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ให้บริการฯ ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ นอกเหนือจาก หลักสูตรที่กรมฯให้การรับรอง สามารถนำหลักสูตรที่เรียนมาเทียบเคียงได้ หากผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดก็สามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้ โดยผู้ให้บริการฯกลุ่มดังกล่าวนั้น ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนฯ ภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2560
กรณีของผู้พิการทางสายตาที่ประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ได้รับการอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ตามหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ก่อนวันที่ 27 กันยายน 2559 ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่กรมฯให้การรับรอง
กรณีนี้ สามารถยื่นลงทะเบียนได้ถึง 23 ธันวาคม 2560 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18106 และ 18226