ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้  ( 3 มิถุนายน 2560 ) นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่า เดือนมิถุนายนเป็นช่วงฤดูฝนและเป็นสาเหตุของการเกิดโรคติดต่อหลายชนิด

ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนูและอันตรายจากสัตว์มีพิษ เป็นต้น กรม สบส.ได้กำชับ อสม. ลงพื้นที่ สำรวจชุมชนในการจัดการสภาพแวดล้อม กำจัดขยะ วัสดุ หรือสิ่งปฏิกูล ไม่ให้กีดขวางทางระบายน้ำ ลดการเกิดแหล่งน้ำขังซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์โรคติดต่อ

พร้อมทั้งให้คำแนะนำวิธีการปฏิบัติตนหากต้องเดินลุยน้ำในช่วงฤดูฝน ดังนี้ 1.ควรสวมรองเท้าบูธทุกครั้งที่ต้องเดินลุยน้ำ 2.หลังเดินลุยน้ำควรทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ เช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากมีบาดแผลให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการเกิดโรคที่มากับน้ำ เช่น โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า เป็นต้น

3.หากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำในเวลากลางคืน ควรพกไฟฉายติดตัว เพื่อส่องทางป้องกันการเกิดอันตราย4.หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด ไม่ยืนในน้ำ หรือใช้มือจับสายไฟอย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ โดยเฉพาะ5.เด็กเล็ก ไม่ควรปล่อยบุตรหลานลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคและอาจเสียชีวิตจากการจมน้ำได้

นายแพทย์ภัทรพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ให้ อสม.เน้นย้ำมาตรการ 5 ส. คือ ส. สำรวจ บ้านเรือนและบริเวณบ้านไม่ให้มีสิ่งปฏิกูล ขยะและสิ่งของไม่จำเป็น แยกแยะให้เป็นระเบียบ และขจัดสิ่งของไม่จำเป็นทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก ส. สะดวก จัดสิ่งของต่างๆให้เป็นระเบียบเพื่อความสะดวก ปลอดภัยและใช้งาน ส.สะอาด ทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้านเป็นประจำ ส. สุขลักษณะ สร้างสุขลักษณะที่ดี ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ

และ ส. สร้างนิสัย ปฏิบัติเป็นประจำจนเกิดเป็นนิสัยพร้อมทั้งเน้นย้ำให้ความรู้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เพราะมีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนในวัยอื่น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายสม่ำเสมอซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด สามารถลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อในช่วงฤดูฝน

เรื่องน่าสนใจ