จากกรณีข่าว แม่หญิงลี ประสบอุบัติเหตุถูกรถปิกอัพชนหน้าทางเข้ารีสอร์ทที่ หญิงลี ศรีจุมพล กำลังสร้างอยู่ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 โดยอาการของ คุณแม่บุญล้อม ค่อนข้างหนักมีเลือดออกในสมอง ซึ่งคุณแม่ออกจากห้องผ่าตัดแล้ว แต่โดยรวมยังไม่พ้นขีดอันตราย
น.ส.ธิดารัตน์ ศรีจุมพล หรือ หญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมด้วยนายทองเลื่อน ศรีจุมพล ซึ่งเป็นพ่อ และนพ.ธนภณ งามมณี แพทย์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าอาการของนางบุญล้อม ศรีจุมพล แม่ของหญิงลี ที่ถูกรถกระบะพุ่งชนหน้ารีสอร์ท ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสมีเลือดออกในสมองทั้งสองข้าง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลบุรีรัมย์
คลิปคนขับรถชนแม่หญิงลี รุดกราบขอขมาถึงเตียง
https://youtu.be/ZN4k6jBc2jg
หญิงลี กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังติดอยู่ในความทรงจำเพราะเกิดต่อหน้าต่อหน้าแต่ก็ช่วยอะไรแม่ไม่ได้ เพราะขณะนั้นทั้งตนและพ่ออยู่ในอาการช็อกทำอะไรไม่ถูก จะเคลื่อนย้ายหรืออุ้มแม่ออกจากท้องรถกระบะก็ไม่กล้า เพราะตอนนั้นแม่สาหัสมาก อย่างไรก็ตามหลังจากหมอได้ผ่าตัดรักษาอาการเลือดออกในสมองแล้ว ทำให้แม่มีสัญญาณตอบสนองดีขึ้น ก็ทำให้ทั้งตนและครอบครัวมีความหวังมากขึ้น ซึ่งตนก็ได้ไปกราบไหว้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้คุ้มครองให้แม่ปลอดภัย เพราะเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง ส่วนรีสอร์ทดังกล่าวนั้นตนตั้งใจจะสร้างให้พ่อกับแม่ได้อยู่ดูแลในบั้นปลายชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“ขอขอบคุณแพทย์ พยาบาลทุกคนที่ใส่ใจดูแลแม่เป็นอย่างดี และตั้งใจว่าอยากจะซื้อเก้าอี้สำหรับให้ญาตินั่งเพื่อบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลด้วย และจะพยายามทำบุญทำกุศลให้มากเพราะหลังเกิดการณ์ดังกล่าวก็ทำให้รู้ว่าชีวิตคนเรามีสั้น ควรจะทำอะไรให้กับคนที่เรารัก และทำเพื่อสังคมให้มาก
ส่วนงานที่เคยรับไว้หากงานไหนเลื่อนได้ก็จะขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะอยากจะใช้เวลาดูแลแม่อย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องคดีขณะนี้ไม่ได้คุยอะไรกับคู่กรณี เพราะอยากจะดูแลให้แม่ปลอดภัยก่อน เบื้องต้นก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไปก่อน ซึ่งคู่กรณีเองก็ไม่หลบหนีทั้งยังยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย” หญิงลี กล่าว
ด้าน นพ.ธนภณ กล่าวว่า ภาพรวมอาการของคนไข้ล่าสุดก็เริ่มตอบสนองมากขึ้น ส่วนที่มีเลือดออกจากสมองทั้งสองข้างนั้น จากการผ่าตัดสมองข้างขวาไปแล้วก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอใจ ส่วนสมองข้างซ้ายก็ไม่มีเลือดออกเพิ่ม ช่วงนี้ก็ให้สมองที่ได้รับบาดเจ็บได้พักฟื้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีก็คาดว่าแนวโน้มอาการโดยรวมจะดีขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จจากการแถลงข่าว นายพิทักษ์ จันทร์นวล อายุ 49 ปี ชาว อ.นาโพธิ์ ซึ่งเป็นคนขับรถปิกอัพคู่กรณี พร้อมภรรยาก็ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของนางบุญล้อม พร้อมทั้งได้กราบขอโทษแม่บุญล้อม และยอมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยอมรับว่าวันเกิดเหตุได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์แต่ก็ไม่ได้เมา แต่จังหวะที่รถจักรยานยนต์จะเลี้ยว ตนพยายามจะแซงหลบไปด้านขวาแต่ก็ไม่พ้น จึงชนแม่บุญล้อมจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายพิทักษ์ว่า “เมาแล้วขับ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย”