เรียบเรียงโดย Dodeden.com
รู้ไหมคะว่า…สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถแห่งประเทศไทยนั้น ท่านทรงมีพระสิริโฉมอันงดงามที่ใครๆ ก็ต่างพากันยกย่อง ฉลองพระองค์ที่ท่านสวมใส่ ไม่ได้เพื่อความสบายเพียงเท่านั้น แต่ท่านมีความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ความงดงามของผ้าไทยให้ออกสู่สายตาชาวโลก เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็คือ พระองค์ท่านมักจะสวมใส่ฉลองพระองค์ที่ทำมาจากผ้าไหมเป็นส่วนใหญ่ อีกหนึ่งเหตุผลที่ท่านชอบแต่งพระองค์ให้สวยงาม นั่นเป็นเพราะอยากให้ราษฏรของพระองค์ ได้เห็นความสวยงามของผ้าไทย และเกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่เรามี
ในส่วนของชุดผ้าไทย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักออกแบบเสื้อผ้าชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง อย่างนาย ปิแอร์ บัลแมง มาดูแลฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทย ซึ่งถือเป็นพระราชกุศโลบายในการส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวโลกได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดความนิยมสวมใส่เครื่องแต่งกายที่ตัดเย็บด้วยผ้าไทยอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
นายปิแอร์ บัลแมง
นักออกแบบชาวฝรั่งเศส ผู้ดูแลการตัดเย็บฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาเป็นเวลากว่า ๒๒ ปี
และมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ความงดงามของผ้าไหมให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
“ทรงมีความงามประหนึ่งตุ๊กตาที่อาจชนะตำแหน่งราชินีแห่งราชินี หากมีการประกวดพระราชินีกันขึ้นทั่วโลก” และด้วยรัศมีอันเปล่งประกายของพระองค์ จนทำให้นิตยสารอีกหลายฉบับในต่างประเทศลงพระฉายาลักษณ์พระองค์บนปกนำ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม สวีเดน ออสเตรเลีย เป็นต้น
แม้แต่ในแวดวงดีไซเนอร์ชื่อดังของโลก ก็ได้ลงคะแนนให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็น 1 ใน 10 ของ “สตรีที่แต่งพระองค์งามที่สุดในโลก” อีกทั้งในปี พ.ศ. 2508 พระนามาภิไธยของท่านก็ยังปรากฏอยู่ในหอแห่งเกียรติยศ นครนิวยอร์ก ในฐานะที่ทรงเป็น 1 ใน 12 สตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก
ถึงแม้ว่าพระองค์จะได้รับคำชมเชยถึงฉลองพระองค์อันงดงามในทุกประเทศที่เสด็จฯเยือนต่างประเทศ และทรงเป็นผู้นำแฟชั่นด้านต่าง ๆ ของเมืองไทย ทั้งเครื่องแต่งกาย หมวกนำสมัย เครื่องประดับ แต่เรื่องการแต่งพระองค์ยังเป็นสิ่งที่พระราชินีทรงหนักพระทัยและกังวลมากเป็นพิเศษอยู่ เพราะเครื่องแต่งพระองค์ต้องงามเหมาะสมกับตำแหน่งพระยศ ที่ทรงดำรงคู่กับประมุขประเทศ ที่ต้องทรงแต่งให้ถูกกาลเทศะ พร้อมแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอีกด้วย
ในแต่ละครั้ง พระองค์จะทรงพิถีพิถันในการเลือกฉลองพระองค์มากเป็นพิเศษ ต้องเหมาะสมกับงานนั้น ๆ เพราะทรงำนึงถึงหน้าตาของประเทศ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องศักดิ์ศรีอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการโฆษณาผ้าไทย แต่งกายแบบไทย และเอกลักษณ์ความเป็นไทยไปในตัว และถึงเเม้ว่าจะเสด็จเยือนชาวบ้านแค่ภายในประเทศ พระองค์ท่านก็ทรงโปรดที่จะแต่งฉลองพระองค์อย่างงดงาม นั่นเป็นเพราะว่า ท่านให้เกียรติคนที่มาเฝ้าด้วย ถึงเเม้ว่าจะเป็นเพียงชาวบ้านที่มาพึ่งพระบารมีก็ตาม
“อันที่จริง ฉันเป็นที่แก้ไม่หาย พระท่านบอกว่ายังติดอยู่กับความสวยความงาม แต่ว่าความจริงแล้วเป็นอย่างนั้น ชอบสวยงาม
แล้วอีกประการหนึ่ง ชาวบ้านนี่นาน ๆ เขาจะเห็นเราสักทีหนึ่ง โดยมาก ชั่วชีวิตเขาก็เห็นไม่กี่ครั้ง เลยคิดว่าพยายามแต่งตัวให้ดี
ให้เขาเห็น ให้เขาจำ … ความจริงถึงแต่งตัวดีมากไปได้ประเดี๋ยว มันก็มอมเพราะคลุกฝุ่น โดยมากพยายามใส่ชุดชาวเขาไปหาชาวเขา
พอเขาเห็น เขาบอกว่า เอ๊ะสวยนี่สวย”
ฉลองพระองค์ผ้าไหมไทย ออกแบบโดย Pierre Balmain
ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานสีน้ำเงิน Blue Royal
ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ ประดับด้วยดิ้นทองและทับทิม
ฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต ออกแบบและตัดเย็บโดย Pierre Balmain
ปักดิ้นทองด้วยมือระดับกูตูร์ ผลงานการปักฉลองพระองค์โดย Maison Lesage
ฉลองพระองค์ ที่ตัดเย็บโดยผ้าไหมมัดหมี่ จ.บุรีรัมย์
ทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมแพรวาที่ชาวผู้ไทบ้านโพน จ.กาฬสินธุ์ทอถวาย
ฉลองพระองค์ไทยประยุกต์ สไบสองชาย ปักเลื่อมทั้งพระองค์เป็นรูปพุ่มข้าวบิณฑ์
ผลงานของห้องเสื้อ Balmain โดย Erik Mortensen
ฉลองพระองค์ไทยศิวาลัย ไหมยกทอง
ออกแบบตัดเย็บถวายโดย Pierre Balmain
ปักประดับฉลองพระองค์โดย Maison Lesage และทรง fringe tiara พระราชมรดกในสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเครื่องประดับชุด blue sapphire ประดับเพชร
สร้อยพระศอเป็นของเก่าแห่งพระราชวงศ์ ส่วนจี้บลูแซปไฟร์ทรงซื้อจากห้าง Van Cleef & Arpels สายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งอิหร่าน
ฉลองพระองค์ไทยจักรี ตัดเย็บจากผ้าไหมยกสีชมพูลายพุ่มข้าวบิณฑ์
ออกแบบตัดเย็บโดย Pierre Balmain
เนื่องในวโรกาสทรงรับการถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำโดยสมเด็จพระเจ้าชาห์และสมเด็จพระราชินีฟาราห์แห่งอิหร่าน
ฉลองพระองค์ราตรียาว ตัดเย็บจากผ้าไหมยกสีชมพู โดย Pierre Balmain
ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน
ตัดเย็บจากผ้ายกทองสีชมพูอ่อน ลายดอกสี่กลีบก้านแย่ง เชิงลายหน้ากระดาน
ปักประดับด้วยลูกปัดสีทองและสีชมพูบริเวณจีบหน้าและเชิง
หากใครที่อยากชื่นชมฉลองพระองค์สวยๆ และหาดูได้ยากของพระองค์ท่าน สามารถเข้าชมได้ที่ Queen Sirikit Textile Museum เซึ่งจ้าหน้าที่ได้ถวายการดูแลและเก็บรักษาฉลองพระองค์ทุกองค์เป็นอย่างดีค่ะ โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 จนถึงเดือนมิถุนายน 2561 ณ ห้องจัดแสดง 1-2 พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ( แต่ตอนนี้ยังปิดให้บริการ จนถึงจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 )