s201

จากประสบการณ์สาวประเภทสอง ต้องสู้ ฟันฝ่าอุปสรรค์จากครอบครัว คนรอบข้างเพื่อให้คนยอมรับในตัวตนของตนเอง โดยเรื่องราวได้ถูกถ่ายทอด ในเว็บไซต์พันทิป โดยเว็บโดดเด่น ขออนุญาตทำการเรียบเรียงใหม่ให้สั้นกระชับขึ้น โดยยังคงเนื้อหาตามเดิมให้ได้มากที่สุด

จากเท่าที่จำความได้ ตนเองได้มีความรู้สึกที่ว่าเราไม่ใช่ผู้ชายตั้งแต่อนุบาล 2 เริ่มมีความรู้สึกอยากแต่งตัวเหมือนผู้หญิง ชอบเข้าสังคมกับผู้หญิงมากกว่า ด้วยความที่ทั้งพ่อและแม่เป็นคนจีน จึงทำทุกวิธีที่จะไม่ให้เราเป็นสาวประเภทสอง

ในช่วงประถม เคยโดนตี พาไปพบจิตแพทย์ ทานยา เพื่อให้หาย หากเผลอทำตัวตุ้งติ้งก็จะโดนทันที อย่างครั้งหนึ่งที่เผลอเดินตุ้งติ้งก็โดนถีบล้มเลย ในส่วนของทางโรงเรียน ก็ถูกคุณครูจับตามองตลอดแล้วคอยมารายงานผู้ปกครองถึงการประพฤติตัวว่าออกสาวอยู่หรือไม่ หากถูกจับได้ก็จะโดนทุบตีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ต้องแอบคบกับเพื่อนที่เป็นสาวสองด้วยกัน เวลาอยู่ที่บ้านก็ต้องคอยแอ๊บเป็นผู้ชายตลอดทั้งต้องคอยออกกำลังกายแบบผู้ชาย คนนมเยอะทำให้โครงสร้างร่างกายเป็นผู้ชาย ตัวใหญ่ อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่เสียใจ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เคยลองเป็นตัวของตัวเองจนถูกทำร้ายด้วยการทุบตี ท้ายสุดต้องยอมบอกว่าเลิกเป็นตุ๊ดแล้ว ไม่เอาแล้ว เพราะกลัวโดนทำร้าย เจ็บมาก!!

ช่วงมอต้นก็ยังต้องคอยทำตัวเหมือนช่วงประถมคือ  ถูกควบคุมพฤติกรรมจากคุณครู แอ๊บเป็นผู้ชาย สุดท้ายก็ถูกจับได้อยู่ดี ด้วยความที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นอะไร ช่วงสมัยมอปลาย มีความรู้สึกชอบแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาดี ก็โดนเพื่อนด่าว่าไม่เจียมตัวเอง เพราะเป็นคนที่หน้าตาค่อนไปทางขี้เหร่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มจากการแต่งหน้า ถึงแม้ตอนนั้นจะยังใส่แว่นอยู่ก็ตาม พอพ้นสายตาพ่อ ก็จะแต่งหน้าทาแป้ง ทาลิปมันก่อนเข้าแถว และล้างออกก่อนกลับบ้านเป็นประจำ จนสุดท้ายก็ถูกจับได้ แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่ยอมเลิกก็ยังแต่งหน้าอยู่เหมือนเดิม และเริ่มมีความรู้สึกอยากขาวอยากหน้าใส อยากหุ่นดี

ก็เริ่มหันมาใส่ คอนแท้กเลนท์ บิ๊กอาย กินยาคุม กินวิตตามินต่างๆที่เชื่อว่าทำให้ขาวได้ จนถึงฉีดออร์โมน จากนั้นก็เริ่มค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลง มีคนมองบ้าง แต่ก็ยังมีความพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองต่อไป

และเหตุการณ์ที่สำคัญที่ทำให้ที่บ้านเริ่มยอมรับคือ มีเพื่อนที่เป็นสาวสองหนีออกจากบ้านมาขอนอนด้วย ทำให้คนที่บ้านกลัวว่าจะเตลิด หนีออกจากบ้านแบบเพื่อน ก็เลยเริ่มเปิดใจยอมรับ ต้องขอบคุณเพื่อนคนนั้นจริงๆ

เมื่อที่บ้านยอมรับได้แล้ว ก็เลยหันมาตั้งใจเรียน และตั้งใจดูแลตัวเองต่อ จนถึงช่วงมหาวิทยาลัย ก็ได้เข้าเรียนต่อแถวๆประชาอุทิศ เริ่มรู้จักการทำศัลยกรรมจากเพื่อนที่เป็นสาวสองคนหนึ่ง เริ่มไว้ผมยาว เริ่มแต่งหญิง ครั้งแรกที่แต่งหญิงเข้าบ้าน ที่บ้านไม่พูดด้วย 3-4 วัน แต่ก็คิดว่าไม่สนใจแล้ว แม้ที่บ้านจะยังรับไม่ได้ก็ตาม คิดว่าสักวันเค้าคงรับได้

แต่เอาเข้าจริงๆพอแต่งหญิงแล้ว ก็รู้สึกว่ามันขัดๆด้วยความที่ตัวใหญ๋ อ้วนไป ก็เลยต้องลดความอ้วนจาก น้ำหนัก 67 กิโลกรัม สูง 178 ซม. ก็พยายามลดทั้ง เดินลู่ เข้าฟิตเนส ลดอาหาร อดอาหาร จนน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม

s202

จากนั้นก็เริ่มทำศัลยกรรมตาสองชั้น เพราะต้องติดสติ๊กเกอร์ทุกวัน จนสุดท้ายตัดสินใจทำศัลยกรรมเลยดีกว่า ด้วยความที่อยากทำก็ต้องเก็บเงินเองเอาจนได้ ครั้งแรทำำตาไปก็จ่ายไปประมาณ 2 หมื่นบาท ตอนทำก็เจ็บ ได้กลิ่นเลเซอร์ไหม้เนื้อเลย ก็อดทนจนผ่านมาได้ แต่ชั้นตาไม่เท่ากัน ไม่ได้น่าเกลียดมาก พอดูได้ แต่คิดว่ายังไงก็คงต้องแก้

จากนั้นพอเข้าปีที่ 2 เริ่มเก็บเงิน ทำงานพิเศษทุกอย่างที่ทำได้ ก็ได้ประมาณ 3 หมื่นบาท กับระยะเวลา 1 ปี ก็เอามาทำจมูก โดยเดิมจมูกโด่งแต่มีกระดูกโผล่อยุ่ตรงกลาง ซึ่งเป็นทรงผู้ชาย ทำให้หน้าดูดุ ไม่หวาน

แต่พอไปคุยกับหมอหมอก็บอกว่าคิดค่าทำที่ 1 แสนบาท ก็ไม่มีเงินด้วยความที่อยากทำมาก จึงขอต่อรองกับหมอจนหมอยอมตกลงอยู่ที่ราคา 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งแม่ออกค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินให้

ตอนทำเจ็บตอนทุบกระดูกออก เจ็บมาก น้ำตาไหลเลยขนาดมียาชา เหมือนเดิม ทั้งกลิ่นไหม้ของเลเซอร์ ต่างๆ บวมกว่าตอนทำตาอีก หน้าเป็นสิงโตนาเนียร์เลย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผลออกมา90%

หลังจากนั้น 6 เดือนก็เสริมหน้าอก กับหมอชื่อดังที่บอกชื่อไปใครๆก็รู้จัก กับราคา 45,000 บาท ตอนทำเจ็บมาก คนอื่นสลบเราก็สลบแต่ตื่นมาระหว่างยัดซิลิโคน ระหว่างเซาะโพรง เจ็บจนบรรยายไม่ถูก หมอต้องให้ยานอนหลับเพิ่ม เรียกเจ็บที่สุดตั้งแต่ที่ทำมาเลย ลุกขึ้นไม่ได้อาเจียรตลอด ใช้เวลาผ่าตัดไป 6 ชั่วโมง เจ็บอยู่ 3 วัน หลังจากนั้นก็โอเคขึ้น

ผ่านมาอีก 3 เดือน จมูกเริ่มบางกลับไปหาหมอคนเดิม เพื่อแก้ใหม่ ตะไบให้เล็กกว่าเดิม เจ็บกว่ารอบแรก แต่ก็สู้ ครั้งนี้เหมือนมีปัญหาคือมีการอักเสบติดเชื้อหายบวมช้า หมอต้องให้ยาทางเส้นเลือด 14วัน ตอนนี้ดีขึ้นมาก90% เหลือแดงอีกนิดเดียว คือหมอรับผิดชอบดีมากๆคอยดูแลไม่ห่างเลย คิดว่าเลือกไม่ผิดจริงๆที่ทำที่นี่

s203

สำหรับแพลนศัลยกรรมคิดว่ามีต่ออีกแน่ๆ ที่คิดไว้ก็มีทำหน้า V-line เสริมหน้าผาก แปลงเพศ แต่จะเลือกที่ดีมีมาตรฐาน คือไม่กลัวการผ่าตัดเลย เพราะสิ่งที่กลัวคือการโดนล้อโดนด่าเหมือนตอนที่ผ่านมา มันคือ ปมด้อยที่อยากจะลบ ตอนนี้มีความสุขมากไม่คิดจะมีความรักเลยเพราะทั้งพ่อและแม่เติมเต็มในส่วนนี้หมดทั้งกายทั้งใจ เราชอบมีเงินมากกว่า มากว่าที่ให้ความรักกับผู้ชาย ชอบที่จะเรียน ชอบที่จะทำงานคืองานอะไรที่ทำเงินได้ทำหมด

สุดท้ายแล้วต้องขอขอบคุณพ่อแม่มากที่รับได้เข้าใจลูกคนนี้ถึงลูกจะขัดใจบ้างแต่ก็ตั้งใจเรียนตั้งใจหาเงินทดแทนทำในสิ่งที่ไม่สามารถทำให้พ่อแม่ได้ และท้ายสุดขอบคุณคนที่เคยดูถูก ที่เป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเอง มีสติ ไม่หลงตัวเอง เจียมตนเสมอว่าเราไม่ใช่ของแท้ และทำให้ได้คิดว่าไม่ควรที่จะไปดูถูกคนอื่น ขอให้กระทู้นี้เป็นกำลังใจสำหรับคนท้อแท้ ที่ผ่านมาเราก็ผ่านเรื่องเลวร้ายมาเกือบหมดทุกอย่าง ทั้งจากครอบครัว เพื่อนคนรอบข้าง กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ทรมาณทั้งกายละใจมามาก ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย

 

ขอบคุณเรื่องราวจาก คุณหมายเลขสมาชิก 778077 เว็บไซต์พันทิป

เรื่องน่าสนใจ