โฆษณาของบริษัทไทยประกันชีวิตที่ปล่อยออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ที่มีคอนเซปต์การนำเสนอ คำว่า “โอกาส” ความยาว ประมาณ 5 นาทีโดยมีตัวเดินเรื่อง คือหญิงสาวซึ่งเป็นพนักงานขายประกันของบริษัทแห่งนี้ จุดเริ่มต้น มาจาก คำขอบคุณ ที่ให้โอกาส จากนั้นถูกตั้งคำถามกลับเรื่องที่ โอกาส มาจากไหนโดยสื่อเนื้อหา ย้อนกลับไป หลากหลายเรื่องราวที่เป็นต้นตอของโอกาสนั่นคือผู้ป่วยที่เป็นลูกค้าของบริษัทประกัน แต่ว่าจุดพีคที่ทำให้ โฆษณาชิ้นนี้ ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ อย่างหนักเมื่อมีฉากที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเป็นช่วงที่ญาติของคนไข้ กำลังถกเถียงกับ พยาบาล เรื่องการรักษาเพราะผู้ป่วยไม่มีเงิน ต่อมามีฉากที่ พนักงานขายประกันวิ่งหน้าตาตื่นชูเอกสารบางอย่าง กระทั่งฉากโฆษณาตัดภาพมาที่พนักงานขายประกันถึงกับทรุดลงกับพื้นพนมมือก้มกราบพยาบาล
จากคลิปนี้ทำให้เกิดกระแสตำหนิจากบุคคลากรทางการแพทย์ ที่ตำหนิผู้สร้างโฆษณา เหตุใดสร้างให้สินค้าตัวเองให้ดูดีแต่กลับโยนบทบาปให้อาชีพอื่นเพราะสื่อภาพออกมากำกวม หากไม่ได้รับการแก้ไข คนดูอาจตีความผิดๆ ไม่ใช่ เฉพาะอาชีพพยาบาล แต่รวมถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และ ระบบงานของโรงพยาบาล
โดยเฉพาะ พล.อ.ต. นายแพทย์ อิทธพร คณะเจริญรองเลขาธิการแพทยสภาที่เฟซบุ๊ก วานนี้แสดงความกังวลต่อโฆษณาชิ้นนี้ ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนพยายามทำให้ดูดราม่าเพื่อสร้างอารมณ์ร่วม แต่สื่อความหมายที่ไม่ค่อยดีและ สร้างความเข้าใจผิดโดยเฉพาะกับนางพยาบาล ที่ดูเหมือนไร้น้ำใจ การคิดเรื่องราวที่ดีไม่ควรให้ร้ายคนกลุ่มหนึ่งเพื่อสร้างภาพให้คนอีกกลุ่มหนึ่งนั่นคือตัวแทนที่ขายประกันเปรียบเป็น นางฟ้าแต่ให้บุคลากรทางการแพทย์ตกเป็น ไม่คิดช่วยเหลือผู้ป่วยจนต้องก้มกราบ ดังนั้น จึงขอให้แก้ไขโดยด่วน
ขณะที่นายแพทย์สุกิจ ศรีทิพวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์บอกว่า “บริษัทประกันชีวิตต้องหยุดเผยแพร่ โฆษณาชิ้นนี้ และ ออกมาขอโทษรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์ของวงการแพทย์ และ สาธารณสุขของไทย”
ด้านนายแพทย์ สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แสดงความคิดเห็นว่า สามารถฟ้องบริษัทประกันได้ล่าสุดบริษัทไทยประกันชีวิต ที่เป็นเจ้าของโฆษณาชิ้นนี้ได้โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจชี้แจง สั้นๆ ว่าขอน้อมรับคำติชมส่วน เจตนารมณ์ของภาพยนตร์โฆษณา เรื่องนี้ เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นสำคัญไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อวิชาชีพใดๆ”
อย่างไรก็ตามบริษัทได้สร้างสรรค์ภาพยนต์โฆษณาในวาระดำเนินธุรกิจครบ 75 ปีในปี 2560 ยังเน้นการสื่ออารมณ์และตั้งคำถาม เพื่อให้ผู้ชมได้ฉุกคิดถึง “โอกาส (Opportunity)” โดยมุ่งหวังสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกคน มองเห็น และ สร้างโอกาสให้กับตัวเอง เพราะเชื่อว่าทุกชีวิตมีคุณค่าเสมอ