ตอบข้อสงสัย ของหลายๆคนที่สนใจในเรื่องโบท็อกซ์

จากที่หลายๆคนเคยได้ยินว่า อยากสวยอยากหน้าเรียว ไม่อยากผ่า ไม่อยากศัลยกรรมต้องไปฉีดโบท็อกซ์  แต่จริงๆ แล้วหลายๆคนก็ไม่รู้ว่า โบท็อกซ์ คืออะไร และใช้ทำอะไรได้บ้าง แค่เคยได้ยินจากสื่อ หรือคนอื่นๆ พูดกันเท่านั้นเอง

400_24


 

จริงๆแล้วโบท็อกซ์คืออะไร???

โบท็อกซ์” (Botox) เป็นชื่อทางการค้า (trade name) ของสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่มีฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตได้

จากนั้นจึงนำมาใช้ในวงการความงามเช่นการฉีดลดกล้ามเนื้อบริเวณกราม ให้ฟีบลง จึงทำให้หน้าเรียวลงได้ และนอกจากนั้นโบท็อกซ์ยังสามารถ ฉีดบริเวณอื่นๆได้อีก เช่นลดเหงื่อ รักแร้ ง่ามมือ ง่ามเท้า และลดกล้ามเนื้อน่องเรียว รอยร่องตื้นบนใบหน้าต่างๆ

โบท็อกซ์ผลถาวรหรือไม่ อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อ ที่ว่ากันว่า ของเกาหลี ของอเมริกาต่างกันหรือไม่อย่างไร??

ผลไม่ถาวร อยู่ได้นาน ประมาณ 6 เดือนต่อการฉีด 1 ครั้ง ระยะเวลาแตกต่างกันตามยี่ห้อแต่ละยี่ห้อ

botox

ใครบ้างที่ฉีดโบท็อกซ์ได้?
การฉีดโบท็อกซ์นั้นเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะรูปหน้าคงที่แล้ว หากแต่ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวยุคใหม่ ที่ต้องการปรับแต่งรูปหน้าให้สวยเนี้ยบยิ่งกว่า ต้องการปรับเล็กๆ น้อยๆเพื่อแก้โหงวเฮ้ง หรือเสริมบุคลิกภาพเพื่อสังคม ผู้มีอายุต่ำกว่านั้นก็สามารถทำได้ ไม่ต้องรอให้วัยล่วงเลย

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด Botox ?

  •         1. ผู้ป่วยโรคระบบกล้ามเนื้อ
  •         2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ Albumin
  •         3. ผู้ที่มีประวัติแพ้ Botulinum Toxin
  •         4. หญิงมีครรภ์อยู่ระหว่างให้นมบุตร

 

มีคนแล้วฉีดแล้วไม่เห็นผลหรือไม่??

มี อาจจะเกิดจากการดื้อยา เพราะก่อนหน้าอาจจะเคยฉีดของปลอมมาก่อน

แล้วมีคนเคยแพ้หลังฉีดโบท็อกซ์หรือไม่??

มี หลังฉีดอาจจะมีอาการบวมแดงได้ในกรณีที่แพ้

ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ มีอะไรบ้าง??

  • 1. อาการเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ปวดศีรษะ คลื่นไส้ คัน เจ็บคอ มีไข้ มีอาการคล้ายเป็นหวัด ไปจนถึงเกิดอาการเจ็บปวดและเกิดแผลซ้ำบริเวณที่ฉีด เกิดอาการกล้ามเนื้อเปลือกตาหย่อน กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เป็นต้น
  • 2.โบท๊อกซ์ทำให้เกิดการแพ้หรือแดงได้ในผู้ฉีดบางราย
  • 3. หากการฉีดไม่เป็นไปอย่างแม่นยำ หรือปริมาณที่ฉีดมากเกินไป อาจทำให้หน้าแข็งทื่อ หรือไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ฉีด แต่อย่างไรก็ตามผลดังกล่าวจะคงอยู่ชั่วคราวเท่านั้นและสลายหายไปในที่สุด
  • 4. หากฉีดมากจนเกินไปจะมีใบหน้าที่ “ดูคล้ายหน้ากาก” คือแลดูไม่มีอารมณ์ ความรู้สึกมากขึ้นทุกที คล้ายกับอาการที่พบในผู้ป่วยที่โดนพิษโบท็อกซ์ตามธรรมชาติบางรายที่เป็น อัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าบางส่วน เนื่องจากโบท็อกซ์ อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ง่ายและได้มาก การควบคุมปริมาณของโบท็อกซ์ให้ถูกต้องเหมาะสม จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
  • 5. โบท๊อกซ์เป็นการเสริมความงามที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง การฉีดโบท๊อกซ์ต้องฉีดซ้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ต้องการ

 

คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะไปฉีดโบท็อกซ์??

  • ขอดูขวดโบท็อกซ์ทุกครั้ง ว่าใช่ของจริงหรือไม่
  • ฉีดกับแพทย์เท่านั้น แพทย์ที่มีใบอนุญาติ และมีประสบการณ์
  • ไม่ควรซื้อตามอินเตอร์เนตแล้วไปฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋า

 

การดูแลหลังรับบริการ  Botox

  1. ห้ามนอนราบ 4 ชม. หลังทำ เนื่องจากตัวยาอาจกระจายออกนอกตำแหน่งที่ฉีดทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ
  2. ห้ามนวดหน้า สครัปหน้า หรือทำทรีชเม้น และเลเซอร์หน้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  3. ขยับกล้ามเนื้อที่ฉีด ทุก 15 นาที ในชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น
  4. ประคบเย็นหลังฉีดทันที และบ่อยๆภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อลดรอยช้ำหลังฉีด
  5. ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์มีผลทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ไม่ดี
  6. หลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรงดเว้นการเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือของแข็งๆเหนียวๆ เพื่อจะให้อยู่ได้นานขึ้น

 

หากใครมีข้อสงสัย เกี่ยวกับเรื่องศัลยกรรม สามารถเข้ามาตั้งกระทู้ได้ที่เวปบอร์ดของโดดเด่นได้เลยนะค่ะ ทางเราจะรีบหาคำตอบมาให้ เพื่อไขข้อข้องใจกันค่ะ

 

รวบรวมโดย dodeden.com

 

เรื่องน่าสนใจ