สําหรับชาวเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีใบหน้าเป็นรูปเหลี่ยม อยากมีหน้าตาที่ดูดีขึ้น การผ่าตัดศัลยกรรมบริเวณมุมขากรรไกร หรือ ตัดกราม ก็สามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้ ซึ่งการผ่าตัดแบบนี้ มีในบ้านเรามานานแล้วแต่อยู่เฉพาะในกลุ่มศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในสาขาย่อยของศัลยกรรมตกแต่ง ที่เฉพาะทางด้านการผ่าตัดกระดูกใบหน้าอยู่แล้ว

ต่อมา เมื่อมีความต้องการมากขึ้น ทั้งศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริงและศัลยแพทย์ที่ผันตัวเองมาจาก แพทย์สาขาอื่นที่ไม่ได้เชี่ยวชาญจริง ไม่ว่าจะแพทย์หู คอ จมูก ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าก็คือแพทย์ หู คอ จมูก นั่นเอง) ศัลยแพทย์ทั่วไป แพทย์ผิวหนัง แพทย์ทั่วไป ทันตแพทย์ ฯลฯ ก็เริ่มรับทําการ ผ่าตัดนี้กันมากขึ้น แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ผ่าตัดศัลยกรรม ตัดกราม หรือมุมขากรรไกร มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ?

เชื่อว่าหลายคนอาจจะได้เคยเห็นเคสผ่าตัดลดมุมขากรรไกรที่ไม่ได้ทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริง แน่นอนว่าหลายเคสนั้นมักจะมีปัญหาต่างๆ ที่แก้ไขยากมาก เช่น ขากรรไกรหัก ขากรรไกรสองข้างรูปร่างไม่เท่ากัน มีขอบมุมขรุขระไม่เรียบ กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต มีแผลเป็นภายนอกน่าเกลียด ข้างหนึ่งมีแผลด้านในปาก อีกข้างเป็นแผลด้านนอก เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ เห็นได้ชัดเจนว่า เกิดจากฝีมือ เทคนิค หรือความไม่มีประสบการณ์ของแพทย์ผู้ผ่าตัด แต่โชคร้ายตกเป็นของผู้รับบริการ ผู้ที่ให้บริการไม่ประเมินคน หรือมองเห็นผลประโยชน์ด้านเงินทองมากจนเกิดพอดี ทั้งที่ทําไม่ได้ หรือทําได้ไม่ดี ก็ไม่ยอมส่งต่อ

ส่วนใหญ่คนที่มาเข้ารับการผ่าตัดกราม มักจะเป็นกังวลว่าหลังทำไปแล้วจะมีอาการปากชา หรือปากเบี้ยว บางคนกลัวมากจนไม่กล้าทำ ซึ่งอาการชาบริเวณริมฝีปากล่าง มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่มักเป็นเพียงชั่วคราว โดยปกติจะประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีแค่ส่วนน้อยที่ใช้เวลาฟื้นตัวนาน เช่น ประมาณ 2-3 เดือน แพทย์อาจให้ทานยาลดอาการบวม และยาบำรุงเส้นประสาทช่วยให้อาการชาดีขึ้นได้

ภาพจำลองการตัดมุมกราม ภาพที่ 3 (ด้านขวาสุด)

ผ่าตัดศัลยกรรมบริเวณมุมขากรรไกร
ภาพจาก : daprseng.com

ส่วนอาการชาแบบถาวร ถ้าผ่าตัดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ โอกาสที่เส้นประสาทจะถูกตัดจนชาถาวรแทบไม่มี ส่วนอาการปากเบี้ยวอาจเกิดขึ้นได้ในบางคน เนื่องจากเส้นประสาทฟกช้ำจากการผ่าตัด แต่ก็เช่นเดียวกับอาการปากชา อาการปากเบี้ยว ก็จะเป็นเพียงชั่วคราว และจะหายไปได้เองในเวลาไม่เกิน 3 เดือน ในส่วนของแพทย์เอง ก็จะพยายามหลีกเลี่ยงการผ่าตัดเปิดแผลภายนอกปากที่มีโอกาสไปตัดเส้นประสาท จนอาจทำให้มีอาการปากชา หรือปากเบี้ยวถาวรไปใช้วิธีผ่าตัดจากภายในปากแทน

เพราะฉะนั้น ก่อนการผ่าตัดประเภทนี้ สิ่งสำคัญที่สุด จึงควรคุยกับแพทย์ให้ดี ฟังหลายๆ ความเห็น เพราะถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ยาก หากทําได้ดี จะมีปัญหาน้อยมาก (แต่ก็ไม่มีใครสามารถทําอะไรได้ดีเสมอไป ย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้) ถ้ามีปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้เป็นอย่างดี

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ