สบส.นำตำรวจบุกจับหมอเถื่อนคาเตียงคนไข้คลินิกเวชกรรม “ด๊อกเตอร์โจเทน” ปากซอยวิภาวดีรังสิต 16/13 หลังถูกร้องเรียนว่ามีแพทย์หนุ่มสงสัยจะเป็นหมอเถื่อน เพราะไม่มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลแพทยสภา
ก่อนผู้ต้องหารับสารภาพเรียนจบแค่วิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนคลินิกเจ้าของเป็นหมอขออนุญาตถูกต้อง แต่การให้คนไม่ใช่หมอมาสวมรอยถือเป็นความผิด ตำรวจเตรียมติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 24 ธ.ค. น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.ธเนศ กรัษนัยร วิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พ.ต.ท.พยม พูลเขตรกิจ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นด๊อกเตอร์โจเทน คลินิกเวชกรรม” (Dr.Joten ) ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 16/13 หลังได้รับการร้องเรียนว่าแพทย์ที่ให้บริการไม่มี ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น 1 คูหา เลขที่ 61/26 ปากซอยวิภาวดีรังสิต 16/13 แขวงจอมพล เขตจตุจักร ซึ่งภายในมีการตกแต่งเป็นสถานบริการเสริมความงาม ด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ด้านในมีการแบ่งเป็นห้องตรวจ จำนวน 3 ห้อง
พบนายรุ่งโรจน์ นนทะเสน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม. 7 ต.หมากเขียบ อ.เมืองศรีสะเกษ กำลังให้บริการลูกค้าอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม หลังจากการตรวจสอบพบว่า นายรุ่งโรจน์ไม่ได้เป็นแพทย์แต่อย่างใด
น.ต.นพ.บุญ เรืองกล่าวว่า การเข้าตรวจครั้งนี้เนื่องจาก สบส.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้มาช่วยตรวจสอบแพทย์ที่ให้บริการของสถาน พยาบาลดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจสอบคลินิกแห่งนี้ พบว่ามีการขออนุญาตเปิดอย่างถูกต้องตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541
แต่นายแพทย์รุ่งโรจน์ ผู้ที่ให้บริการรักษาไม่ใช่แพทย์ เป็นบุคคลอื่นใช้ชื่อแอบอ้างว่าเป็นแพทย์และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือแพทย์เถื่อน โดยตรวจสอบไม่พบชื่อแพทย์คนดังกล่าวในฐานข้อมูลของแพทยสภา
น.ต.นพ. บุญเรืองกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่ขออนุญาตดำเนินสถานพยาบาลนั้นเป็นแพทย์จริง แต่ปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมมาดำเนินการให้ บริการก็จะมีความผิดใน 2 ส่วนด้วยกัน
ส่วนแรกผู้ที่ให้การบริการหรือหมอเถื่อน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มาตรา 26 มีโทษทั้งจำและปรับ ส่วนที่สองผู้ที่ขออนุญาตดำเนินการปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ให้มาประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 34 (1) ซึ่งก็จะมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีการตรวจพบก็จะดำเนินการต่อไป
“จากการ พูดคุยกับนายรุ่งโรจน์ให้การว่าตนเองไม่ได้เป็นหมอ และเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าจริง และไม่ได้จบแพทย์เพียงแต่จบสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์สาขาหนึ่งเท่านั้น”
น.ต.นพ.บุญเรืองกล่าวและว่า สำหรับผู้ที่ขออนุญาตสถานประกอบการ จะดำเนินการติดตามตัวมาเช่นกันเพราะมีความผิดที่ปล่อยให้คนที่ไม่ได้มี สิทธิ์ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 34 (1) ในส่วนของตัวคลินิกแห่งนี้ในกรณีที่มีการใช้หมอเถื่อน ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่รุนแรง จะมีการสั่งปิดคลินิกชั่วคราว 60 วัน และถ้าไม่มีการดำเนินการแก้ไขก็จะมีการเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
เบื้อง ต้นเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายรุ่งโรจน์ ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของยาที่ใช้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีตัวยาตัวใดผิดกฎหมายก็จะมีการ แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา ข่าวสด