เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ก.ย. นางสรวีย์ สมควรจินตนาการ อายุ 46 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม ว่า ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายหินกินเหล็ก เชื่อว่าเป็นของขลังและสิ่งของมงคล ใครได้ไปทำให้เกิดโชคลาภ หลังสูญเงินไปหลายครั้งกว่าแสนบาท ขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ด้วย
พ.ต.อ.อุกกฤษณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จึงวางแผน โดยให้นางสรวีย์ ผู้เสียหาย และกลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ รวม 3 คน นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ฉบับละ 100 บาท รวม 5,000 บาท ถ่ายเอกสารเอาไว้ ก่อนโทรศัพท์ติอต่อ นัดให้นายสวัสดิ์ เจาะจง อายุ 62 ปี อยู่หมู่ 9 ต.บ้านผึ้ง และ นายสำเริง วัย 55 ปี เพื่อนร่วมแก๊งตุ๋น มาพบที่เถียงนา บ.ดอนม่วง หมู่ 9
นางสรวีย์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ภายหลังนายสวัสดิ์ และนายสำเริงหลงเชื่อ ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดงดำ ไม่ติดป้ายทะเบียนมาถึงกระท่อมดังกล่าว นายสำเริงได้ล้วงกระเป๋านำหินสีดำ มีประกายมันแวววับ ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีเงิน น้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัมออกมา ก่อนนำตะปูมา 5 ดอก เหล็กคล้ายตะปู 3 แท่ง วางบนวัตถุหินสีดำที่อ้างว่าเป็นหินกินเหล็ก ก่อนที่นายสำเริงจะท่องคาถาร่ายมนต์นาน 20 นาที
ผู้เสียหายชาว จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า ขณะนายสำเริงและนายสวัสดิ์ ลงมือทำพิธี มีตนและ น.ส.ดวงพร มิ่งขวัญ อายุ 43 ปี เพื่อน นายลุย มิ่งขวัญ กรรมการธรรมาภิบาล จ.ยโสธร ญาติ ได้นั่งอยู่ในพิธีกรรมตุ๋นแหกตาด้วย ต่อมานายสำเริงได้หยิบตะปูและเหล็กสีดำคล้ายตะปู ที่แอบชุบน้ำยาชนิดหนึ่งไว้ ก่อนร่ายมนต์และหักตะปูแท่งเหล็กสีดำทีละดอกให้ดูต่อหน้าอย่างง่ายดาย โดยทำซ้ำหลายรอบให้ตนและผู้เข้าร่วมพิธีหลงเชื่อ
หลังทำพิธีเสร็จนายสำเริงและนายสวัสดิ์ ขอเรียกเงินมัดจำจำนวน 20,000 บาท แต่ตนต่อรองว่านำเงินสดมาแค่ 5,000 บาท ที่แอบถ่ายเอกสารไว้ยื่นให้นายสวัสดิ์
เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนแก๊งลวงโลกแตกฮือหนี นายสวัสดิ์จึงขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวซ้อนนายสำเริง ขับหลบหนีไปตามเส้นทางถนนลูกรังสายบ้านเทพพนม-ดอนม่วง ก่อนรถเสียหลักล้ม เจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายสวัสดิ์ได้ในที่สุด
ส่วนนายสำเริงได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถเก๋งนิสสัน สีเทา ทะเบียน กฉ 8059 สกลนคร ที่เจ้าหน้าที่แอบปล่อยยางลม 4 เส้น ขับบดถนนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงจัดชุดไล่ติดตามแต่ไม่พบตัว พบเงินสดจำนวน 5,000 บาทที่ถ่ายเอกสารไว้ ในกระเป๋าเสื้อนายสวัสดิ์ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
เบื้องต้นนายสวัสดิ์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกับนายสำเริง หรือ นายทวี ชาว จ.มุกดาหาร อ้างว่าเป็นเพื่อนกับลุงตน ชักชวนให้ตนไปหาเงินอ้างว่ามีหินกินเหล็ก มาจากภูเขาควายจากฝั่ง สปป.ลาว กิโลกรัมละ 100 ล้าน แค่ให้ไปร่วม ขณะตนทำพิธีก็จะแบ่งเงินให้ โดยตนทำร่วมกับนายสำเริงมา 6 ครั้งแล้ว ได้เงินครั้งละ 500-1,000 บาท พอมีรายได้หาเงินส่งลูก 2 คนเรียนหนังสือ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
นางสรวีย์ ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า นายสวัสดิ์ และนายสำเริงที่หลบหนี ได้หลอกตุ๋นตนมา 4 ครั้งแล้ว สูญเสียเงินครั้งละ 4 หมื่นบาท อ้างว่าหินก้อนดังกล่าวมีราคาหลัก 100 ล้านบาท ตนเป็นแค่นายหน้าเพื่อติดต่อว่าเป็นหินประหลาด ใครได้ไปครอบครองมีอำนาจวาสนาบารมี ก่อนติดต่อให้นายทุนใหญ่ในกรุงเทพฯ รับซื้ออีกทอด แต่มาถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกตนเสียก่อน และอาจมีผู้ถูกหลอกอีกหลายราย ใน จ.อุบลราชธานี จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งพระสงฆ์ด้วย อยากให้เลิกตามหาหินประหลาดนี้ เพราะไม่มีจริง
ด้าน พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ กล่าวว่า ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับนายสำเริง หรือ นายทวี แก๊งต้มตุ๋นหินประหลาดแต่หลบหนีไปได้ ซึ่งจะได้สอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนออกหมายจับต่อไป จึงฝากเตือนประชาชนหรือพระสงฆ์ อย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่อ้างว่ามีหินมงคลดังกล่าว ซึ่งมีราคาหลายล้าน อาจถูกหลอกลวงสูญเสียทรัพย์สินได้
หลังสอบปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ให้นายสวัสดิ์ สาธิตวิธีลวงโลก ทำให้ตะปูและแท่งเหล็กหักได้ โดยมีผู้เสียหายตามมาชี้ตัวยืนยันถึงโรงพัก เบื้องต้นแจ้งข้อหาฉ้อโกง คุมตัวส่ง ร.ต.อ.บรรดิษฐ์ ทองมี พงส.สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดี
