สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุวางระเบิดท้าวมหาพรหมเอราวัณ สถานสักการะยอดนิยมของคนไทยและต่างชาติ สถานที่แห่งนี้ได้กลับมาเปิดอีกครั้งแล้ว ท่ามกลางเหล่าผู้คนที่ยังคงศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถานที่้นี้ รวมทั้งกำลังใจจากชาวต่างชาติ ที่ขอให้คนไทยอย่าได้เสียศรัทธาจากเหตุร้ายวางระเบิด หรือเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้น
ฉี หลง เฟ็ง
“โคโคนัท แบงคอก” รายงานว่า สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีคนไทยและชาวต่างชาติไปไหว้สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ โดยเหล่าผู้คนที่เดินทางมาต่างบอกว่า พวกเขาไม่กลัวเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอย
โดยนายฉี หลง เฟ็ง ตำรวจจีนที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย และได้มาเยือนสถานสักการะยอดนิยมแห่งนี้ บอกว่า ผมหวังว่า เราและคนไทยจะอยู่ด้วยกันและช่วยกันต่อกรกับก่อการร้าย ผมเองเป็นตำรวจที่เมืองจีน และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ผมคิดว่าเราไม่ควรจะไปกลัว เราต้องเผชิญหน้าสู้ เราต้องพูดคุยหาหนทาง และแก้ปัญหากัน เราไม่ควรจะกลัว เพราะพวกเขาต้องการให้เรากลัว พวกเขาวางระเบิดกันทุกวัน พรุ่งนี้ก็มี และพวกเขาอาจคิดว่า ถ้าวางระเบิดแล้ว ผู้คนก็จะกลัวซ้ำแล้วซ้ำอีก
ขณะที่เกรซ พุย บล็อกเกอร์ด้านท่องเที่ยวชาวอเมริกัน บอกว่า การที่สถานที่สักการะแห่งนี้ได้กลับมาเปิดอย่างรวดเร็ว เท่ากับเป็นการส่งสารว่า มนุษยชาติจะไม่ก้มหัวให้กับพวกก่อการร้าย “เมื่อคุณเปิดศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณขึ้นใหม่ นี่เป็นการบอกว่า เราไม่กลัว” บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวรายนี้กล่าว
ด้านนายบุญจัน สังขละ คนดูแลศาลศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้บอกว่า เขารู้สึกเศร้าหลังจากได้รับโทรศัพท์บอกว่า นายอานนท์ เพื่อนร่วมงานของเขา ที่นับถือเขาเหมือนพี่ชาย บอกว่า สถานที่แห่งนี้ถูกวางระเบิด และทำให้เพื่อนดูแลศาลคนหนึ่งต้องเสียชีวิต ส่วนอีกคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส
ส่วนเอก คนขายดอกไม้ในศาลฯบอกว่า ตอนเกิดระเบิด เขาและเพื่อน ๆ อีก 4 คน ได้ซ่อนตัวอยู่ พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ และได้ช่วยนำอาสาสมัครส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลด้วย “ผมค่อนข้างสงบนิ่งเมื่อได้กลับมาทำงานอีก ผมแค่เสียใจต่อคนที่มาไหว้ท้าวพระพรหมในวันนั้น” เอกกล่าว
