นับเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับบรรดาเจ้าหนี้เสียจริง เมื่อต้องพบเจอกับลูกหนี้ที่เหนียวหนี้สุด ๆ ปิดทุกช่องทางการติดต่อจนไม่สามารถตามไปทวงหนี้ได้ ขณะอีกฝ่ายกลับยังใช้จ่ายเงินอย่างมือเติบ แถมนำไลฟ์สไตล์ฟุ้งเฟ้อมาโพสต์ลงโซเชียลอีกต่างหาก ทำให้เหล่าเจ้านี้อดคิดไม่ได้ว่าจะสามารถโพสต์ทวงเงินอีกฝ่ายผ่านเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมเลยดีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหนี้รายใดที่กำลังคิดจะทำเช่นนั้น เราคงต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าการทวงนี้ผ่านโซเชียลมีเดียนั้น จัดว่าเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เข้าอย่างจัง โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ทางเพจทนายคู่ใจ เพจให้คำปรึกษาด้านกฎหมายชื่อดัง ได้ออกมาให้ความรู้ในข้อกฎหมายถึงกรณีทวงหนี้ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า ห้ามทวงหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ หรืออินสตาแกรม โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจถูกลูกหนี้แจ้งจับเอาได้
เนื่องจากการทวงหนี้โดยการโพสต์ตามหน้าวอลล์ หรือไทม์ไลน์ ของฝ่ายลูกหนี้ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกระดาษออนไลน์สาธารณะ ทำให้คนรู้จักของลูกหนี้หรือคนทั่วไปอาจจะเข้ามาเห็นหรือคอมเม้นท์ในโพสต์นั้นได้ ด้วยเหตุนี้การกระทำดังกล่าวของเจ้าหนี้จึงถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ในมาตรา มาตรา 11(3) ด้วยการแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับการเป็นหนี้ของลูกหนี้ต่อบุคคลภายนอก มีโทษจำคุก 1 ปีหรือปรับ 1 แสนบาท
ทั้งนี้เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการป้องกันความอับอายของลูกหนี้ต่อบุคคลภายนอก ดังนั้นจึงไม่สามารถโพตส์ผ่านไทม์ไลน์เป็นสาธารณะได้ แต่การส่งข้อความแบบเป็นส่วนตัวถึงลูกหนี้ เจ้าหนี้ยังคงสามารถทำได้
โดยสรุปคือหลังจาก พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2558 ทำให้การโพสต์ข้อความทวงหนี้ไม่สามารถกระทำได้ เพราะผิดกฎหมายและยังไม่สามารถยอมความได้ ดังนั้นก่อนจะทวงหนี้ควรปรึกษาทนายเป็นดีที่สุด
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่อยากศึกษาเพิ่มเติมในสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 สามารถติดตามได้ที่นี่ คลิก
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจทนายคู่ใจ