นอนไม่พออาจเสี่ยงเป็นเบาหวานและโรคอ้วน
ทีมนักวิจัยในอังกฤษและกาตาร์ชี้ว่าหากคุณรู้สึกอยากนอนให้มากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อชดเชยการนอนไม่พอในช่วงระหว่างสัปดาห์ แสดงว่าคุณอาจเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่สอง
ผลการศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ระบุว่าการทำงานเป็นกะ ส่งผลเสียอย่างต่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว เพราะทำให้คนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกลายเป็นคนที่มีอาการคล้าย ๆ กับผู้ป่วยเบาหวานระยะเริ่มแรก ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการทำงานเป็นกะทำให้ระบบนาฬิกาตามธรรมชาติในร่างกายรวน ตามมาด้วยระบบฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนและนำไปสู่โรคร้ายนานาชนิด
แต่ว่าแรงกดดันในที่ทำงานและการดำเนินชีวิตในสังคม ทำให้หลายคนยอมอดนอนในช่วงระหว่างสัปดาห์ และมาหาเวลานอนชดเชยในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริสตอลในอังกฤษและวิทยาลัยการแพทย์วิลล์ คอร์แนลล์ ในกาตาร์ต้องการศึกษาดูว่าการนอนชดเชยในช่วงวันหยุดแบบนี้จะส่งผลต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน
พวกเขาได้ศึกษาพฤติกรรมการนอนของอาสาสมัคร 522 คน โดยวัดความแตกต่างระหว่างการนอนตอนกลางคืนในช่วงระหว่างสัปดาห์กับสุดสัปดาห์ และพบว่าเพียงแค่นอนไม่พอคืนละ 30 นาที ก็ส่งผลต่อภาวะดื้ออินซูลินและการเป็นโรคอ้วนได้ ศ.ชาราด ตาฮีรนี จากกาตาร์บอกว่า แม้การนอนไม่พอเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใหม่ แต่คนเราเพิ่งมาตระหนักว่ามันมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญของร่างกายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง
คณะนักวิจัยเสนอว่าควรนอนหลับให้เพียงพอ เพราะมีประโยชน์ต่อกระบวนการเผาผลาญ ทั้งยังช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักและให้อาการเบาหวานทุเลาด้วย
เบาหวานสามารถทำให้ตาบอดได้ รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อีก เช่น ภาวะแทรกซ้อนทางไต ทางระบบประสาทและการไหลเวียนของกระแสเลือด บางรายถึงขึ้นต้องผ่าตัดขาทิ้งเพราะเส้นเลือดตีบตันไปเลี้ยงขาไม่พอ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผลศึกษาดังกล่าวน่าสนใจและควรจะขยายการศึกษาไปยังกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น
