ที่มา: posttoday

เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม

แวมไพร์ ผีดิบดูดเลือด ที่หลายคนคงจะรู้จักกันดี จากนวนิยาย หนังสือ หรือในหนัง และละคร และแทบจะไม่มีใครเชื่อเลยว่ามันจะมีอยู่จริง จนกระทั่ง …นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งจอร์เจียได้ออกมาอ้างว่ามีการศึกษาวิถีชีวิต แวมไพร์ตัวจริงในนิวออร์ลีนส์ 

00

โพสต์ทูเดย์ได้นำเสนอว่า มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อว่า “อมนุษย์” มีตัวตนอยู่จริง แถมยังอุตส่าห์ไปค้นหาจนเจอ แล้วยังติดตามศึกษาวิถีชีวิตของพวกผีดิบหรือแวมไพร์เหล่านี้อีกด้วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริงๆ ในเมืองนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ รายงานโดย นิตยสารดิสคัฟเวอร์ (Discover) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า ยากเย็นพอสมควรกว่าจะควานหาตัวแวมไพร์พบ แต่เมื่อพบแล้วก็ทำให้ทราบว่าพวกเขาค่อนข้างเป็นมิตรอยู่ไม่น้อย

จอห์น เอ็ดการ์ บราวนิง แห่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งจอร์เจีย (GIT) เผยว่า จริงๆ แล้วแวมไพร์เหล่านี้ไม่ได้มีชีวิตเป็นอมตะ ต้องฆ่าด้วยกระสุนเงินหรือใช้หลักปักหน้าอก ไม่มีเขี้ยวคมกริบหรือแปลงกายเป็นค้างคาวได้ เพราะจริงๆ แล้ว “ผีดิบ” ที่ว่านี้คือมนุษย์ธรรมดาที่หลงใหลวิถีชีวิตแบบผีดิบ แต่เพื่อความสมจริงจึงดำรงชีพด้วยการดื่มเลือดสัตว์และมนุษย์ แถมยังต้องการ “กระแสจิต” จากมนุษย์ที่บริจาคเลือดให้อีกเพื่อเติมพลังชีวิตให้เต็มเปี่ยม

บราวนิง เผยว่า แวมไพร์เหล่านี้มีอยู่หลายพื้นที่ทั่วโลก ทั้งในรัสเซีย สหรัฐ อังกฤษ หรือแม้แต่ในแอฟริกาใต้ และอาจจัดเป็นกลุ่มวัฒนธรรมย่อยๆ แต่มักเก็บตัวจากโลกภายนอก ไม่สุงสิงกับมนุษย์ทั่วไป เพราะกลัวว่าจะถูกเหยียดหยามจากคนในสังคม แต่ “บางตน” ก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมโลกอย่างแนบเนียน

สำหรับชีวิตประจำวันของแวมไพร์ นักวิชาการจาก GIT ให้รายละเอียดว่า ส่วนใหญ่จะไม่เหมือนในภาพยนตร์ที่มักให้ภาพผีดิบที่โหดร้ายเจ้าเล่ห์ ต้องนอนโลงศพ หรือมีเขี้ยวยาวสีขาว กระนั้นก็ตาม บางรายก็นอนโลงศพจริงๆ และมีเขี้ยวจริงๆ แถมยังเผยด้วยว่า รสชาติเลือดของมนุษย์คล้ายกับน้ำเจือด้วยโลหะ แต่อัตราความเข้มเข้นของรสชาติแตกต่างไปตามสุขภาพของผู้บริจาคเลือดให้พวกเขาสวาปาม

อีกวิธีในการรับพลังชีวิต คือการร่วมเพศด้วยพิธีการอันซับซ้อน หรือรับ “พลังทิพย์” หรือ “พลังภายใน” ที่มิตรสหายร่วมเผ่าพันธุ์ส่งมาให้ โดยหลังจากได้รับการส่งถ่ายพลังแล้ว พวกเขาจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าดำรงชีพด้วยอาหารที่มนุษย์ทั่วไปรับประทานกัน (แน่นอนว่านอกจากเลือดและพลังที่มองไม่เห็น แวมไพร์ก็กินข้าวปลาเหมือนเราๆ เช่นกัน)

ทั้งนี้ บราวนิง กล่าวว่า จากการค้นคว้าวัฒนธรรมแวมไพร์ในนิวออร์ลีนส์ พบว่ามีคนกลุ่มนี้ราว 35 ราย ช่วงอายุระหว่าง 18-35 ปี มีทั้งที่ไม่นับถือศาสนาและนับถือศาสนา และมีครอบครัวกับครองตัวเป็นโสด

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้อ่านรายงานของนักวิชาการจาก GIT ต่างแสดงความเห็นต่างๆ กันไป บ้างก็ว่าแวมไพร์เหล่านี้เป็นแค่วิถีชีวิตนอกกรอบอย่างหนึ่ง บ้างก็กังวลกับการดื่มเลือดสดๆ จนอาจติดเชื้อโรค และส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติทางจิตเสียมากกว่า

เรื่องน่าสนใจ