ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

เมื่อไม่นานมานี้ สมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า โย โย เจ้าคุณน้อย ได้เผยแพร่ภาพถ่าย จิ้งจกสีแดง พร้อมระบุข้อความว่า “จิ้งจก ตัวสีแดงทั้งตัว ก่อนหน้านี้มันอยู่ในบ้านผมครับ อยู่ได้สักพักแระ แต่เมื่อเช้า ได้ตายอยู่ในอ่างล้างจานครับ (ขอเน้นครับ ไม่ได้เอาสีมาทามันแน่นอน เพราะทำแบบนั้น ก็สร้างบาปกับตัวเอง)”

EyWwB5WU57MYnKOuXuXQO3P803eJ1rBdjgCZb2HNlMaFAGSGDRqFVy

หลังจากภาพนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางส่วนลงความเห็นว่า เป็นการปรับเปลี่ยนสีผิวไปตามสภาพแวดล้อมของจิ้งจกเท่านั้น ขณะที่บางส่วนเดาว่า จิ้งจกอาจจะมากินน้ำแดงที่ไว้ใช้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และตกลงไปในขวด จนตัวกลายเป็นสีแดงอย่างที่เห็น นอกจากนี้ยังมีบางรายบอกว่า จิ้งจกกินน้ำแดงเข้าไป ตัวจึงเปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดง ถ้าไม่ใช่ก็คงเป็นเพียงจิ้งจกที่ถูกทาสีเท่านั้น

จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เคยมีชาวบ้านพบจิ้งจกสีแดงในขณะที่ยังมีชีวิต ที่จังหวัดสุโขทัย และอีกตัวหนึ่งที่พระนครศรีอุยธยา มันมีผิวหนังสีแดงทั้งตัว นิ้วตีนทั้งสี่ข้างต่างมี 5 นิ้ว ท่าทางเคลื่อนที่ช้า ซึ่งชาวบ้านได้นำมาใส่ไว้ในตู้กระจก ผู้คนจึงต่างพากันเดินทางมาดู บางรายก็นำเอาไปตีเป็นเลขเด็ด ในขณะนั้นกลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่ว ซึ่งนักวิชาการเองก็เคยออกมาให้ความเห็นว่าจิ้งจกสีแดงอาจเกิดจากการกลายพันธุ์

(@โย โย เจ้าคุณน้อย)_เล่าว่า: …จิ้งจก ตัวสีแดงทั้งตัว ก่อนหน้านี้มันอยู่ในบ้านผมครับ อยู่ได้สักพักแระ แต่เมื่อเช้า ใัน…

Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on Tuesday, July 14, 2015

จากการสอบถามข้อมูลจาก รศ.ดร.สมโภชน์ ศรีโกสามาตร อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลว่า จิ้งจกสีแดงในภาพที่แชร์กันอยู่นี้ไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากสีบนตัวจิ้งจกไม่ใช่สีที่เกิดจากธรรมชาติ ซึ่งสังเกตได้จากบริเวณผิวหนัง

ตามปกติแล้วจิ้งจกอาจมีการลอกผิวหนังที่ตายแล้วและทดแทนด้วยผิวใหม่ ทำให้ผิวเป็นสีแดงได้ โดยจะลอกพร้อมกันทั้งตัว แต่กรณีข้างต้นสีแดงบริเวณลำตัวทั้งด้านบนและด้านล่างของจิ้งจกไม่เสมอกัน จึงสรุปได้ว่าเป็นขบวนการเปลี่ยนสีที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ผู้โพสต์อาจไม่ได้เป็นคนทำขึ้น แต่อาจเจอจิ้งจกตัวนี้ด้วยความบังเอิญ หรือมันอาจตกไปในบริเวณที่มีสีดังกล่าว ทำให้จิ้งจกเปลี่ยนเป็นสีแดงได้

เรื่องน่าสนใจ